เชลซี ลงเล่นเกมที่ 22 ของฤดูกาลด้วยการบุกไปเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด โดยในเกมนี้ แกรม พอตเตอร์ ส่งนักเตะใหม่ที่ย้ายมาร่วมทีมเมื่อเดือนมกราคมเป็นตัวจริงพร้อมกันถึง 5 คน ซึ่งนี่อาจจะเป็นสัญญาณการเริ่มต้นยุคใหม่อย่างจริงจังแล้วก็ได้ รวมถึงน่าจะเป็นโอกาสสุดท้ายของ แกรม พอตเตอร์ ที่จะได้สร้างทีมในสไตล์ถนัดของตัวเองอย่างเต็มที่ในช่วงแรกนักเตะเชลซีเริ่มเกมได้อย่างคึกคัก ทำเกมได้อย่างลื่นไหลผิดหูผิดตา ผ่านไปแค่ 16 นาทีก็ได้ประตูออกนำไปก่อนอย่างเร็วจาก ชูเอา เฟลิกซ์ จากนั้นก็ยังเป็นฝ่ายครองเกมเอาไว้ได้เกือบทั้งหมด แต่ในนาที 28 ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยปล่อยให้ เอเมอร์สัน พัลมิเอรี่ วิ่งสอดขึ้นมาแบบไม่มีตัวประกบ ก่อนที่จะส่งบอลเข้าก้นตาข่ายเป็นประตูตีเสมอ 1-1 หลังจากนั้นเกมของเชลซีก็ดูจะด็อปลงไปนิดหน่อย โดนคู่แข่งไล่บีบมากขึ้นจนเสียบอลเองหลายครั้ง ส่วนในครึ่งหลังแม้ว่าจะครองบอลไว้ได้มากกว่า แต่โอกาสที่จะเจาะเข้าไปถึงพื้นที่อันตรายก็ยังมีน้อยเกินไป และต้องระวังโดนคู่แข่งสวนกลับมาเป็นระยะอีกด้วย สุดท้ายก็จบลงด้วยผลสกอร์ 1-1 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งคะแนน วันนี้ NPK Football Style ขอแนะนำ 2 นักเตะเชลซีที่โชว์ผลงานได้ดีในเกมนี้ ทำให้ยังพอมองเห็นอนาคตและทิศทางของทีม แม้ในวันที่ผลงานแข่งขันได้เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ชูเอา เฟลิกซ์หลังจากชดใช้โทษแบนจนครบ 3 เกม ก็ได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริงในทันที โดยเกมนี้ยืนในตำแหน่งหน้าต่ำกึ่งๆจะรับบทจอมทัพของทีมด้วยซ้ำ อาจจะเพราะโดนแบนไปนานทำให้เจ้าตัวดูมีความกระตือรือร้นและตั้งใจเล่นมากเป็นพิเศษ เป็นนักเตะที่มีส่วนร่วมกับเกมรุกของทีมมากที่สุด เคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา ทำให้หลุดจากตัวประกบขยับมารับบอลได้บ่อยครั้ง คอยเชื่อมเกมส์ระหว่างแดนกลางกับแดนหน้าได้ดี มีเทคนิคความสามารถเฉพาะตัวสูง เป็นคนที่เลี้ยงหลบคู่แข่งและพยายามจ่ายบอลไปข้างหน้ามากที่สุด และสอดขึ้นไปหาพื้นที่ว่างได้เก่ง ทำให้เพื่อนใจบอลได้ง่าย ทุกครั้งที่มีบอลอยู่กับเท้าจะรู้สึกได้ถึงความอันตราย มีโอกาสยิงเข้าประตูไปถึงสองครั้งโดนจับล้ำหน้าไปลูกนึง แต่สุดท้ายก็สามารถยิงประตูแรกของตัวเองได้สำเร็จ จากการจบสกอร์ที่เด็ดขาด มีความนิ่งเยือกเย็นกว่าแนวรุกทุกคนที่มีอยู่ นอกจากนี้ยังเป็นคนที่เล่นลูกนิ่งได้ดี มีจังหวะยิงฟรีคิกที่อันตรายได้ลุ้นประตู เป็นอีกหนึ่งทีเด็ดของเจ้าตัวเอ็นโซ่ เฟร์นานเดซเกมนี้ลงเล่นเป็นกองกลางคู่กับ รูเบน ลอฟตัส-ชีค เลยดูเหมือนจะมีงานให้ต้องทำเยอะหน่อย เป็นคนคอยคุมจังหวะเกมตรงกลางสนามของทีม บอลส่วนมากก็จะมาขึ้นที่เท้าของเขานี่เอง เอ็นโซ่เป็นนักเตะที่ออกบอลสั้นยาวได้แม่นยำ แม้ว่าอาจจะมีจังหวะพลาดไปบ้างแต่ก็มักจะตามไปแก้ตัวได้ทันเสมอ หน้าที่หลักคือการรับบทเป็นกองกลางตัวรับแต่ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ก็จะไม่ได้ยืนประจำตำแหน่งตลอดเวลา แต่จะขยับเคลื่อนที่ไปตามจังหวะของเกม สายตาจับจ้องอยู่ที่ลูกบอล ทำให้ตัวเองมีพื้นที่ในการรับบอลง่ายขึ้นก่อนที่จะแจกจ่ายให้เพื่อน เป็นกองกลางคนเดียวที่ออกบอลเร็วไม่เก็บบอลไว้กับตัวนาน พยายามเปลี่ยนจังหวะจากเกมรับเป็นเกมรุกให้ทีมทุกครั้งที่มีโอกาส ประตูเดียวของทีมในเกมนี้ก็มาจากการเปิดบอลที่ชาญฉลาด หลอกกองหลังคู่แข่งได้ทั้งแผง แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ในการจ่ายบอล และคลาสบอลที่ยอดเยี่ยมของเจ้าตัว ถ้ามีคู่หูแดนกลางที่ดีกว่านี้ก็น่าจะช่วยแบ่งเบาภาระ และปลดปล่อยความสามารถออกมาได้อีกมากเกมนี้แม้ว่าจะจบลงด้วยสกอร์ 1-1 แต่ความจริงแล้วมีการยิงเข้าประตูกันไปทั้งหมด 5 ลูก โดยเชลซีโดน VAR ยึดคืนไปสองประตูทั้งจาก ชูเอา เฟลิกซ์ และ ไค ฮาแวทซ์ ส่วนเวสแฮมก็โดนยึดคืนเหมือนกันจากลูกยิงของ โทมัส ซูเช็ค เนื่องจากทั้งสามประตูนี้มีจังหวะล้ำหน้ากันไปซะก่อน นอกจากนี้ยังมีจังหวะที่น่าจะเป็นปัญหาในช่วงท้ายเกม เมื่อ โทมัส ซูเช็ค พยายามจะบล็อกลูกยิงของนักเตะเชลซีในกรอบเขตโทษ แล้วลูกบอลไปถูกมือเต็มๆในจังหวะที่กำลังล้มตัวลง แต่ VAR กลับปล่อยผ่านไม่ได้ส่งสัญญาณให้ผู้ตัดสินไปดูด้วยตัวเอง ซึ่งอาจจะมองว่าเป็นจังหวะล้มลงพอดีไม่ได้ตั้งใจเล่นบอล แต่มันก็ทำให้ลูกบอลเปลี่ยนทิศทางอย่างชัดเจน เชลซีจึงกลายเป็นฝ่ายที่เสียประโยชน์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้บทความที่เกี่ยวข้อง8 นักเตะใหม่ของเชลซี การผ่าทีมครั้งใหญ่ในเดือนมกราคม เพื่อท้าชิงบัลลังก์พรีเมียร์ลีกถ้าหากเพื่อนๆชอบในการวิเคราะห์ของเรา หรืออยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพิ่มเติม รบกวนฝากกดติดตามบทความอื่นๆของเราได้ทั้ง 2 ช่องทางด้านล่างนี้เลย ขอบคุณครับTrueid : NPK Footballstyleเพจ Facebook : NPK Footballstyleเครดิตภาพภาพปก Chelsea/Chelseaภาพ1 Chelseaภาพ2 Chelseaภาพ3 Chelseaภาพ4 Chelsea Community คอบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์