กลับมาอีกครั้งกับบอลพรีเมียร์ลีคในสัปดาห์ที่ 5 หลังจากหยุดหลีกทางให้กับสัปดาห์ฟีฟ่าเดย์ไปร่วม 10 วัน เปิดมาแมทซ์แรกก็เตะกันตอนเที่ยงแดดเปรี๊ยงๆของอังกฤษเลย ซึ่งเป็นการบุกไปเยือนวูล์ฟแธมป์ตันของลิเวอร์พูล แมทซ์นี้กูรูผู้สันทัดกรณีทั้งหลายต่างฟันธงว่าลิเวอร์พูลจะบุกไปคว้าชัยได้ ด้วยตัวผู้เล่นที่คุณภาพสูงกว่า ประกอบกับฟอร์มนัดล่าสุดก็ออกจะร้อนแรง คงไม่ใช่เรื่องยากอะไรกับการเก็บ 3 แต้มแล้วสปริงตัวเองขึ้นสู่จุดสูงสุดบนตาราง เป็นการชั่วคราวของปักษาสีเพลิง แต่รู้อะไรไหมครับคุณผู้อ่าน ไอ้ฟันธงทั้งหลายเนี่ยะไม่ต่างจากฟันแล้วทิ้งเลยนะครับ! ความรับผิดชอบหาได้มีไม่! ออกลูกเดากับมโนกันเองล้วนๆ ผ้าป่าคว่ำดับสยองศพเกลื่อนถนนกันมานับต่อนัก เพราะลิเวอร์พูลก็ยังเป็นลิเวอร์พูล แมทซ์กับวิลล่าก็แค่มายา พลพรรคหงส์แดงขนานแท้ต้องเสียประตูก่อนตอนต้นเกมเสมอ ดีแค่ไหนที่ไม่โดนใบแดงไปด้วย มันจะได้เข้าองค์ประกอบความผิดแบบที่เคยเป็นมา เกิดเป็นเด็กหงส์มันผิดอะไรนักหนา? ทำไมการดูบอลแบบสบายๆ สไตล์บอสซ่ามันถึงได้ยากเย็นแสนเข็ญขนาดนั้น! แมทซ์นี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง ความลำบากลำบนของแฟนบอลนั้นอยู่ตรงไหน มาครับผมจะเล่าให้ฟัง! 1. ตัวผู้เล่น 11 คนแรกแทบไม่เหมือนนัดก่อนกูรูท่านอื่นๆเขาน่าจะมองว่าผลการแข่งขันกับวิลล่า น่าจะทำให้ทีมหงส์แดงเข้าที่เข้าทางแล้ว แต่ความเป็นจริงคือ หลังจากกลับจากภารกิจทีมชาติ คนที่เคยมีฟอร์มการเล่นที่ดีกลับถูกเจอร์เก้น คล็อปป์ ดร็อปไว้ที่ม้านั่งสำรองข้างสนาม จะด้วยความล้าหรือบาดเจ็บสะสมกลับมาก็มิอาจทราบได้ แต่มันส่งผลถึงในสนามชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกเพราะผ่านไปร่วม 10 นาที ลิเวอร์พูลกลับได้โอกาสยิงเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น! ผมดูลิเวอร์พูลเล่นทุกนัดต้องบอกเลยครับว่านี่ไม่ใช่เรื่องปกติ! บุกแทบไม่ได้! กลางทำเกมไม่ได้เลย การไม่มี Luis Díaz , Darwin Núñez , Trent Alexander-Arnold ทำให้การเชื่อมบอลระหว่างหลัง , กลาง , หน้า พิกลพิการแบบแปลกๆ! 2. Alexis Mac Allister ผิดฟอร์มอย่างรุนแรง!หลักฐานที่พิสูจน์ความคิดของผม คือการที่เจอร์เก้น คล็อปป์เปลี่ยนแกออกในช่วงครึ่งหลัง มิดฟิลด์ตัวคุมจังหวะคนนี้ทำได้ดีมาตลอด 4 นัดแรก แต่มีนัดนี้ล่ะครับที่แกจ่ายบอลเสียหลายลูกมาก แล้วพอเสียปุ๊บ!ด้วยสกิลเฉพาะตัวของผู้เล่นวูล์ฟที่ดีและคล่อง มันคือโอกาสในการเสียประตูได้เลย แม็คอลิสเตอร์จำเป็นจะต้องหยุดไว้ด้วยการยอมเสียใบเหลือง ซึ่งนั่นก็อาจจะเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เจ้าตัวโดนเปลี่ยนตัวออก ทำเกมไม่ดี , จ่ายคิลเลอร์พาสไม่ได้ , โดนบีบเร็วทำเสียตลอด , แถมยังมาโดนใบเหลืองเร็ว ขอโทษที่ต้องพูดแรงครับ แต่ผมแอบดีใจเล็กๆเหมือนกัน ตอนที่เปิดครึ่งหลังมาแล้วเห็นว่าพี่แกนั่งทำหน้าเซ็งอยู่บนม้านั่งข้างสนาม 3. วูล์ฟเล่นโต้กลับสุดอันตราย (เล่นคล้ายนัดเจอแมนยู)อาวุธอันตรายของวูล์ฟเห็นจะเป็นความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะ แม้ว่าแมทซ์นี้พวกเขาจะเพิ่งเสีย Matheus Nunes มิดฟิลด์ตัวสำคัญไปให้กับแมนซิตี้ แต่วิธีการเล่นของพวกเขา ก็เหมือนกับตอนที่เล่นกับแมนยูเมื่อตอนเปิดฤดูกาลไม่มีผิด นั่นคือการพยายามใช้ความรัดกุมยืนปิดพื้นที่ฝั่งตนเองให้แน่น แล้วพอมีโอกาสพวกเขาก็จะโยนบอลยาว ตัดแนวกองหลังลิเวอร์พูลที่ลอยสูงขึ้นมา Pedro Neto กับ Matheus Cunha จะพาบอลควบทะยานเข้าโจมตี! พวกเขาจะเลี้ยงๆๆๆ! จี้ๆๆๆๆ! กระชาก! ผ่านทั้ง Joe Gomez และ Joël Matip ที่เชื่องช้าตามประสาคนที่ไม่ค่อยได้เล่น จนเกิดเป็นการสร้างสรรค์โอกาสได้มากมาย แมทซ์นี้วูล์ฟไม่ได้ใช้แผนรถบัสอุดประตูแต่อย่างใด พวกเขาเล่นอย่างสง่างามและมีชั้นเชิง แถมยังน่าจะทำประตูขึ้นนำลิเวอร์พูลที่อ่อนปวกเปียกในช่วงครึ่งแรกไปได้สัก 2 - 3 ลูกเลยด้วยซ้ำ 4. ลิเวอร์พูลขาด Trent Alexander-Arnold , Virgil van Dijk , Ibrahima Konaté ไม่ได้!ฟุตบอลถ้าคุณไม่เสียประตูยังไงก็ไม่แพ้ และเมื่อไม่แพ้ยังไงก็มีแต้ม จริงอยู่ว่าฤดูกาลนี้ฟานไดค์อาจจะไม่แข็งแกร่งเหมือนเดิม แต่ผมว่าก็ยังดีกว่าการใช้ Joël Matip นะครับ กองหลังแคมเมอรูนเชื่องช้าลงไปมาก คิดเอาเถอะว่าขนาดแกพยายามจะใช้ท่าถนัด อย่างการเลี้ยงบอลทะลวงผ่านขึ้นมาตรงๆ ถ้าเป็นปีก่อนแกจะพริ้วผ่านมาได้และเปิดช่องการจ่ายได้มากขึ้น แต่กับแมทซ์นี้แกก็ทำเหมือนกัน แต่ดันเลี้ยงขึ้นมาได้แค่ 2- 3 ก้าว ก่อนจะโดนตัด! โดนสวนกลับ! หวิดจะเสียประตูเอา! ฝั่ง Ibrahima Konaté ก็เช่นกัน ผมว่าแกดีกว่าเด็กเยาวชนอย่าง Jarell Quansah มาก Quansah ดูสูงยาวเข่าดีเล่นลูกกลางอากาศก็น่าจะดี แต่เขาก็เชื่องช้าในส่วนของภาคพื้น แต่ก็ว่าเด็กมันไม่ได้หรอกครับ! ฝั่งตรงข้ามคือ Pedro Neto กับ Matheus Cunha ถ้าวันนี้วูล์ฟยังมี Adama Traoré อยู่ในทีมล่ะก็ เจอ 3 คนนี้เข้าไป! ก็ปล่อยพวกพี่ๆเขาเลี้ยงบอลไปเถอะครับ ไม่มีใครหยุดพวกแกได้หรอก! ทางด้านของ Trent Alexander-Arnold นัดนี้ยิ่งเห็นชัดเลยว่าขาดเขาไม่ได้! จริงอยู่ว่าเทรนด์เองก็ไม่น่าจะรอดจากการถูกเผาเครื่องโดย Pedro Neto หรอก สกิลเกมรับของเทรนด์ไม่มีทางดีกว่า Joe Gomez แน่ๆ และแมทซ์นี้ลิเวอร์พูลก็อาจจะเสียประตูมากกว่าหนึ่งลูก แต่ทว่าเทรนด์จะสร้างโอกาสให้แก่ทีมได้อย่างแน่นอน วิชชั่นในการจ่ายบอลของเขาไม่ต่างจากเควิน เดอร์บรอยด์ แห่งแมนซิตี้ โดยส่วนตัวผมก็ได้แต่หวังว่านัดหน้าจะได้เห็นเทรนด์ กลับมาสร้างความสวยงามในเกมรุก พร้อมกับสร้างความวิบัติให้แผงรับทีมตัวเองอีกครั้ง 5. Dominik Szoboszlai ถอยมาเล่นเป็นตัวคุมเกมแล้วอย่างแจ่ม!อย่างที่เขียนไว้ข้างบนครับ ว่าครึ่งหลังแม็คอลิสเตอร์ก็โดนเปลี่ยนตัวออก ส่วนคนที่ถอยลงมาเล่นในตำแหน่งนั้นแทนก็ไม่ใช่ใคร เขาคือมิดฟิลด์รูปหล่อเท้าหนักชิบหายอย่าง Dominik Szoboszlai ของเรานี่เอง! แล้วก็ทำผลงานได้เนียนตามากๆ ผมมองว่าครึ่งหลังวูล์ฟไม่ได้ถอยลงไปเน้นอุดประตูหรอกครับ แต่เป็นเพราะเจอร์เก้น คล็อปป์ แกแก้เกมด้วยการเปลี่ยนตัวผู้เล่นเกมรุกที่มีความสดและคล่องตัวลงมามากกว่า มันทำให้จังหวะของผู้เล่นเกมรับเปลี่ยนไป ประกอบกับการออกบอลของ Dominik Szoboszlai ก็เน้นลูกง่ายๆ จ่ายแม่นๆ คมๆ สั้นสลับยาว แม้จะไม่ใช่การจ่ายคิลเลอร์พาสที่หลุดถึงประตูเลย แต่ก็เป็นการจ่ายเทไปทางซ้ายบ้างขวาบ้างเพื่อโล้ให้แนวรับวูล์ฟเสียรูปขบวน พอเกิดช่องก็จะเป็น Luis Díaz , Darwin Núñez กับ Mohamed Salah ที่สลับกันมารับบอลไปเล่นต่อ ผลคือตลอดครึ่งหลังกลายเป็นลิเวอร์พูลที่มีสถิติการครองบอลที่สูงขึ้น โอกาสยิงประตูก็มากขึ้น ส่วน Pedro Neto ของวูล์ฟที่เคยโดดเด่นในครึ่งแรกก็หายจากเกมไปเลย 6. Andrew Robertson ยิงประตูสำคัญแบบงงๆประตู 1 - 0 ที่ลิเวอร์พูลเสียตอนครึ่งแรกว่างงแล้ว เจอประตูนี้เข้าไปผมว่าระดับความงงคือพอๆกัน เพราะมันเป็นอะไรที่ประหลาดมากครับ กองหลังทั้งแผงยืนแข็งทื่อราวกับโดนสะกดจิต Pedro Neto ลากผ่านตัวรับของลิเวอร์พูล 3 คนเข้าไป assist บอลเป็นประตูฉันใด Andrew Robertson ก็ทำแบบเดียวกันฉันนั้น เริ่มจากการเก็บบอลโด่งโรยๆมาจากกลางสนาม เลี้ยงดุ่มๆทื่อๆมาทางขวาทั้งที่ไม่ใช่ตำแหน่งรับผิดชอบของตัวเอง มิหนำซ้ำยังทำชิ่งกับโม ซาร่า ทั้งที่ร้อยวันพันปีสองคนนี้ก็ไม่เคยเหยียบหญ้าฝั่งเดียวกันเลยสักครั้ง ซาร่ารอจังหวะชิ่งบอลกลับอย่างเยือกเย็น ก่อนจะเป็น Andrew Robertson กัปตันทีมในแมทซ์นี้ ที่กระแทกบอลเข้าประตูไปด้วยความสะใจ ทำเอาแฟนบอลเจ้าถิ่นเงียบกันทั้งสนาม อึ้งกันสิครับ! เพราะบทจะง่ายทำไมมันถึงเข้าง่ายขนาดนี้ก็ไม่รู้! สรุปสุดท้าย ขึ้นชื่อว่าฟุตบอลจะดูแค่ผลสกอร์ไม่ได้เลยครับ ชนะ 1- 3 ก็จริง แต่กว่าจะได้ผลการแข่งขันนี้ก็ต้องปลุกใจกันยกใหญ่ ต้องผ่านความพยายามอดทนบากบั่น โค้ชคงคิดกันหัวแทบแตก นักเตะก็ตอบสนองด้วยการวิ่งพร่านเป็นบ้าเป็นหลัง แมทซ์นี้ผมคิดว่าลิเวอร์พูลเล่นดีแค่ครึ่งเดียว พลพรรคเครื่องจักรสีแดงยังดีไม่พอที่จะเอาผลการแข่งไปอวดเบ่งใส่ใครหรอกครับ ด้วยความเคารพ คุณผู้อ่านอาจจะสะใจจนเผลอตะโกนจนแสบคอไปแล้วก็ได้ แต่สำหรับผม.. ผมว่าผมขอเก็บคอไว้กลืนน้ำลายเหนียวๆในนัดต่อไปดีกว่า เราน่าจะต้องเจอแมทซ์ยากๆแบบนี้อีกเยอะ (ถ้ายังมีครึ่งแรกแบบนี้อยู่) เครดิตรูปภาพภาพหน้าปก (1) จาก FB : Liverpoll Fcภาพหน้าปก (2) จาก FB : Liverpoll Fcรูปที่ 1 จาก FB : Liverpoll Fcรูปที่ 2 จาก FB : Liverpoll Fcรูปที่ 3 จาก FB : Liverpoll Fcรูปที่ 4 จาก FB : Liverpoll Fcรูปที่ 5 จาก FB : Liverpoll Fcรูปที่ 6 จาก FB : Liverpoll Fc ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !