ผ่านไปแล้วกับ Big Match UCL League Phase ระหว่าง ลิเวอร์พูล พบ เรอัลมาดริด โดย ลิเวอร์พูล เอาชนะ เรอัลมาดริด ไป 2-0 แบบที่ เรอัลมาดริด สู้ไม่ได้เลย ดูบอลสดพรีเมียร์ลีก กดสมัครแพ็กเกจ TrueVisions Now ผ่าน TrueID คลิกเลย! ลิเวอร์พูลได้ประตูจาก อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ นาทีที่ 52 และ โคดี กัคโป นาทีที่ 77 ในเกมนี้มีประเด็นหน้าสนใจหลายประเด็นที่เราจะมาลองวิเคราะห์กัน การจัด 11 ตัวจริง ของทั้ง 2 ทีม ลิเวอร์พูลเจ้าบ้านจัดชุดใหญ่ลงครบด้วยแผน 4-3-3 ประกอบด้วย เคลเลเฮอร์ (GK), ฟาน ไดค์, โกนาเต, แบรดลีย์, โรเบิร์ตสัน, กราเฟนแบร์ก, แม็ค อัลลิสเตอร์, โจนส์, ดิอาซ, นูนเญซ และ ซาลาห์ ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ลงตัวแล้ว แต่ฝั่งทีมเยือน เรอัลมาดริด ปรับทัพจากเกมลีกล่าสุดที่ไปเยือนและเอาชนะ เลกาเนส 3-0 มาใช้แผน 4-3-3 แทน เนื่องจาก วินิซิอุส จูเนียร์ ได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาด้านซ้ายต้องพักราว 1 เดือนเต็มจากเกมดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีผู้เล่นสำคัญที่มีอาการบาดเจ็บหลายคน ได้แก่ โอเรเลียง ชูอาเมนี่ (ข้อเท้า), โรดรีโก (กล้ามเนื้อ), ดาวิด อลาบา (เอ็นไขว้หน้าเข่า), ดาเนียล การ์บาฆาล (เอ็นไขว้หน้าเข่า) และ เอแดร์ มิลิเตา (เอ็นไขว้หน้าเข่า) ทำให้การจัดทีมดูแปลก ๆ โดยจับเอา บราฮิม ดิอาซ เป็ากองหน้าตัวกลาง อาร์ดา กูเลอร์ ทางขวา และ คีเลียน เอ็มบัปเป ทางซ้าย โดย 11 ตัวจริงประกอบด้วย กูร์กตัวส์ (GK), รูดิเกอร์, เมนดี, วัลเวร์เด, อเซนซิโอ, กูแลร์, ดิอาซ, โมดริช, คามาวิงกา, เบลลิงแฮม และ เอ็มบัปเป ส่วน เอ็นดริค สำรอง จากการขาดผู้เล่นหลังไปหลายคนทำให้เรอัลมาดริด ไม่สามารถต่อกรกับจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกที่ฟอร์มกำลังดีและสภาพทีมกำลังลงตัวได้ การพลาดจุดโทษ ในเกมนี้จุดเปลี่ยนสำคัญของเกมเกิดขึ้นในนาทีที่ 61 เมื่อ โรเบิร์ตสัน ทำให้ทีมเสียจุดโทษ คีเลียน เอ็มบัปเป รับหน้าที่สังหารแต่ยิงไปติดเซฟของ เคลเลเฮอร์ ชวดประตูตีเสมออย่างน่าเสียดายและ โม ซาลาห์ ของลิเวอร์พูล ได้โอกาสยิงจุดโทษเช่นกันในนาทีที่ 70 จากจังหวะที่โดน เมนดี้เกี่ยวในเขตโทษ แต่ โม ซาลาห์ ยิงจุดโทษหลุดกรอบไป ทั้งนี้การพลาดของ เอ็มบัปเป ส่งผลเสียต่อรูปเกมของเรอัลมาดริด มากกว่าการพลาดของ ซาลาห์ เพราะหาก เอ็มบัปเป ยิงเข้าตีเสมอได้ รูปเกมอาจจะออกมาในอีกรูปแบบหนึ่งก็ได้ แต่การพลาดของซาลาห์ ไม่ส่งผลเสียต่อทีมนักเพราะทีมนำอยู่ ผลงานของ คีเลียน เอ็มบัปเป vs คอเนอร์ แบรดลีย์ ในสถานการที่เรอัลมาดริด ขาดกองหน้าตัวหลักไปทั้ง วินิซิอุส จูเนียร์ และโรดรีโก ทำให้ความหวังตกมาอยู่ที่ เอ็มบัปเป คนเดียว ซึ่งที่ผ่านมาตั้งแต่ เอ็มบัปเป ย้ายมาร่วมทีมเรอัลมาดริด เขาก็ยังงัดฟอร์มเก่งเหมือนครั้งที่เล่นให้กับ PSG ไม่ได้เลย ทำไปเพียง 9 ประตูจากโอกาสยิง 82 ครั้ง และในเกมนี้ก็เป็นอีกเกมหนึ่งที่เอ็มบัปเป โชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวัง และสิ่งสำคัญที่ทำให้เอ็มบัปเปโชว์ฟอร์มไม่ออกก็คือ คอเนอร์ แบรดลีย์ แบ็คดาวรุ่งของลิเวอร์พูล ที่เกมนี้ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม ทั้ง Assist ให้ แม็ค อัลลิสเตอร์ เข้าไปยิงประตูขึ้นนำ และการจัดการ เอ็มบัปเป ได้หมดจดตลอดเกม โอกาสการเข้ารอบของทั้ง 2 ทีม ทั้ง 2 ทีมลงเล่นใน UCL League Phase ไปแล้ว 5 เกม เหลืออีกทีมละ 3 เกม ลิเวอร์พูลชนะรวด 5 เกมเก็บ 15 คะแนนเต็ม นำเป็นจ่าฝูงในตารางคะแนน และทำให้ลิเวอร์พูล เป็นทีมแรกที่เข้ารอบเพลย์ออฟน็อคเอาท์ 16 ทีมสุดท้ายแน่นอนแล้ว ถึงจะแพ้ทั้ง 3 เกมที่เหลือก็ตาม ส่วนเรอัลมาดริด เก็บไปเพียง 6 คะแนน อยู่อันดับ 24 อันดับสุดท้ายที่ได้ข้ารอบเพลย์ออฟน็อคเอาท์ 16 ทีมสุดท้าย ยังต้องลุ้นเหนื่อยเพราะต้องเจอทั้ง อตาลันต้า และ แบรส ที่ยังมีลุ้นเข้ารอบอัตโมมัติด้วย อีกทีมคือ ซัลซ์บวร์ก ถือเป็นงานหนักที่เดียว เครดิตภาพ championsleague: ภาพปก/ ภาพประกอบ 6/ ภาพประกอบ 8/ ภาพประกอบ 9 liverpoolfc : ภาพประกอบ 1/ ภาพประกอบ 2/ ภาพประกอบ 3/ ภาพประกอบ 4 realmadrid : ภาพประกอบ 5-1/ ภาพประกอบ 5-2 optaanalyst : ภาพประกอบ 7 ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !