เจอร์เก้น คล็อปป์ คือโค้ชของลิเวอร์พูล กุนซือชาวเยอรมันรายนี้เข้ามาคุมทีมลิเวอร์พูลมา7-8ปีแล้วนะครับ ตั้งแต่2015จนถึงปัจจุบัน ในปี2015 วันที่4ตุลาคม หลังจากศึกเมอร์ซีย์ไซด์ดาบี ระหว่างลิเวอร์พูลกับเอฟเวอร์ตัน ผลคือเสมอ1-1 ลิเวอร์พูลได้ทำการปลด เบรนดัน ร็อดเจอส์โค้ชของลิเวอร์พูลในเวลานั้น หลังจากนั้นก็ได้ทำการประกาศแต่งตั้ง เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่มีดีกรีถึงการโค่นบาเยิร์น มิวนิก พาดอรท์มุนด์ คว้าแชมป์บุนเดสลีกา2สมัยติด และคว้าแชมป์บอลถ้วยเดเอ็ฟเบโพคาบ โดยถล่มบาเยิร์นในนัดชิง5-2 ทั้งนี้ทำให้แฟนลิเวอร์พูลมีความหวังว่าผู้ชายจากเยอรมันคนนี้จะพาสโมสรกลับไปสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง เจอร์เก้น คล็อปป์ เข้ามาในสโมสรพร้อมกับแทคติก”เกเกนเพรสซิ่ง”คือแทคติกที่เมื่อเสียการครอบครองบอล นักเตะทุกคนจะช่วยกันวิ่งไล่บีบ เพื่อแย่งบอลให้เร็วที่สุดการเพรสซิ่ง มีประโยชน์ทั้งในเกมรุกและรับ เนื่องจากการเข้าเพรสซิ่งทันทีที่เสียบอลจะเป็นการหยุดการสวนกลับของคู่แข่ง และหากแย่งบอลกลับมาได้ ก็จะได้โอกาสเล่นเกมรุกในขณะที่คู่แข่งไม่อยู่ใน “โครงสร้างเกมรับ” ส่งผลให้มีโอกาสเข้าทำมากขึ้น ด้วยแทคติกนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์พาลิเวอร์พูลกลับมายิ่งใหญ่ขึ้น ประสบความสำเร็จมากมาย และคว้ามาถึง4แชมป์ ในบทความนี้ผมจะพาไปย้อนรอยแชมป์4แชมป์ใน การคุมทีม ของชายชาวเยอรมันคนนี้ ”เจอร์เก้น คล็อปป์”แชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกฤดูกาล2018-2019ลิเวอร์พูลจับฉลากอยู่กลุ่มCร่วมกับ ปารีส นาโปลี เร้ด สตาร์ เบลเกรด | ลิเวอร์พูลสะดุดแพ้ปารีสนัดที่2(2-1) และแพ้นาโปลีนัดที่1(1-0) ซึ่งเป็นเรื่องเข้าใจได้ แต่ที่ไม่น่าให้อภัยได้คือ การแพ้เร้ด สตาร์ เบลเกรดนัดที่2(2-0) ทำให้ต้องลุ้นถึงนัดสุดท้าย ที่เปิดบ้านเจอนาโปลี เกมเล่นกันมัน โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ โชว์ฟอร์มร้อนแรง เผาเครื่องคูลิบาลีและหลุดเข้าไปยิงลอดขาผู้รักษาประตูนาโปลี เป็นประตูชัย(1-0) อีกหนึ่งอย่างที่น่าชื่นชมคือ “อลิซอน เบ็คเกอร์”ผู้รักษาประตูป้ายแดงที่ซื้อมาจากโรม่า เกมนี้ถือว่าช่วยลิเวอร์พูลไว้เยอะมากมีจังหวะเซฟมหัศจรรย์ ถือว่าคล็อปป์แก้ปัญหาได้ตรงจุดในการเซ็นสัญญา “อลิซอน”เข้ารอบ16ทีม เจอกับบาเยิร์นมิวนิก(เยอรมัน) เข้ารอบด้วยสกอร์รวม(3-1) เข้ารอบ8ทีม เจอกับปอร์โต้(โปรตุเกส) เข้ารอบ ด้วยสกอร์รวม(6-1)เข้ารอบ4ทีม เจอกับบาร์ซา(สเปน)เข้ารอบด้วยสกอร์รวม4-3 ซึ่งในนัดแรกลิเวอร์พูลแพ้บาซ่าในการไปเยือนคัมป์นู4-0 ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากมากถ้าลิเวอร์พูลจะพลิกเข้ารอบ ยิ่งด้วยลิเวอร์พูลต้องมาเสีย2แข้งตัวรุกคนสำคัญอย่างซาลาห์และฟีร์มีโน่ ยิ่งตอกย้ำความยากของลิเวอร์พูลในการพลิกเข้ารอบ แต่สุดท้ายลิเวอร์พูลก็พลิกนรกชนะในบาซ่าในนัด2 (4-0) จาก2ประตูของโอริกี้ และ2ประตูจากตัวสำรองอย่าง ไวจ์นัลดุม แสดงถึงความไม่ยอมแพ้ของเจอร์เก้น คล็อปป์และลูกทีมรวมถึงแฟนบอลที่ส่งเสียงตะโกนเชียร์ทีมไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นและในนัดชิงชนะเลิศ เจอกับสเปอร์ส โดยลิเวอร์พูลออกนำเร็วจากจุดโทษของซาลาห์นาทีที่1 และปิดท้ายด้วยโอริกี้ลงมายิงท้ายเกมนาทีที่87 เกมรับของลิเวอร์พูลในเกมนี้ทำผลงานได้ดี ฟานไดจ์ จัดการเก็บแฮรรี่เคนและซอน เฮืองมินได้อยู่หมัด อลิซอนนัดนี้โชว์เซฟไป8ครั้ง และสุดท้ายก็เอาชนะไป2-0 คว้าแชมป์อย่างยิ่งใหญ่2แชมป์ยูฟ่าซุปเปอร์คัพลิเวอร์พูล7-6เชลซีนี่คือถ้วยที่นำแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก(ลิเวอร์พูล) มาเจอกับแชมป์ยูโรป้าลีก(เชลซี) เริ่มเกมโดย โอลิวิเย่ ชิรูด์ ยิงให้เชลซีขึ้นนำในนาที36(1-0) มาเน่ตีเสมอในนาที48(1-1) ต่อเวลาพิเศษ มาเน่ยิงให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำ1-2 แต่จอร์จินโญ่ ก็ยิงจุดโทษตีเสมอ2-2 ทำให้ต้องตัดสินด้วยการยิงลูกโทษ 5คนของลิเวอร์พูลยิงเข้าหมด จนมาถึงคนที่5ของเชลซี แทมมี่ อับราฮัม ยิงไปติดขาอาเดรียน ผู้รักษาประตูของลิเวอร์พูลที่พึ่งเซ็นสัญญามาเป็นมือ2 และก็สามารถเซฟจุดโทษจนพาทีมค้าแชมป์3แชมป์ฟีฟ่าคลับเวิร์ดคัพ(แชมป์สโมสรโลก)นี้คือถ้วยที่นำแชมป์สโมสรของแต่ละทวีปและเจ้าภาพมาเจอกันเพื่อหาแชมป์สโมสรโลก ลิเวอร์พูลเข้าร่วมในฐานะแชมป์แห่งยุโรป เกมแรกลิเวอร์พูลเจอกับมอนสเตอร์เรย์จากทวีปอเมริกาเหนือ เอาชนะด้วยสกอร์2-1 เกอิต้า นาที12 ฟีรมิโน่ นาที90 เข้ารอบชิง ไปเจอกับฟลาเมงโก้จากทวีปอเมริกาใต้ ในเกมนั้นบดขยี้กันที่แดนกลาง แต่รูปเกมลิเวอร์พูลดูเป็นรองฟลาเมงโก้ เกมเสมอกันจนต้องทดเวลาพิเศษ และในที่สุดก็เป็นฟีรมีโน่ยิงประตูชัยนาที99 เอาชนะด้วยสกอร์1-0 คว้าแชมป์สโมสรโลก เจอร์เก้น คล็อปป์ คือโค้ชของลิเวอร์พูลคนแรกที่พาทีคว้าแชมป์ฟีฟ่าคลับเวิร์ดคัพ4แชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล2019-2020ลิเวอร์พูลเริ่มต้นฤดูกาลด้วยการเจอกับทีมน้องใหม่ที่พึ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา อย่างนอริชซิตี้ สุดท้ายเอาชนะไป4-1 แฮนลีย์(ทำเข้าประตูตัวเอง) นาที7 ซาลาห์ นาที19 ฟานไดจ์ค นาที28 โอริกี้ นาที42 |จบนัดแรกลิเวอร์พูลขึ้นอันดับ3 อันดับ2คือแมนยูที่ชนะเชลซี4-0 อันดับ1คือแมนซิตี้ที่ชนะเวสต์แฮม0-5 |นัดที่2 ลิเวอร์พูลออกไปเยือนเซาท์แธมป์ตัน เฉือนไป1-2 ส่วนทีมจากแมนเชสเตอร์ อย่างซิตี้และยูไนเต็ด ไปสะดุด แมนยูออกไปเยือนวูฟส์ เสมอ1-1 และแมนซิตี้เปิดบ้านเสมอกับเสปอร์ส2-2 ทำให้ลิเวอร์พูลพุ่งขึ้นจ่าฝูง ต่อมาลิเวอร์พูลก็เริ่มติดปีกเก็บชนะเรื่อยๆ จนมาถึงนัดที่9 นัดแดงเดือดที่ต้องเจอแมนยู โดยการต้องออกไปเยือน โอแทรฟฟรอด์ โดยผลงานของเจ้าบ้านนั้นไม่ดี 3นัดล่าสุดแพ้2เสมอ1 ลิเวอร์พูลมีความมั่นใจมากในการเอาชนะแมนยู แต่กลายเป็นแมนยูไนเต็ด ขึ้นนำจาก แรชฟอร์ด น.36 ลิเวอร์พูลตีเสมอจากลัลลาน่า น.85 จบเกมเสมอ1-1 แต่ลิเวอร์พูลยังยึดตำแหน่งจ่าฝูงอย่างเหนียวแน่น ลิเวอร์พูลก็ยังเก็บชัยชนะอย่างต่อเนื่อง ไม่มีสะดุดเลย จนถึงนัด29 ลิเวอร์พูลชนะบอร์นมัธ 2-1 หลังจากนั้น การแข่งขันพรีเมียร์ลีกต้องหยุดการแข่งขัน เนื่องการระบาดของโควิด19 ต้องหยุดนานถึง3เดือน บางครั้งก็มีกระแสข่าวว่า พรีเมียร์ลีกที่แข่งขันมาจะกลายเป็นโมฆะ แต่ไม่เป็นอย่างงั้น ลิเวอร์พูลต้องการอีก6แต้มเพื่อทำให้แต้มขาด ลิเวอร์พูลออกสตาร์ทหลังจากพักลีกเนื่องจากโควิด19ด้วยการเสมอเอฟเวอร์ตัน0-0 ต่อมาก็เอาชนะคลิสตันพาเลซ4-0 เหลืออีก2แต้ม แค่ชนะอีก1หนึ่งนัด แต่เชลซีก็สามารถชนะแมนซิตี้ไป2-1ทำให้แต้มขาดทันที ลิเวอร์เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างเป็นทางการ ซึ่งเหลืออีก6นัดที่เหลือ ในนัดที่37ลิเวอร์พูลเจอเชลซี ทีมที่ช่วยตัดแต้มให้ ลิเวอร์พูลเอาชนะไป5-3 ชูถ้วยแชมป์อย่างยิ่งใหญ่ น่าเสียดายที่โควิดพรากไม่ให้แฟนบอลเข้ามาฉลองในสนาม แชมป์พรีเมียร์ลีกที่แฟนลิเวอร์พูลรอคอยมา30ปี ถือว่าเป็นฤดูกาลที่ยิ่งใหญ่สำหรับพลพรรคหงส์แดง อาจเรียกได้เลยว่านี้คือผลงานที่ดีที่สุด ลิเวอร์พูลเก็บชัยชนะเรื่อยๆจนคิดได้ถึงแชมป์ไร้พ่ายแต่มันไม่เกิดขึ้น และเจอร์เก้น คล็อปป์คือโค้ชคนแรกของลิเวอร์พูลที่พาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ต้องขอบคุณคล็อปป์ในการเข้ามาเปลี่ยนแปลงทีมจนพาลิเวอร์พูลกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งในฤดูกาล2021-2022 ในตอนที่บทความนี้ถูกเขียนขึ้น ลิเวอร์พูลยังอยู่ในเส้นทางแชมป์ของทุกรายการที่ลงเล่น พรีเมียร์ลีกอยู่อันดับ2 ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกเข้ารอบ16ทีม คาราบาวคัพเข้ารอบชิงชนะเลิศ เอฟเอคัพเข้ารอบ4 มารอดูกันว่า เจอร์เก้น คล็อปป์จะพาประสบความสำเร็จกี่รายการเขียนโดย: ฮาฟีย์ภาพทั้งหมดโดย:ฮาฟีย์ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !