พูดถึงเกม Inter Miami vs Atlanta United ครั้งนี้ บอกเลยว่ามันไม่ใช่แค่เกม MLS ธรรมดาๆ เพราะมันคือ “โชว์ของ” ที่ลิโอเนล เมสซี่กลับมาเป็นตัวหลักอีกครั้ง และเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุนเพื่อดูเขายิงสองลูกสุดเหนือชั้นในเกมที่พาไมอามี่ถล่มแอตแลนต้า 4-0 ชนิดที่แฟนบอลในสนาม Chase Stadium ต้องลุกขึ้นยืนปรบมือให้กันทั้งสนาม ผมเองดูเกมนี้แบบตั้งใจมาก เพราะเป็นแมตช์ที่มีหลายประเด็นน่าสนใจ ทั้งการลุ้นรางวัล Golden Boot, การอำลาของจอร์ดี้ อัลบา และฟอร์มของทีมที่ตอนนี้กำลังไล่จี้พื้นที่หัวตารางของฝั่งตะวันออก เมสซี่กับคืนที่ MLS กลับมาสั่นสะเทือนอีกครั้ง นับตั้งแต่ย้ายมา Inter Miami เมสซี่เปลี่ยนทีมนี้จาก “ทีมกลางตาราง” ให้กลายเป็นทีมที่ทุกคนต้องจับตา และในเกมกับ Atlanta United นี้ เขาแสดงให้เห็นว่าทำไมชื่อของเขายังสะกดคำว่า “GOAT” ได้ชัดเจนเหมือนเดิม ลูกแรกในนาทีที่ 39 ต้องบอกว่ามันคือความคลาสสิกแบบเมสซี่แท้ๆ เมื่อบัลทาซาร์ โรดริเกซ แย่งบอลได้และจ่ายให้เมสซี่นอกกรอบ เขาแตะหนึ่งจังหวะ แล้วบรรจงปั่นด้วยซ้ายโค้งเข้าเสาไกลเหนือมือของฮิบเบิร์ต สวยงามจนแฟนบอลแอตแลนต้าเองยังต้องยกนิ้วให้ ลูกสองในนาทีที่ 87 ก็ยังเป็นเมสซี่ในจังหวะที่อ่านเกมขาด วิ่งสอดเข้าไปรับบอลยาวจากอัลบา ก่อนยิงด้วยซ้ายข้างถนัดตุงตาข่ายอย่างเยือกเย็น เป็นประตูที่ 26 ของฤดูกาล พาเจ้าตัวแซงเดนิส บวงก้า จาก LAFC ขึ้นนำเดี่ยวในตารางดาวซัลโว MLS จอร์ดี้ อัลบา จากอำลา สู่การยิงปิดฉากอย่างสง่างาม อีกโมเมนต์หนึ่งที่ผมว่าน่าประทับใจสุดๆ คือจังหวะที่ อัลบา ทำประตูได้ในนาทีที่ 52 จากลูกชิพข้ามตัวผู้รักษาประตู สวยงามไม่แพ้เมสซี่เลย และที่พิเศษคือ มันเกิดขึ้นในวันที่สโมสรจัดพิธีอำลาให้เขาอย่างเป็นทางการ หลังเจ้าตัวประกาศว่าจะรีไทร์หลังจบซีซั่นนี้ มันเป็นภาพที่อบอุ่นมาก เมสซี่ อัลบา และซัวเรซ ฉลองประตูร่วมกัน เหมือนพาเราย้อนกลับไปยุคทองของบาร์เซโลนาอีกครั้ง ซัวเรซยังคงเฉียบ และไมอามี่กำลังเข้าเกียร์เพลย์ออฟ ลูกที่สามของเกมในนาทีที่ 61 มาจาก หลุยส์ ซัวเรซ ที่ยิงแบบเฉียบคมไม่แพ้กัน ทำให้สกอร์ขาด 3-0 ก่อนที่เมสซี่จะมาย้ำชัยในช่วงท้าย เป็นเกมที่ทุกคนในแนวรุกของไมอามี่ทำงานกันได้อย่างลงตัวจนแทบไม่มีจุดบอด ชัยชนะเกมนี้ทำให้ Inter Miami ขยับแต้มขึ้นไปเท่ากับ Cincinnati ที่ 62 คะแนน ไล่หลัง Philadelphia Union จ่าฝูงอยู่แค่ 4 แต้ม ซึ่งถือว่าเป็นโมเมนตัมสำคัญก่อนเข้าสู่รอบเพลย์ออฟ เพราะไมอามี่ไม่เพียงการันตีตั๋วเท่านั้น แต่ยังมีลุ้นขยับอันดับเพื่อเจอคู่แข่งที่เบากว่าในรอบแรก มุมมองส่วนตัว ส่วนตัวผมมองว่าเกมนี้ไม่ใช่แค่เรื่อง “ผลการแข่งขัน” แต่มันคือสัญญาณที่บอกว่า Inter Miami กลับมามีชีวิตอีกครั้งหลังจากช่วงต้นซีซั่นที่ฟอร์มตกไปพักหนึ่ง สิ่งที่ต่างจากทีม MLS อื่นๆ คือ “จิตใจ” เพราะการมีเมสซี่อยู่ในสนาม ทำให้เพื่อนร่วมทีมทุกคนดูมั่นใจขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การเคลื่อนบอลของไมอามี่มีความเป็นระบบขึ้นมาก และทุกคนพร้อมเล่นเพื่อสร้างจังหวะให้เมสซี่จบสกอร์ อีกอย่างคือ การที่โค้ช ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ (อดีตเพื่อนร่วมทีมเมสซี่) ตัดสินใจเสี่ยงส่งเมสซี่ลงแม้มีโปรแกรมทีมชาติก่อนหน้านั้น ถือเป็นเดิมพันที่ถูกต้องสุดๆ เพราะมันทำให้ทีมได้แรงกระตุ้นกลับมา บทสรุปหลังเกม ผลการแข่งขัน: Inter Miami 4–0 Atlanta United ผู้ทำประตู: เมสซี่ (39’, 87’), อัลบา (52’), ซัวเรซ (61’) สถิติสำคัญ: เมสซี่ยิงรวม 26 ประตู นำเดี่ยวใน Golden Boot Race Inter Miami มีแต้มเท่า Cincinnati (62 คะแนน) เป็นเกมเหย้าสุดท้ายก่อนย้ายไปสนามใหม่ “Miami Freedom Park” บทส่งท้าย แมตช์ Inter Miami vs Atlanta United นี้เหมือนเป็นการส่งสารถึงทั้งลีกว่า “ยุคแห่งเมสซี่ยังไม่จบ” และไมอามี่ก็ยังพร้อมไล่ล่าทุกความสำเร็จในปีนี้ เกมนี้คือการแสดงพลังของซูเปอร์สตาร์ที่ยังคงหิวชัยชนะไม่ต่างจากตอนอยู่ในยุโรป ถ้าใครพลาดเกมนี้ไป ผมบอกเลยว่าให้ย้อนกลับไปดูไฮไลต์ให้ได้ เพราะมันคือหนึ่งในเกมที่สรุปความเป็น “Inter Miami ยุคเมสซี่” ได้ชัดเจนที่สุด ทีมที่เล่นด้วยใจ สนุกด้วยความเข้าใจ และมีความสุขทุกครั้งที่ลูกบอลอยู่ที่เท้าของเบอร์ 10 ชาวอาร์เจนตินา รูปภาพปก 1 มาจาก Inter Miami CF :|: รูปภาพปกที่ 1 รูปภาพปก 2 มาจาก Atlanta United FC :|: รูปภาพปกที่ 2 รูปภาพประกอบ 1 มาจาก Inter Miami CF :|: รูปภาพประกอบที่ 1 รูปภาพประกอบ 2 มาจาก Atlanta United FC :|: รูปภาพประกอบที่ 2 รูปภาพประกอบ 3 มาจาก Inter Miami CF :|: รูปภาพประกอบที่ 3 รูปภาพประกอบ 4 มาจาก Atlanta United FC :|: รูปภาพประกอบที่ 4 ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !
