บิ๊กเน สวน กรรมการสิทธิมนุษยชน กรณี จับโจ๋ ขึ้นสังเวียนมวย! (มีคลิป)

กรณีเกิดเหตุการณ์ในงานสงกรานต์ “มิวสิค เฟสติวัล GU 12 ใหญ่กว่า มันส์มาก” ซึ่งจัดโดยสโมสร “ปราสาทสายฟ้า”บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จัดขึ้นวันที่ 13-14 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่บริเวณสนามนิว ไอ-โมบาย สเตเดี้ยม ซึ่งวันที่ 13 เม.ย. นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรได้นำกลุ่มวัยรุ้นที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทในงานคืนวันดังกล่าวขึ้นสังเวียนชกกับเหล่านักมวยไทยอาชีพที่ได้เตรียมไว้ ก่อนจะมีคลิปวิดีโอเผยแพร่ในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง จนกระทั่ง นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกมาแสดงความเห็นและวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำดังกล่าวว่า เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพและการละเมิดสิทธิความเป็นมนุษย์

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด เมื่อเย็น วันที่ 17 เม.ย. นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกแถลงการณ์ผ่านเว็ปไซต์อย่างเป็นทางการของสโมสร www.buriramunited.co.th ชี้แจงต่อกรณีดังกล่าวระบุว่า กิจกรรมงานสงกรานต์ที่สโมสรจัดขึ้นตลอด 4 ปีมีผู้เข้าร่วมกว่า 100,000 คน ซึ่งนับว่ามีผู้เข้าร่วมงานมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ซึ่งจากประสบการณ์ทุกปีนั้น เราเห็นว่าคนเหล่านี้ไม่ยอมรับกติกา และไม่เห็นกฏหมายอยู่ในสายตา แต่จะเกรงกลัวกับการถูกลงโทษทางสังคมมากกว่า จึงดำเนินการที่เห็นว่าเหมาะสมตามรูปแบบของเรา และได้แจ้งให้ทุกคนที่เข้าร่วมงานทราบล่าวงหน้าแล้วว่า ถ้าทะเลาะวิวาทจะได้รับผลอย่างไร ทั้งทางสังคม และทางกฏหมาย

ขณะเดียวกัน การเข้าร่วมงานของเราก็เปิดให้เข้าชมฟรี โดยมีเพียงเงื่อนไขดังกล่าวที่ขอให้ทุกคนเคารพกติกาดังกล่าว ซึ่งผู้ที่ไม่พอใจก็สามารถออกจากงานได้ อย่างไรก็ตามผู้ก่อกวนทะเลาะวิวาทในงานคืนวันที่ 13 เม.ย. ซึ่งถูกจับให้ขึ้นชกบนเวทีมวยทุกคน ได้รับการป้องกันอันตรายด้วยการสวมนวมเหมือนนักมวยทั่วไป และเมื่อลงจากเวทีแล้ว ก็ถูกส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการทางกฎหมายต่อไป ซึ่งส่งผลให้บรรยากาศในงานวันที่ 14 เม.ย.ไม่มีผู้เข้ามาก่อเหตุทะเลาะวิวาทอีก ทั้งนี้ขอยืนยันว่าเราดำเนินการตามกฎกติกาของทีม และกฎหมาย โดยขอย้ำว่าผู้กระทำผิดจะต้องรับการลงโทษ และขอให้ผู้วิพากษ์วิจารณ์ปกป้องคนกระทำความปิด คำนึงถึงสิทธิของสโมสรฯ ในฐานะผู้จัดงาน และสิทธิของผู้เข้าชมงานคนอื่น ๆที่ถูกกระทำความผิดละเมิดด้วย

“สังคมไทยทุกวันนี้ คนบางส่วนที่ก่อปัญหาให้ส่วนรวม เป็นคนที่ไม่เคารพกฎหมาย ไม่เคารพกติกา ไม่เคารพสิทธิของผู้อื่น และละเมิดสิทธิของผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย การดำเนินการกับคนที่ก่อปัญหาให้กับสังคมเหล่านี้ นอกจากจะใช้วิธีการทางกฎหมายแล้ว ต้องมีมาตรการทางสังคมควบคู่ไปด้วย คนพวกนี้ไม่เคยเข็ดหลาบ กับมาตรการทางกฎหมายที่อ่อนแอ และไม่เกรงกลัวกฎหมาย เนื่องจากมีผู้คอยปกป้องทั้ง ๆ ที่เป็นผู้กระทำผิด ทำให้คนในสังคมส่วนใหญ่ ได้รับความเดือดร้อนเสียหาย”

ภาพประกอบ จาก อินเตอร์เน็ต
คลิป จากยูทูป
ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก เดลินิวส์ออนไลน์
วันที่ 18 เม.ย.2557 เวลา 13.00น.