มีหมด ยกเว้นประตู! แดงเดือดกร่อย หงส์บุกเจ้าผีแดงไร้สกอร์ 0-0 ศึกพรีเมียร์ลีก

ศึกแดงเดือดหนนี้มีกร่อยไปพอสมควร หลังทั้งสองทีมไม่สามารถเจาะตาข่ายกันได้ เสมอกันไปแบบไร้สกอร์ 0-0 ในศึกพรีเมียร์ลีกนัดซูเปอร์บิ๊กแมตช์
ที่ “โรงละครแห่งความฝัน” โอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นการแข่งขันศึกแดงเดือด “ซูเปอร์บิ๊กแมตช์” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล ทีมรองจ่าฝูงโดยก่อนเกม ทั้งสองทีม รวมถึงแฟนบอลในสนามได้มีการยืนปรบมือเพื่อให้เกียรติ และไว้อาลัยแด่ เอริค แฮร์ริสัน อดีตผู้จัดการทีมเยาวชนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เคยปลุกปั้นเหล่าแข้งชุด “คลาส ออฟ 92” ที่เสียชีวิตลงด้วยวัย 81 ปี เมื่อวันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
เปิดฉากมาในช่วงสิบนาทีแรก ทั้งสองทีมยังพยายามออกบอลด้วยความระมัดระวังด้วยกันทั้งสองทีม ทำให้โอกาสลุ้นพังประตูแบบเน้นๆ ยังไม่ค่อยมีให้เห็นสักเท่าไหร่
จากนั้นเกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 21 แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องเจอกับข่าวร้ายหนแรก เมื่อ อันเดร เอร์เรร่า เจ็บบริเวณกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง ทำให้กุนซือเลือดนอร์วีเจี้ยนต้องยอมเปลี่ยน อันเดรส เปไรร่า เป็นไพ่ใบแรก
เท่านั้นยังไม่พอ สี่นาทีถัดมา เหล่าสาวก “เร้ด เดวิลส์” ต้องพบกับข่าวร้ายระลอกสองหลัง ฆวน มาต้า เจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ โซลชา ต้องแก้เกมอีกหนด้วยการส่ง เจสซี่ ลินการ์ด ลงสนาม
ผ่านมาถึงครึ่งชั่วโมงแรก ลิเวอร์พูล จำใจต้องถอด โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่เจ็บข้อเท้าเองจากจังหวะผ่านบอลออกจากสนาม และส่งแดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ลงล่าตาข่ายแทน
นาทีที่ 33 ลิเวอร์พูล มีจังหวะลุ้นพังประตูหลัง แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ โชว์พักอกก่อนแต่งเนียนๆ ตะบันบดๆ บอลพุ่งมาถึง เด เกอา รับสบาย
ถึงตรงนี้ เป็นฝั่งทีมเยือนที่เริ่มครองบอลได้เหนือกว่าพอสมควร แต่จังหวะพาบอลเข้าไปในพื้นที่อันตรายยังมีไม่มาก
นาทีที่ 41 เจ้าถิ่นน่าจะได้ประตูขึ้นนำแบบสุดๆ หลัง ลูกากู โชว์คิลเลอร์พาสมาถึง เจสซี่ ลินการ์ด หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ อลิสสัน หน้ากรอบ 6 หลา แต่ทว่านายด่านมือหนึ่งทีมชาติบราซิลโชว์ช็อตระดับโลกด้วยการคว้าบอลจากเท้าแนวรุกทีมชาติอังกฤษแบบดื้อๆ
ก่อนจบครึ่งแรกเพียงแค่สองนาที แฟนบอลปีศาจแดงทั้งโลกถึงกับกุมขมับ หลัง เจสซี่ ลินการ์ด ที่เพิ่งลงสนามมาดันมีอาการบาดเจ็บกำเริบ ทำให้ “เพชรฆาตหน้าทารก” ต้องตัดสินใจเดิมพันครั้งสำคัญในโควต้าเปลี่ยนตัวคนสุดท้ายด้วยการส่ง อเล็กซิส ซานเชซ ลงมาเล่นแทน โดยที่ในสนามยังมี มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่มีอาการบาดเจ็บอยู่เช่นกัน
จากนั้นไม่นาน เป็นทาง “หงส์แดง” ที่ได้ออกหมัดสวนบ้างจากจังหวะลูกเตะมุม เจมส์ มิลเนอร์ ปั่นโค้งๆ มาเข้าศีรษะ โจเอล มาติป เทคตัวโขกเน้นๆ แต่บอลพุ่งข้ามคานออกไปแบบได้เสียว
นาทีสุดท้ายก่อนเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ลุ้นอีกหน หลัง อเล็กซิส ได้เปิดบอลจากกราบซ้าย บอลลอยข้ามมาถึง โรเมลู ลูกากู อาศัยความใหญ่เบียดกับ โรเบิร์ตสัน ก่อนได้จบสกอร์ แต่ อลิสสัน ยังยืนตำแหน่งได้ดี ก่อนที่จะจบเกมในครึ่งเวลาแรก ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่แบบไร้สกอร์
กลับมาสู้กันต่อในครึ่งเวลาหลัง ยังเป็นฝั่ง ลิเวอร์พูล ที่ครองเกมได้เหนือกว่า โดยเฉพาะจังหวะผ่านบอลเท้าสู่เท้าที่ทำได้ค่อนข้างดี แต่จับหวะจบสกอร์ยังไม่มีให้เราเห็น โดยเฉพาะ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่แทบจะหายไปจากเกมนี้
นาทีที่ 51 แอชลีย์ ยัง มีโอกาสได้ปั่นฟรีคิกไปให้ ป็อกบา สอดมาโขกในกรอบเขตโทษเน้นๆ แต่ อลิสสัน ยังไม่มีพลาดในเกมนี้
หกนาทีถัดมา เกมรุกของเจ้าถิ่นเริ่มจะออกดอกออกผล หลัง ลูกากู มีเวลาได้ตั้งป้อมปั่นโค้งเข้ามาในพื้นที่อันตราย แนวรับลิเวอร์พูลเคลียร์กันไม่ขาด บอลชุลมุนมาถึง แรชฟอร์ด ได้ดีดเน้นๆ แต่บอลหลุดกรอบออกหลังไป เสียงเชียร์ใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด เริ่มดังกระหึ่มแล้ว
ผ่านมาถึงครึ่งทางในครึ่งเวลาหลัง เกมรุกของ ลิเวอร์พูล เริ่มอึดอัด หลังนักเตะเจ้าบ้านลงมาแพคเกมกันแน่นใแดนของตัวเอง กระทั่งกล้องจับไปเจอภาพ เซอร์ดาน ชากิรี่ ที่เหมาคนเดียวสองประตูในศึกแดงเดือนหนก่อน กำลังเร่งวอร์มอยู่ข้างสนาม สุดท้าย คล็อปป์ ตัดสินใจส่งเจ้าตัวลงสนามแทน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับเวลาอีก 20 นาทีที่เหลืออยู่
นาทีที่ 75 แฟนบอลเจ้าถิ่นได้เฮเก้อ จากลูกฟรีคิก ลุค ชอว์ ปั่นด้วยซ้ายบอลลึกมาถึง สมอลลิ่ง ปาดมาหน้ากรอบเขตโทษ โจเอล มาติป สกัดบอลผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเอง แต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้าแล้ว
สามนาทีถัดมา เยอร์เก้น คล็อปป์ ตัดสินใจครั้งสำคัญด้วยการส่ง ดิว็อค โอริกี้ ลงมาแทนที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่เล่นไม่ออก
ในช่วงเวลาที่เหลือ ทั้งสองทีมไม่สามารถบวกสกอร์ใส่กันได้ จบเกมเสมอกันไปแบบไร้สกอร์ 0-0 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งคะแนน ส่งให้ ลิเวอร์พูล ทะยานแซง แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงหลังมี 66 แต้มจาก 27 นัด ขณะที่ ยูไนเต็ด รั้งอันดับ 5 ของตาราง
รายชื่อ 11 ผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ดาบิด เค เกอา, วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ, คริส สมอลลิ่ง, ลุค ชอว์, แอชลีย์ ยัง, ปอล ป็อกบา, ฆวน มาต้า, อันเดร เอร์เรร่า, สก็อต แม็คโทมิเนย์, โรเมลู ลูกากู, มาร์คัส แรชฟอร์ด
ลิเวอร์พูล : อลิสสัน, เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, โจเอล มาติป, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, เจมส์ มิลเนอร์, จอร์จินิโอ้ ไวจ์นัลดุม, ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์
อ่านข่าว ตลาดซื้อขายนักเตะไทยลีก 2019
อ่านข่าว ตลาดซื้อขายนักเตะพรีเมียร์ลีก 2018/19
ดูบอลสด – ไฮไลท์บอล แบบจัดเต็มได้ ที่นี่
ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!
ดูไฮไลท์บอล พรีเมียร์ลีก ฟรี คลิก!
ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports