"คาลวิน ฟิลลิปส์" ว่าที่แข้งใหม่เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ห้องเครื่องจอมดุดันค่าตัว 45 ล้านปอนด์ จากลีดส์ ยูไนเต็ด เป็นหนึ่งในนักเตะที่จะมาอุดช่องโหว่ของนายใหญ่ เปป กวาร์ดิโอล่า เพื่อไล่ล่าแชมป์ในฤดูกาลหน้า แต่ก็นั่นแหละเมื่อค่าตัวแพง ก็ต้องมาพร้อมกับคำถามว่าแล้วจะทำผลงานได้ดีกับทีมใหม่หรือไม่ แข้งรายนี้เหมาะสมหรือไม่กับการเล่นให้กับทีมเรือใบสีฟ้า ในบทความนี้จะขอไล่เลียงเหล่าเหตุเกี่ยวกับแข็งรายนี้กันสักหน่อย พอทุกท่านอ่านจบแล้วท้ายที่สุดทุกท่านก็คงจะได้คำตอบว่าแข้งร้ายนี้ จะรุ่งหรือจะร่วง ในถิ่นเอดิฮัดด์ฤดูกาลหน้าคาลวิน ฟิลลิปส์ นักเตะวัย 26 ปี ที่เป็นข่าวกับหลายต่อหลายทีม แต่สุดท้ายก็ลงเอยกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่ง ณ เวลานี้ ที่จะเข้ามาแทนที่ของ แฟร์นัน ดินโญ่ มิดฟิลด์ตัวเก่งที่อำลาตำแหน่งจากสโมสรแห่งนี้หลังจากจบฤดูกาล อีกทั้งยังเป็นการจากไปที่สวยงามกับการพาเรือใบสีฟ้าคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลล่าสุด ปิดฉาก 9 ปี กับการทำงานอย่างเต็มที่ในถิ่นเอติฮัดส์แห่งนี้ ผลงานโดยส่วนตัวของ แฟร์นัน ดินโญ่ เองในช่วงสองฤดูกาลหลังถือว่าไม่ได้เป็นตัวหลักของทีมมากเท่าไหร่นัก ด้วยทั้งอาการบาดเจ็บและอายุที่มากขึ้น ยิ่งในช่วงสองสามเกมหลังเห็นได้ชัดเจนว่านักเตะรายนี้ที่กรำงานหนักมาตลอดช่วงอายุนักเตะของเขากับเรือใบสีฟ้า เริ่มที่จะแสดงออกมาถึงสังขารที่ไปตามอายุได้อย่างชัดเจนฉะนั้นการเข้ามาของ คาลวิน ฟิลลิปส์ เป็นเวลาที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุด ที่จะเข้ามาแบ่งเบาภาระของ โรดรี้ ในฤดูกาลหน้า ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปฤกูกาล 2021-2022 เจ้าตัวเล่นกับทีมในฐานะตังจริง 31 เกม จาก 38 เกม ในพรีเมียร์ลีก เพราะด้วยไม่มีนักเตะที่แทนตำแหน่งของ แฟร์นัน ดินโญ่ จึงต้องลงประจำการและติดต่อกันตลอดทั้งฤดูกาล ฉะนั้น คาลวิน ฟิลลิปส์ จึงเป็นตัวเลือกในลำดับต้นที่จะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งในแดนกลาง โดยไม่ต้องขึ้นไปสูงเพื่อทำเกมรุก คอยตัดเกมสวนกลับและตัดเกมแดนกลาง นั่นจะทำให้ โรดรี้ เติมเกมรุก ทำให้เรือใบสีฟ้ามีตัวเลือกเกมรุกเพิ่มมากขึ้นและมีตัวเลือกจบสกอร์ที่มากขึ้นตามไปด้วยอีกประการหนึ่งในบางเกมที่จะต้องเจอโปรแกรมที่ถี่หรือต้องการโรเตชั่นนักเตะ ก็ยังมีนักเตะไว้คอยสลับสับเปลี่ยนที่คุณภาพไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน รวมถึงความฟิตที่ดูจะสามารถทดแทนกันได้ดีกว่าเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น อิไคล์ กูนโดกัน แบรนาโด ซิลวา ด้วยเหล่านักเตะแดนกลางเหล่านี้ระบบทีมหรือการบุกเอาตาย เติมรุกเกมแบบดุดัน หรือผ่อนเกม คุณภาพของนักเตะความฟิต ก็ไม่ได้ลดหลั่นแตกต่างกันอย่างแน่นอน ทำให้ระบบที่วางแผนมาไม่จำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนบ่อย นั่นจะยิ่งส่งผลดีต่อนักเตะที่จะเข้าใจในระบบการเล่นเดิม โดยไม่ต้องมาคอยปรับตัวเพื่อให้เข้ากับแผนการเล่นใหม่ที่ปรับไปตามสภาพของนักเตะแม้ว่า คาลวิน ฟิลลิปส์ ไม่ใช่กองกลางตัวรุกเหมือนกับแบบของโรดรี้ ก็จริง แต่สิ่งที่นักเตะรายนี้มีอยู่ในตัวคือ การคอนโทรบอล การผ่านบอล วิ่งไม่มีหมด และคอยตัดเกมในแดนกลาง ที่เขารับผิดชอบได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยคุณสมบัติที่ว่ามานั่นทำให้แข่งรายนี้ได้ถูกไปเปรียบกับนักเตะอย่าง เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ หรือ ชาบี อลอนโซ่ อีกทั้งแข่งรายนี้ยังมีความคล่องตัวสูงด้วยคุณสมบัติเฉพาะของเจ้าตัวในเรื่องนี้ มันช่าง อาร์ตูโร วิดัล หรือจอร์แดน เฮนเดอร์สัน ก็ไม่ปานกันเลยทีเดียวนี่คือนักเตะที่ เปป กวาร์ดิโอล่า ต้องการอย่างมากเมื่อเจอทีมที่มีความเขี้ยวในรายการที่ตัวเขาเองฝันจะก้าวไปคว้าแชมป์กับเรือใบสีฟ้านั่นก็คือยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกแต่สิ่งที่ว่ามาก็ไม่ใช่ว่าจะการันตีความสำเร็จของแข้งรายนี้ได้ เพราะย้อนกลับไปก่อนหน้านักเตะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซื้อเข้ามาด้วยความคาดหวังและราคาที่สูงเอาการไม่ว่าจะเป็น แจ๊ค กรีริช , เจา คานเซโล ริยาร์ช มาเรซ , ลีลอยด์ ซาเน่ย์ และ โรดรี้ นักเตะที่ว่ามาทั้งหมดต่างมาด้วยความคาดหวังและไม่ได้ผลงานเปรี้ยงปร้างตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้ามาเหมือนดั่งที่แฟนบอลคาดหวัง แต่ถึงอย่างนั้นบรรดานักเตะเหล่านี้ต่างก็ใช้เวลาไม่เกินหนึ่งฤดูกาลที่จะโชว์ศักยภาพของพวกเขาสู่สายตาแฟนบอลจนได้รับการยอมรับ จนกลายเป็นขุมกำลังหลักในการคว้าแชมป์และความสำเร็จตลอดเวลาที่พวกเขาเหล่านั้นใช้เวลาเติบโต และหาจุดที่ตัวเองจะสามารถเฉิดฉายได้ ซึ่ง คาลวิน ฟิลลิปส์ ก็อาจจะไม่ต่างจากนักเตะเหล่านั้นเช่นเดียวกันมีสถิติหนึ่งที่น่าสนใจกับบรรดาเหล่าแข็งใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั่นก็คือ เหล่าบรรดานักเตะที่ก้าวเท้าเมามายังเอดิฮัสด์ ไม่มีใครลงเล่นเกิน 60 เกมต่อฤดูกาลในทุกรายการแม้แต่คนเดียว สาเหตุก็เพราะขุมกำลังที่ ณ เวลานั้น ๆ ต่างก็เป็นนักแตะที่โชว์ความสามารถได้ยอดเยี่ยม จนทำให้ถูกเรียกใช้งานบ่อยกว่านักเตะที่เข้ามาใหม่ นักเตะที่มีสถิติการลงเล่นน้อยที่สุดสามลำดับแรกได้แก่ เฟอร์นัน ดินโญ่ 17 นัดในทุกการ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ 18 เกมในทุกรายการ และ นาธาน อาเก้ 19 เกมในทุกรายการ แต่สำหรับ คาลวิน ฟิลลิปส์ อาจจะมีโอกาสลงเล่นเกินกว่า 30 เกม ในฤดูกาลหน้า สาเหตุก็เพราะว่า นักเตะรายนี้ได้ถูกวางเป็นตัวตายตัวแทนของ เฟอร์นัน ดินโญ่ ที่เป็นกำลังหลักในแดนกลางตั้งแต่แรกแล้วนั่นเอง มาถึงตรงนี้หลายท่านก็น่าจะได้คำตอบแล้วว่า คาลวิน ฟิลลิปส์ จะรอดหรือร่วงในถิ่นเอดิฮัดส์ เหลือเวลาอีกเดือนกว่า ๆ ที่จะได้เห็นเหล่าบรรดานักเตะหน้าใหม่หลายคนในพรีเมียร์ลีกหรือหน้าเก่าแต่ย้ายทีม ประชันแข้งแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล2022-2023 กันแล้ว ตัวกระผมเองก็แทบจะอดใจไม่ไหวเช่นเดียวกับหลาย ๆ ท่าน ณ เวลานี้ข่าวที่เกี่ยวข้อง"เรอัล มาดริด vs แมนฯ ซิตี้" ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก :: ศึกล้างแค้นดับฝัน เปป อีกครั้งใครจะแชมป์!! เทียบผลงาน ลิเวอร์พูล - แมนซิตี้ กับเกมที่เหลือจากที่เคยเจอกันมา3 ตัวแปรตัดสินสามแต้ม "แมนซิตี้" หรือ "ลิเวอร์พูล" เปิดทางแชมป์พรีเมียร์ลีก 2021-2022เครดิตภาพปก twitter.com/LUFC :: ภาพปกเครดิตภาพปก twitter.com/LUFC :: ภาพที่ 1 , ภาพที่ 4 , twitter.com/ManCity :: ภาพที่ 2 - ภาพที่ 3 , ภาพที่ 5 , ภาพที่ 6 *STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565