สำหรับผลงานแข่งขัน 0-2 ที่ "ขุนค้อน" แวสต์แฮม ยูไนเต็ดเปิดบ้านพ่ายต่อ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ในเกมแรกในศึกพรีเมียร์ลีกของทั้งสองทีมนั้นแทบจะไม่เป็นที่พูดถึงเลย เพราะสปอตไลท์ทุกดวงนั้นล้วนแต่ส่องไปที่ "เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์" ที่เป็นคนยิงทั้งสองประตูให้กับแมนซิตี้ เป็นการเปิดตัวในฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยประตูขึ้นนำมาจากจุดโทษที่เจ้าตัวเป็นคนเรียกจุดโทษและรับหน้าที่สังหารเอง ก่อนที่จะมาบวกสกอร์ปิดท้ายจากลูกหลุดเดี่ยวและยิงเข้าไปอย่างเฉียบคม ทำให้ดูเหมือนว่าตอนนี้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้นำเข้าปีศาจคนใหม่มายังศึกพรีเมียร์ อังกฤษเป็นที่เรียบร้อยแล้วเป็นที่ทราบกันดีว่าทีมเรือใบสีฟ้านั้นปิดดีลคว้าตัวเออร์ลิง ฮาแลนด์ กองหน้าของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์มาได้ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาด้วยด้วยจำนวนเงิน 51 ล้านปอนด์ พ่วงด้วยสัญญาระยะยาว 5 ปี และตามรายงานของนักข่าวคนดังแห่งยุคอย่าง "ฟาบริซิโอ โรมาโน" ได้บอกว่าแมนซิตี้มอบค่าเหนื่อยให้กับกองหน้าวัย 22 ปีคนนี้ถึง 375,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ เป็นรองเพียงเควิน เดอ บรอยน์ที่รับอยู่ 400,000 ปอนด์และอย่างที่ทราบอีกเช่นกันครับว่าเออร์ลิง ฮาแลนด์เป็นลูกชายของ "อัลฟ์ อิงเก ฮาแลนด์" อดีตนักเตะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จึงไม่เป็นที่แปลกใจซักเท่าไหร่จะฮาแลนด์จะเลือกทีมเรือใบ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ก็มีหลายทีมรุมจีบให้ย้ายมาร่วมทีม เพราะช่วงเวลาที่ฮาแลนด์คนพ่อค้าแข้งกับแมนซิตี้ก็คือช่วงเวลาที่เออร์ลิงลืมตาดูโลกพอดี จึงทำให้อาจจะเกิดความผูกพันและเลือกที่ย้ายมายังสโมสรเก่าของคุณพ่อหลังจากที่มีการประกาศคว้าตัวอย่างเป็นทางการ (10 พ.ค.) แมนซิตี้ต้องออกไปเยือนเวสต์แฮม (15 พ.ค.) โดยจะเป็นเกมอำลาเกมในบ้านนัดสุดท้ายของ "มาร์ค โนเบิล" สุดยอดกัปตันวันคลับแมนของทีมขุนค้อน โดยช่วงโนเบิลให้สัมภาษณ์หลังจบเกมแบบติดตลกว่า"ผมเพิ่งคุยกับ เคร็ก ดอว์สัน (เซ็นเตอร์เพื่อนร่วมทีม) ว่าผมคงมีความสุขไม่น้อยกับการไปนอนอาบแดดในปีหน้า และดูเขาต้องเจอกับ ฮาแลนด์ ผมคงขำกลิ้งเลยแหละ"นี่เป็นเหมือนการเตือนกลายๆว่าทั้งดอว์สันและกองหลังทีมอื่นๆ ในพรีเมียร์ลีกว่าระวังและเตรียมรับมือเจ้าหนูฉายา "จอมมารบู" คนนี้ให้ดี มิเช่นนั้นได้โดนฮาแลนด์เล่นงานจนหัวหมุนแน่ๆโดยเกมแรกของฮาแลนด์กับซิตี้นั้นก็เปิดตัวได้อย่างสวยงาม โดยเป็นเกมอุ่นเครื่องที่ต้องดวลกับ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งเจ้าตัวก็ใช้เวลาเพียง 12 นาทีก็จัดการซัดประตูให้ต้นสังกัดใหม่ได้เลย และเป็นประตูชัยให้ทีมเรือใบชนะเสือใต้ไปด้วยสกอร์ 1-0 แต่นั่นก็เป็นเกมอุ่นเครื่องเพียงเกมเดียวของฮาแลนด์ ส่วนเกมแรกของฮาแลนด์กับแมนซิตี้บนแผ่นดินอังกฤษก็คือ เกมคอมมูนิตี้ ชิลด์ ที่ซิตี้ในฐานะแชมป์พรีเมียร์ลีก พบกับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทีมแชมป์เอฟเอ คัพ ซึ่งผลการแข่งขันนั้นก็จบลงด้วยการปราชัยต่อลิเวอร์พูล 1-3 โดยที่ตลอดเกม 90 นาที ฮาแลนด์ก็มีจังหวะในการทำประตูเหมือนกันแต่ก็พลาดไปหมด โดยเฉพาะจังหวะสุดท้ายที่เจ้าตัวซ้ำลูกยิงของเพื่อนร่วมทีมแบบจ่อๆ แต่ดันเหมือนจะเน้นเกินไปหน่อยทำให้บอลพุ่งไปชนคานข้ามประตูไป ทำให้เกิดเป็น meme ล้อในโลกอินเตอร์เน็ต แต่ทุกคนอาจจะลืมไปว่าฮาแลนด์นั้นพึ่งได้ลงสนามให้กับแมนซิตี้รวมเกมคอมมูนิตี้ ชิลด์นี้เพียงแค่ 2 นัดเองจนมาถึงพรีเมียร์ลีกเกมแรกของแมนซิตี้ คือการต้องออกไปเยือนเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ซึ่งเป๊ป กวาร์ดิโอลาก็จัดการส่งฮาแลนด์ลงสนามเป็น 11 ตัวจริงโดยให้เล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า หมายเลข 9 และก่อนเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรกเพียง 10 นาที กองหน้าคนใหม่ของทัพเรือใบก็จัดการแผลงฤทธิ์โชว์สปีดความเร็วในวิ่งทะลุไลน์กองหลังของทีมขุนค้อนไปรับบอลที่ถูกจ่ายมาจากอิลคาย กุนโดกันก่อนที่จะถูกอัลฟงส์ อาเรโอลาทำฟาล์วในกรอบเขตโทษจนทำให้เวสต์แฮมเสียจุดโทษ และเป็นฮาแลนด์ที่ลุกขึ้นมารับหน้าที่สังหารเข้าไปแบบเฉียบคม มาต่อในเกมครึ่งหลัง ในนาที 65 คู่หูนรกคู่ใหม่อย่าง "เดอ บรอยน์ & ฮาแลนด์" ก็เกิดขึ้นแล้วตามความคาดหมายตั้งแต่มีข่าวว่าเรือใบคว้าตัวฮาแลนด์มาได้ เพราะเดอ บรอยน์ที่รับบอลมาจากโรดรี้ จัดการจ่ายบอลทะเลุช่องแบบ Killer Pass ไปให้ฮาแลนด์ที่วิ่งเลี้ยงไลน์กองหลังเวสต์แฮมหลุดเข้าไปยิงเข้าไปแบบคมกริบ กลายเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมเปิดตัวอย่างเป็นทางในลีกอังกฤษ ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 78 ทำให้หมดโอกาสการทำแฮตทริก และจบเกมด้วยการที่เรือใบสีฟ้าบุกมาชนะทีมขุนค้อนถึงถิ่น 0-2 จากการเบิ้ลคนเดียวของเออร์ลิง ฮาแลนด์ เป็นการเปิดตัวในฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษได้อย่างสวยงามสุดๆเวสต์แฮม VS แมนซิตี้ : คลิปไฮไลท์พรีเมียร์ลีก 2022/23โดยทั้งระหว่างช่วงพักครึ่ง และหลังจบเกม รายการฟุตบอลของทางพรีเมียร์ได้ทำการวิเคราะห์ว่ามีหลายครั้งมากๆ ที่ฮาแลนด์นั้นหาช่องและพร้อมวิ่งทำทางรอให้เพื่อนร่วมทีมจ่ายแทงทะลุช่องให้เขา แต่ด้วยระบบฟุตบอลของเป๊ปนั้นที่เน้นการจ่ายบอล ครองบอล เน้นการเข้าทำที่ค่อนข้างชัวร์เลยได้เห็นการแทงทะลุค่อนข้างน้อยในเกมนี้ อีกทั้งแต่ละครั้งที่ทางทีมงานตัดภพจังหวะนั้นๆ จะเห็นได้ว่าคนที่ครองบอลอยู่ไม่ใช่เควิน เดอ บรอยน์ ทำให้ไม่ค่อยได้เห็นลูกทะลุช่องไปให้ฮาแลนด์ ซึ่งไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าแต่ละครั้งนั้นเป็นเดอ บรอยน์ที่อยู่กับลูกฟุตบอลทุกครั้ง ฮาแลนด์คงกดแฮตทริกตั้งแต่เกมแรกไปแล้ว น่ากลัวจริงๆ กองหน้าคนนี้แถมหลังจบการแข่งขัน อลัน เชียร์เรอร์ โคตรตำนานของพรีเมียร์ลีกอังกฤษที่เป็นเจ้าของสถิติดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก (260 ประตู)ก็ได้ทวิตแซวเชิงนับถอยหลังสถิติพร้อมแท็กฮาแลนด์ว่า "เหลืออีก 258 ประตู ไปให้ถึงให้ได้ไอ่หนู"https://twitter.com/alanshearer/status/1556324845901815809?s=20&t=FKNxJ7i_skBXwpHgqFI9CAตำนานเจ้าของสถิติดาวยิงสูงสุดออกมาพูดถึงขนาดนี้แล้ว เหนื่อยแทนกองหลังอีก 19 ทีมในพรีเมียร์ลีกที่จะต้องรับมือปีศาจคนใหม่ของศึกพรีเมียร์ลีกจริงๆ และแถมก่อนเกมพรีเมียร์ลีกทั้งฮาแลนด์และเชียร์เรอร์ก็ได้มีโอกาสถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับสถิติการยิงประตูของเออร์ลิง ฮาแลนด์ก่อนย้ายมาแมนซิตี้นั้นถือว่าสุดยอดเกินอายุมากๆ แบ่งได้ ดังนี้ทีมไบรน์ (ทั้งทีมชุดใหญ่และสำรอง) 30 นัด 18 ประตูทีมโมลด์ (ทั้งทีมชุดใหญ่และสำรอง) 43 นัด 16 ประตูทีมเรดบูลส์ ซัลซ์บวร์ก 16 นัด 17 ประตูทีมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 67 นัด 62 ประตูทีมชาตินอร์เวย์ (ชุดใหญ่) 21 นัด 20 ประตูสำหรับในเวทีบุนเดสลีกา กองหน้าชาวนอร์วีเจียนคนนี้ได้จารึกชื่อตัวเองลงในประวัติศาสตร์ทำประตูเป็นที่เรียบร้อย ในสถิติการยิงประตูต่อนาทีดีที่สุดตลอดกาลของบุนเดสลีกา (วัดจากผู้เล่นที่ยิงได้เกิน 25 ประตู) โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ทุกๆ 87 นาทีเขาจะทำประตูให้กับดอร์ทมุนด์ ซึ่งมีสถิติที่ดีกว่าทั้งโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (100 นาที), ปิแอร์ -เอเมอริค โอบาเมย็อง (116 นาที) และตำนานอย่างแกร์ด มูลเลอร์ (105 นาที)นี่ยังไม่ได้พูดถึงสถิติการถล่มประตูอื่นๆ หรือเกมการแข่งขันที่เป็นที่พูดถึงอีกหลายๆ เกมนะ เช่น ค่าเฉลี่ยประตูต่อนาทีดีที่สุดในเวทีแชมป์เปี้ยนส์ลีก (นับเฉพาะผู้เล่นที่ยิงเกิน 15 ประตู) โดยค่าเฉลี่ยอยู่ที่จะทำประตูได้ทุกๆ 64 นาที สถิติดีกว่ากองหน้าหลายๆ คน เช่น มาริโอ โกเมส, ลิโอเนล เมสซี และแฮร์รี เคน เป็นต้น หรือเกมการแข่งขันที่เป็นที่ผู้พูดถึงเป็นอย่างมาก โดยเป็นเกมการแข่งขัน FIFA U-20 World Cup 2019 ที่ทีมชาตินอร์เวย์ พบกับทีมชาติฮอนดูรัส โดยในเกมนี้ทีมชาตินอร์เวย์เฉือนชนะทีมชาติฮอนดูรัสไปเบาๆ แบบหูขาด 12-0 โดยที่ฮาแลนด์เหมาคนเดียวเบาๆไปแค่ 9 ประตูเอง (เบายังไงนิเนี่ย!!?)เพียงแค่นี้เราก็รู้แล้วกองหน้าทีมชาตินอร์เวย์วัย 22 ปีนี้สุดยอดแค่ไหน และนอกจากการจบสกอร์ที่เฉียบคมแล้ว ร่างกายของฮาแลนด์ก็สุดยอดไม่แพ้กัน ที่ถึงแม้จะมีรูปร่างที่สูงใหญ่ถึง 195 เซนติเมตร แต่ไม่ได้มีความเชื่องช้า หรือดูเก้งก้างอะไรเลย แถมยิ่งมีสปีดที่เร็วจัดด้วย โดยปกติสถิติการทำประตูของฮาแลนด์ก็เยอะมากอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เจ้าตัวได้ย้ายร่วมทีมกับ "King of Assist" แห่งยุคอย่างเควิน เดอ บรอยน์ หลังจากนี้คงทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำแน่นอน ไม่ต้องห่วงเลย เผลอๆ ถ้าอยู่กับแมนซิตี้ไปนานๆ อาจจะทำลายสถิติยิงประตูสูงสุดในพรีเมียร์ลีกของเชียร์เรอร์ที่ก็เป็นได้สุดท้ายนี้แล้วขอยินดีต้อนรับ "เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์"ปีศาจคนใหม่แห่งศึกพรีเมียร์ลีกอย่างเป็นทางการครับ !!!ขอบคุณรูปภาพจากOfficial Instagram & Official Facebook ของแมนเชสเตอร์ซิตี้Official Instagram ของเออร์ลิง ฮาแลนด์ ภาพปก / ภาพประกอบ 1 / ภาพประกอบ 2 / ภาพประกอบ 3 / ภาพประกอบ 4 / ภาพประกอบ 5 / ภาพประกอบ 6 / ภาพประกอบ 7*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 11 สิงหาคม 2565