ทราบกันหรือไม่ว่าประเทศอังกฤษนั้นเป็นพวงมาตรฐานและเริ่มเล่นกีฬาซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือกีฬาปิงปองหรือที่รู้จักกันในชื่อว่า “เทเบิลเทนนิส” ซึ่งเป็นกีฬาที่มีผู้คนนิยมเล่นกันทั่วโลก กว่าจะเกิดเป็นกีฬาเทเบิลเทนนิสไม่ได้ง่ายๆ ผู้เขียนขอทำการเล่าถึงประวัติของความเป็นมาของกีฬาปิงปองให้ทราบการดังต่อไปนี้ การเริ่มเล่นกีฬาปิงปองนั้นไม่ทราบว่าเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่โดยทั่วไปเป็นที่ยอมรับกันซึ่งเล่นกันครั้งแรกในประเทศอังกฤษ โดยทหารอังกฤษที่ประจำอยู่ในอินเดียและแอฟริกาเป็นผู้เอากีฬาประเภทนี้มาเผยแพร่ หลังจากที่เห็นว่าชาวเมืองเล่นกันจนกลายเป็นกีฬาประจำราชสำนักในคริสต์ศตวรรษที่ 19 เดิมทีการเล่นปิงปองในประเทศอังกฤษเป็นสิ่งที่เรียบง่ายมากและมันไม่ได้เรียกว่าปิงปองหรือเทเบิลเทนนิส แต่มีชื่อที่เรียกกันว่า “วิฟ วาฟ” (Whiff-Whaff) ซึ่งอุปกรณ์ในการเล่น จะใช้โต๊ะที่ขนาดพอเหมาะสำหรับวางในห้องนั่งเล่น ซึ่งมีการแบ่งครึ่งโต๊ะด้วยหนังสือใช้แผ่นไม้หรือกระดาษแข็งที่ทำขึ้นมาเพื่อตีลูกที่ทำจากไม้ก๊อกที่หุ้มด้วยยาง หรือลูกยาง ลองนึกสภาพเหมือนมีไม้ก๊อกอยู่ข้างในแล้วเอายางยืดมาหุ้มเอาไว้จะให้ตัวลูกนั้นสามารถตีแล้วเด้งกระทบกลับไปได้ ต่อมาในปีคริสต์ศักราชที่ 1900 นายเจมส์ กิบบ์ ได้เลือกนำเซลล์ลอยมาใช้ในการทำลูกปิงปอง ซึ่งเมื่อตีลูกปิงปองที่ทำจากไทรอยด์จะมีเสียงดัง ปิงและปอง จึงได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของกีฬาที่เรียกกันว่าปิงปองจนถึงปัจจุบันนี้ ภายหลังจากที่ลูกปิงปองที่ถูกผลิตขึ้นจากเซลล์ร้อยเป็นที่นิยมต้นปี ค.ศ. 1920 ประชาคมยุโรปได้ทำการเปลี่ยนชื่อกีฬาปิงปองอย่างเป็นทางการที่เรียกกันว่าเทเบิลเทนนิส และได้มีการจัดตั้งสมาคมเทเบิลเทนนิสขึ้นเป็นที่แรกในโลกซึ่งตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษ กลายเป็นกีฬาที่ถูกบรรจุอยู่ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์หรือกีฬาระดับโลก จนกลายเป็นกีฬาในยุคปัจจุบัน ภาพโดย djimenezhdez จาก Pixabay อุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่นเทเบิลเทนนิสหรือปิงปองนั้นมีอยู่ด้วยกันหลัก ๆ เพียง 3 อย่าง นั่นก็คือไม้เปล่าที่ติดอยู่กับยาง ลูกปิงปอง และโต๊ะปิงปองที่มีตาข่ายกั้นแบ่งเขตเรียบร้อย กีฬาปิงปองจัดว่าเป็นกีฬาที่เล่นได้ตลอดเวลาเพราะถือว่าเป็นกีฬาที่อยู่ในที่ร่ม อาจจะต้องอาศัยโต๊ะปิงปองในการใช้สำหรับเล่นเพื่อตีโต้ตอบกันไปมา ซึ่งวิธีการแข่งขันเป็นที่ทราบดีกันอยู่แล้วว่าการตีปิงปองจะต้องตีให้ลูกปิงปองกระทบลงบนโต๊ะของฝ่ายตรงข้ามและมีการตีโต้กับให้กระทบลงบนโต๊ะของฝ่ายตรงข้ามอีกด้านหนึ่ง ฝ่ายใดที่ไม่สามารถตีลูกกลับมาได้หรือทำผิดกติกา จะถือว่าเป็นผู้ที่พ่ายแพ้ไป ภาพโดย Brett Hondow จาก Pixabay การจัดการแข่งขันกีฬาปิงปองนั้นในประเทศไทย ได้มีการจัดตั้งสมาคมขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2500 ซึ่งในประเทศไทยนั้นได้มีการแข่งขันเพื่อชิงถ้วยพระราชทานจากครองถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และ ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และยังมีการแข่งขันอีกหลายรายการทั้งการแข่งขันในประเทศ และการแข่งขันต่างประเทศ สามารถติดตามข่าวคราวการแข่งขันหรือรางวัลที่ได้สามารถดูได้ที่เว็บไซต์สมาคมปิงปองแห่งประเทศไทยจุดเด่นของกีฬาปิงปองนั้นคือจัดเป็นกีฬาที่สามารถเล่นได้ทุกเพศทุกวัย ซึ่งเด็กตัวเล็กก็สามารถหัดเล่นหัดเดาะลูกปิงปองได้ โดยอาจจะไม่ต้องให้ตีข้ามโต๊ะกันเหมือนกับกฎกติกาที่แข่งขันกันเหมือนกับผู้ใหญ่ อีกทั้งยังเป็นกีฬาที่อยู่ในที่ร่มดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงเรื่องความร้อนของอากาศภายนอกหรืออุปสรรคที่เกิดจากสภาพแวดล้อม แต่อาจจะมีข้อเสียอยู่ที่ราคาของโต๊ะปิงปองอาจจะแพง แต่ตัวไม้และลูกปิงปองไม่ได้ราคาสูงมาก ซึ่งราคาจะขึ้นตามคุณภาพของยางและลูกปิงปอง สุดท้ายนี้ กีฬาปิงปองยังจัดว่าเป็นกีฬาที่เล่นได้ง่าย ไม่ได้ใช้กำลังหนักมาก สามารถสอนให้เด็กหัดเล่นกีฬาปิงปองเพื่อให้เด็กฝึกสมาธิในการเดาะลูกปิงปองได้ จากที่กล่าวไปข้างต้นจะเห็นได้ว่ากว่าจะมาเป็นลูกปิงปองหรือกีฬาเทเบิลเทนนิสในปัจจุบันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีกีฬามากมายหลากหลายชนิดให้เลือกสรร แต่กีฬาปิงปองก็ยังคงเป็นกีฬาที่ได้รับความสนใจและยังมีการแข่งขันอยู่ในระดับโรงเรียนและมหาวิทยาลัย ซึ่งจัดว่าเป็นกีฬาที่เข้าถึงได้ง่ายพอ ๆ กับฟุตบอล บาสเกตบอล วอลเลย์บอล และเซปักตะกร้อ กีฬาทุกชนิดมีข้อดีในตัวของมัน ข้อดีที่ทุกคนรู้กันคือช่วยให้สุขภาพดีขึ้นได้ออกเหงื่อได้ออกกำลัง ถึงกีฬาปิงปองจะไม่ต้องใช้แรงกายสูงมากในการเล่น ก็จัดว่าเป็นกีฬาที่ได้ทั้งความสนุก และความสะใจเมื่อแข่งขันชนะเช่นกัน