นอกจากการเสริมทัพสุดเดือดในเวทีพรีเมียร์ลีกที่คนไทยชื่นชอบแล้ว ตลาดนักเตะอิตาลีก็ดุเดือดไม่แพ้กันโดยเฉพาะรองแชมป์เซเรียอาในฤดูกาลล่าสุดอย่าง " อินเตอร์ มิลาน " ที่สามารถปิดดีลกระชากนักเตะมาร่วมทีมได้เป็นรายที่สองในตลาดซัมเมอร์นี้รายแรกคือการยืมตัวเด็กเก่าอย่าง " โรเมลู ลูกากู " มาจากเชลซี ส่วนรายล่าสุดคือ " เฮนริค มคิทาร์ยาน " ราชาอาร์เมเนียจอมพเนจรที่ย้ายมาจากคู่แข่งร่วมลีกในกรุงโรม เรียกได้ว่าเป็นการเสริมทัพที่คุ้มค่ามากๆ เพราะเป็นการเซ็นฟรี หลังโรมาไม่สามารถต่อสัญญากับนักเตะได้คาดการณ์ว่าสัญญาที่มคิทาร์ยานวัย 33 ปี ได้รับนั้นจะยาวไปจนถึงปี 2024 ( รวมสองปี ) ซึ่งพอเห็นอายุส่วนตัวผมแอบตกใจเล็กน้อยครับ เพราะเราจดจำเขาได้ในฐานะดาวรุ่งฟอร์มแรงที่น่าจับตามองของดอร์ทมูน แต่หลังจากออกจากถิ่นเสือเหลืองฟอร์มของมคิทาร์ยานก็แย่ลงเรื่อยๆ จนชื่อของเขาเริ่มเลือนหายไปจากแสงสปอตไลต์ โดยในบทความนี้ผมจะพาย้อนทบทวนเส้นทางการค้าแข่งของจอมพเนจรรายนี้ให้อ่านในฉบับย่อครับส่วนตัวผมคิดว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของมคิทาร์ยานคือตอนอยู่กับดอร์ทมูนในช่วงปี 2013 – 2016 ผ่านประสบการณ์รับใช้นายใหญ่ชาวเยอรมันชื่อดังสองรายอย่าง 1) เยอร์เก้น คล็อป 2) โธมัส ทูเคิล ถึงแม้เมื่อมองจากสถิติการยิงจะน้อยกว่าตอนเล่นในยูเครนก็ตาม แต่เราต้องเข้าใจว่าระดับความเข้มข้นของลีกเยอรมันนั้นสูงกว่ามาก แถมบทบาทของเจ้าตัวก็กลายเป็นกองกลางตัวรุกเต็มตัว โดยเฉพาะในฤดูกาล 2015 - 16 ที่เขามีส่วนร่วมในการทำประตูขิงเสือเหลืองถึง 55 ประตูจากการลงสนาม 52 เกมในทุกรายการ โดยแบ่งออกเป็น 23 ประตู และจ่ายอีก 32 แอสซิสต์ แต่ฟอร์มโดยภาพรวมของทีมที่ไม่สามารถต้านทานบาเยิร์น มิวนิคได้ ทำให้แชมป์ติดมือเดียวที่ได้คือเดเอฟเอล ซูเพอร์คัพ 2014หลังจากนั้นสถานีต่อมาของเขาอยู่ที่เกาะอังกฤษกับ " แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด " ซึ่งส่วนตัวผมคิดว่ามันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชื่อของเขาเริ่มถูกมองข้าม ด้วยเหตุผลหลายอย่างทำให้เขาเป็นเพียงตัวสำรอง ไม่สามารถปรับตัวกับวัฒนธรรมปีศาจแดงได้ จากดีลความหวังก็กลายเป็นดีลสุดล้มเหลว แต่อย่างน้อยความทรงจำดีๆ คือการยิงประตูในนัดชิงชนะเลิศพาทีมคว้าแชมป์ยูโรปาลีกมาครองได้ในฤดูกาล 2016 - 17สถานีต่อไปคือการย้ายตัวไปอาร์เซนอลในฐานะข้อแลกเปลี่ยนกับดีลของ " อเล็กซิสต์ ซานเชส " แต่ฟอร์มของเจ้าตัวก็ไม่ปังเหมือนเดิม แถมภาพจำที่หลายคนไม่ลืมรวมถึงตัวผมเองด้วย นั่นคือการไม่เดินทางไปแข่งในนัดชิงชนะเลิศศึกยูโรปาลีกที่แข่งในอาเซอร์ไบจาน ด้วยปัญหาด้านความปลอดภัยทางการเมือง ซึ่งรายละเอียดผมไม่ขอกล่าวถึงมากมาย ก่อนจะปิดฉากเส้นทางลูกหนังในอังกฤษสามปีโดยการย้ายไปเล่นในอิตาลีซึ่งหลายคนอาจไม่ได้ตามดูฟอร์มของเขากับโรมาบ่อยเท่าที่ควร แต่ส่วนตัวผมคิดว่านี่คือการกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งในฐานะกองกลางตัวรุกจอชั้นเชิง ถึงแม้ฟอร์มจะไม่เด่นเท่าสมัยอยู่กับดอร์ทมูน แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาจะเจอบ้านที่ใช้สำหรับตัวเองอีกครั้งหลังจากพเนจรไปนาน และเขาก็คือหนึ่งในกำลังสำคัญที่พาทีมหมาป่ากรุงโรมคว้าแชมป์ฟุตบอลยุโรปถ้วยใหม่อย่าง “ ยูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก ” เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์นับเป็นการอำลาที่สวยงามเลยทีเดียว และถึงแม้ในฤดูกาลใหม่ที่จะเริ่มเปิดฉากในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ภายใต้สีเสืออินเตอร์เขาจะเป็นได้แค่ตัวสำรองก็ตาม แต่ผมเชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์มากมายที่สะสมมา จะช่วยให้ทัพงูใหญ่มีทางเลือกเชิงลึกให้แก้เกมมากขึ้น และผมก็มั่นใจว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่อินซากี้ตัดสินใจส่งมคิทาร์ยานลงสนาม ราชาอาร์เมเนียจอมพเนจรคนนี้จะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนครับ** แหล่งที่มารูป ภาพปก /ภาพประกอบ 1 , 2 , 3 , 4 จาก micki_taryan*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"* ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565