ภาพจาก https://pixabay.com/th/photos/เด็ก-สาด-เอเชีย-พระอาทิตย์ตก-1822688 “กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศ ฮ้า ไฮ้...” ผมว่าคงมีหลายคนที่พอจะจำเพลงท่อนนี้ได้ในตอนประถม มันเป็นช่วงชีวิตหนึ่งในวัยนั้นที่แทบทุกคนจะต้องรู้จักการกีฬา จะด้วยใจรักหรือไม่ก็แล้วแต่ แต่ผมเชื่อว่าทุกคนจะต้องรู้จักหรืออาจเล่นเป็นแทบทุกคน การกีฬานี้ผมเองก็ไม่ทราบว่าใครคือคนแรกในโลกที่คิดค้นมันขึ้นมา (ใครรู้บอกทีเถอะ) มันคือการเล่นเกมส์การแข่งขันที่สนุกมาก ๆ พร้อมกับการที่เราได้ออกเรี่ยวออกแรงไปพร้อม ๆ กัน และในบางครั้งเราอาจจะออกแรงจนเกินธรรมดาไป นั่นเพราะว่าเรามีความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะในเกมที่แสนสนุกสนานนั้นต่างหากล่ะ กีฬานี้เห็นจะเป็นยาวิเศษจริง ๆ นั่นแหละ เพราะนอกจากมันจะทำให้เราสนุกสนานกับการที่ได้ละเล่นแล้ว กีฬายังช่วยทำให้คนที่รักและชอบการเล่นกีฬามีร่างกายที่แข็งแรงอีกด้วย และผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบการเล่นกีฬามาก ๆ และก็มีเรื่องเกี่ยวกับกีฬาที่จะนำมันมาเล่าสู่กันฟังบ้างดังต่อไปนี้ ตะกร้อเป็นกีฬาชนิดหนึ่งที่ผมถนัดมาก และสุดยอดของกีฬาชนิดนี้ก็คือการเตะจักรยานอากาศ การเตะจักรยานอากาศนี้ ผมทำได้ตั้งแต่ตอนอายุสิบหกแต่ตอนนี้สี่สิบกว่าแล้ว สมัยนั้นใครเตะท่านี้ได้ดูเท่มาก ๆ (สุดยอดว่างั้น) ตอนแรกหัดแทบเป็นแทบตายแต่มาเป็นเพราะพ่อใหญ่เตี้ยคนอุบลฯเป็นคนสอนให้ ไปไหนแกจะพาผมไปด้วยตลอดเพื่อหาเตะเดิมพันรอบกรุงเทพฯ คือผมเป็นเด็กกะโปโลว่างั้น (คือไม่ได้เรียนหนังสือจบแค่ป.หก) จะว่าจรจัดก็น่าจะใช่ "มึงกระโดดสูง ๆ สิ แล้วก็เตะให้โดนลูกแรง ๆ ก็พอไม่ต้องเล่นท่าอะไรให้มันมาก ให้มันลงก็พอ" แกตะคอกเสียงบอกผมทุกครั้งที่แกเห็นว่า ที่ผมทำนั้นมันไม่ใช่การเล่นที่ถูกต้อง และนั่นล่ะคือโค้ชของเด็กกะโปโล(อิอิ) และต่อมาผมก็มีความความชำนาญในกีฬาชนิดนี้ขนาดเคยต่อมาสามหนึ่งเลยก็มี หรือบางทีให้เอามือพร้อมทั้งสามคน ขนาดนั้นยังแพ้ผมก็เยอะแยะ ผมไม่ได้โม้นะ...จริง ๆ (ฮา) ภาพจาก https://pixabay.com/th/photos/พม่า-ไทย-เล่นตะกร้อ-2455725 ต่อมา...ฟุตบอลเป็นกีฬาอีกชนิดที่ผมถนัด แถว ๆ บ้านผมเพื่อนผมชอบเรียกผมว่า "จอมเตะลูกในโทรทัศน์" นั่นคือชอบออกลีลาเหมือนระดับโลกเวลาลงสนามตอนเย็น ๆ ที่สนามในหมู่บ้าน ความจริงก่อนโน้นผมเคยเล่นที่สานมเกาะแขกเขตประเวศมาก่อนแล้ว คนดูแลเด็ก ๆ ที่นั่นคือ อดีตทีมชาติ(ชื่อไม่บอก) ก็ไปมั่วกับเขาบ่อย ๆ ก็เลยเป็นหมด ปั่นโค้ง ชิบ ลูกพุ่ง พุ่งโค้ง เลี้ยงลูก แต่ละเทคติกไม่ใช่อยู่ดี ๆ แล้วเป็น ต้องเรียนรู้ทฤษฎี และจากทฤษฎีสู่ปฏิบัติ ผมถัดเล่นฟุตบอลทั้งซ้ายและขวาพอๆกัน และเรียนรู้เกี่ยวกับกีฬาชนิดนี้มาพอสมควร เช่นการเตะลูกพุ่งและโค้งน้อยมากที่จะเตะเป็นในระดับบ้านๆ แต่ผมทำได้ แถวบ้านผมเขาเรียกการเตะแบบนี้ว่า ลูกเมซซี่(ฮา) และการเตะนั้นก็ง่ายมาก เพียงแต่เขาไม่เตะโดยอาศัยเอาแรงเป็นหลัก อิสานเรียกว่าว่า "หลูบเต๋" แต่เขาใช้วิธีอีกวิธีคือการวางเท้าให้ลูกเข้าข้อ จนลูกเข้าข้อจึงค่อยส่งบอลออกจากเท้า และพอลูกจะออกจากเท้าจึงสะบัดข้อเท้าตาม ส่งลูกให้ออกจากเท้าพุ่งไปโดยเร็วนั่นคือเทคนิค ใครชอบดูลีลาของเมซซี่บ่อย ๆ จะเห็นบ่อยว่า เมซซี่สามารถเตะบอลขณะที่มันลอยมากลางอากาศได้ โดยให้ลูกนั้นพุ่งไปในทิศทางที่สามารถควบคุมได้ นั่นคือการพักบอลไว้ที่เท้าก่อน ก่อนจะส่งบอลออกจากเท้าในอกจังหวะและการสะบัดเท้าตามนั่นคือเทคติกที่น้อยคนจะดูออกและทำได้ เท่าที่ผมสังเกตุในระดับโลก ผมว่ามีเมซซี่คนเดียวที่เก่ง ๆ ในการเตะลูกแบบนี้ แล้วเขาก็ดังจากเทคนิคนี้เอง ภาพจาก https://pixabay.com/th/photos/เด็ก-ฟุตบอล-การเล่น-เตะ-นักฟุตบอล-613199 ต่อมาปั่นโค้ง เขาเรียกการเตะแบบนี้แถว ๆ บ้านผมว่า “ลูกเบคแค้ม” เบคแค้มจริง ๆ เตะบอลไม่ค่อยเป็น และขาสองข้างก็ยาวไม่เสมอกัน มีลุกเดียวที่เบ็คแค้มเตะแล้วมั่นใจที่สุด นั่นคือการเตะแป พอจะให้ลูกมันไปแรง ๆ ก็แกว่งเท้าแรง ๆ และส่งลูกไปโดยแรง แต่การวางเท้าหลัก ๆ คือการวางเท้าแป และก็การวางเท้าแปนี่ล่ะคือการปั่นโค้ง แต่การเตะแปจะให้พุ่งโค้งต้องเตะแรง ๆ พอลูกมันพุ่งออกจากเท้าจนสุดแรงมันจะโค้งเองโดยธรรมชาติและคนที่ฝึกจนเป็นแล้วสามารถคาดคะเนได้ว่าจะให้มันพุ่งไปถึงระยะใดและโค้งตอนไหน เบคแค้มก็มีลูกเดียวที่เตะะจนดัง คือเตะแปนี่เอง ฮา ภาพจาก https://pixabay.com/th/photos/มวย-เตะล้อมประชิดมากยึดสายเคเบิ-2206273 และกีฬาอีกอย่างที่ผมถนัดคือเตะคน คือข้าง ๆ บ้านเป็นค่ายมวย และผมเองก็เตะมาตั้งแต่เด็ก ฮา จะอย่างไรก็แล้วแต่ ที่ผมเล่าเรื่องนี้ก็ไม่เพื่ออะไร ก็เพื่อหวังว่าจะให้ท่านผู้อ่านได้เห็นความสำคัญของการเล่นกีฬา ว่านอกจากมันจะทำให้เราร่างกายแข็งแรงแล้ว กีฬาบางชนิด อย่างเช่น "มวยไทย" มันยังช่วยให้เราใช้ในการป้องกันตัวได้ด้วยจากผู้ไม่หวังดี และที่สำคัญการเล่นกีฬาบ่อย ๆมันยังทำให้ร่างกายของเราแข็งแกร่งทะมัดทะแมงแข็งแรงทนทานและพร้อมที่จะสู้การสู้งานได้ทุกชนิด บ่มียั่นเลย แม้แต่เรื่องบางเรื่องก็เถอะ...ครับท่านผู้ชม