เกมระหว่างแมนยู พบ เลสเตอร์ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจบลงด้วยชัยชนะของทีมปีศาจแดงแมนยูไนเต็ดด้วยสกอร์ขาดลอย 3-0 มีประเด็นไหนให้พูดถึงบ้างมาติดตามไปพร้อมกัน1 เมื่อความมหัศจรรย์รักษาความเชื่อมั่นให้ทีมเอาไว้ช่วงเริ่มครึ่งเวลาแรก เลสเตอร์ซิตี้ ครองเกมบุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่องและมีจังหวะที่จะได้ประตูอย่างน้อยถึง 3 ครั้งแต่เป็น ดาบิด เดเคอา ป้องกันไว้ได้ทั้งที่เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนเขาเพิ่งทำสถิติลงเล่นครบ 400 นัดที่เร็วที่สุดในตำแหน่งผู้รักษาประตู การไม่เสียประตูก่อนในจังหวะต่อเนื่องในเกมนี้ ทำให้เหมือนยังรักษาความได้เปรียบอยู่ให้กับทีม จนมาถึงการได้ประตูแรกในจังหวะทำประตูตรงกรอบครั้งแรกในเกมของมาร์คัส รัชฟอร์ด ทำให้โมเมนต์ตัมของ เกมเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง 2 การทำหน้าที่ในแดนกลางไม่มีขาดตกบกพร่อง การขาดหายไปของกองกลางตัวหลักของทีมอย่างคริสเตียน อิริคเซ่น และ คาเซมิโร่ ด้วยอาการบาดเจ็บและโทษแบน สร้างความกังวลให้กับแฟนๆของทัพปีศาจแดง และความหนักใจให้กับตัวกุนซืออย่างเอริค เทนฮาก ในการจัดทัพสู้ศึกในแต่ละเกม การจับคู่กันระหว่าง เฟร็ด และ มาร์เซล ซาบิทเซอร์ ที่ประสานงานกันได้ลงตัวมากประกอบการ ถอยเอา บรูโน่ เฟอร์นันเดซมาเล่นในตำแหน่งที่เขาถนัดคือกองกลางตัวรุกทำให้ทีมมีวิสัยทัศน์ในการออกบอลมากขึ้น ทุกการเข้าสกัดกั้นมีความหมายทั้งหมดรวมถึงเฟร็ด ที่ทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมทั้งการช่วยชะลอเกมรุกของเลสเตอร์ซิตี้ และออกบิลเปลี่ยนจังหวะให้ทีมเปิดเกมรุกได้อย่างรวดเร็วสังเกตได้จากประตูที่สองที่ทีมได้จาก มาร์คัส รัชฟอร์ดคือการผ่านบอล จากเฟร็ดนั้นเอง 3.ผู้เล่นที่ได้รับโอกาสอีกครั้งโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด มีโปรแกรมหนักในช่วงกลางสัปดาห์ในการต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนยอดทีมแดนกระทิงดุอย่าง บาร์เซโลน่า เอริค เทนฮาก จึงจำเป็นต้องมีการปรับทัพเพื่อโรเตชั่นนักเตะในทีมเพื่อรักษา สภาพความฟิตของผู้เล่นบางราย และให้โอกาสผู้เล่นสำรองได้เรียกฟอร์มกลับมาอีกครั้งการลงสนามของ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่จับคู่กับ ลิซานโดร มาร์ติเนซในเกมนี้ ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมมาก กองหลังหมายเลขสองมีสถิติเข้าสกัดแย่งบอลกลับมาได้ 4 ครั้งชนะการดวลกลางอากาศ 4 ครั้งชนะ 4 ครั้งถือว่าโดดเด่นมากและการประสานงานกับลิซานโดร มาร์ติเนซ ทำให้ทีมเก็บคลีนซีตได้ และทำให้การแข่งขันภายในทีมจะมีความเข้มข้นมากขึ้นเพื่อโอกาสในการลงสนาม 4.ความมั่นใจของแนวรุกคือกุญแจสำคัญในการพิชิตชัยจะไม่พูดถึงก็มิได้ความร้อนแรงของ มาร์คัส รัชฟอร์ดที่ทำประตูได้อย่างต่อเนื่องซึ่งผิดกับฤดูกาลก่อนอย่างสิ้นเชิงทึ่เขาทำประตูในลีกเพียง 4 ประตูเท่านั้น และดูเหมือนดาวยิงทีมชาติอังกฤษจะคืนฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ ส่วนในแดนกลางความมั่นใจของ บรูโน่ เฟอร์นันเดซกลับมาอีกครั้งและได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมยาวๆหลังจากที่ ทีมดร็อป แฮร์รี่ แม็คไกวร์กัปตันทีมตัวจริงไว้เป็นตัวสำรอง โดยเกมนี้เขาทำ สองแอสซิสต์ในเกมเดียว และเป็นแอสซิสต์ครั้งที่6ของเจ้าตัว เทียบเท่ากับฤดูกาลก่อนแล้วและมีโอกาสจะเพิ่มขึ้นในฤดูกาลนี้ 5.โอกาสของดาวรุ่งและจุดที่ต้องแก้ไข ในช่วงท้ายครึ่งเวลาหลัง เอริค เทนฮาก เลือกส่งดาวรุ่งวัย 17 ปี ที่เพิ่งต่อสัญญายาวกับทีมอย่าง ค็อบบี้ ไมนูได้โอกาส ประเดิมสนามในทีมชุดใหญ่ในนาทีที่ 80 แทนกองกลางรุ่นพี่อย่างมาร์เซล ซาบิทเซอร์ และมีจังหวะประสานงานกับรุ่นพี่ในทีม และต้องติดตามว่าเขาจะมีโอกาสได้เติบโตในเส้นทางอาชีพแบบที่ รุ่นพี่อย่าง อาเลฮานโด การ์นาโช่ ที่มีชื่อในทีมชุดใหญ่อย่างเต็มตัวแล้ว แต่ ในเกมนี้ของปีกดาวรุ่งอาเจนติน่ารายนี้ได้รับโอกาสเป็นตัวจริงครั้งแรกในเกมนี้ และยังต้องปรับปรุงในบางจุดบางจังหวะกับเพื่อนร่วมทีม และเหมือนว่าเขายังเหมาะกับบทบาทในการพลิกเกมให้กับทีมมากกว่าแต่เขายังมีเวลาในการจะพัฒนาต่อไปยังมีเกมสำคัญให้เอริค เทนฮาก ในสุดสัปดาห์นี้ทั้งในเกมถ้วยเล็กในยุโรปอย่าง ยูโรป้าลีกเกมกับบาร์เซโลน่านัดที่สอง และโอกาสลุ้นความสำเร็จในถ้วยรางวัลใบแรกกับการชิงชนะเลิศถ้วยลีกคัพหรือตามชื่อสปอนเซอร์อย่าง คาราบาวคัพ กับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ดชัยชนะนัดนี้จึงเป็นการเรียกความมั่นใจให้พวกเขาก่อนศึกใหญ่จะมาถึงอ้างอิงภาพประกอบTwitter/Manchester united/ ภาพปก1 , ภาพปก2 , ภาพปก3 ภาพที่ 3 , 5 , 6Twitter/Premier League/ภาพที่ 1 , 7Twitter/David de Gea/ภาพที่ 2Twitter/victor lindelöf/ ภาพที่ 4Community ฟุตบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์