(ที่มาภาพ: https://pixabay.com) ใครจะคิดว่าอยู่ ๆ ในวันนึง เพียงแค่การนั่งเฉย ๆ เหม่อมองออกไปตามวิวข้างหน้า ทำหัวให้ว่างเปล่าไม่ต้องคิดอะไร จะกลายเป็นกีฬา และจัดการแข่งขันขึ้นอย่างจริงจังได้ โดยประเทศแรกที่เริ่มต้นการแข่งขันนี้ก็คือประเทศเกาหลีใต้นั่นเอง โดยการจัดแข่งขันครั้งแรกถูกจัดขึ้นการการรวมตัวของกลุ่มศิลปะกลุ่มหนึ่ง ที่ได้มาร่วมแข่งขันกันในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งของประเทศเกาหลี ซึ่งนับว่าเป็นสถานที่สาธารณะที่ผู้เข้าแข่งขันต้องใช้สมาธิเป็นอย่างมากเพราะมีเสียงรบกวนค่อนข้างเยอะ (ที่มาภาพ: https://unsplash.com/photos/D9r16oq7fWU) โดยกิจกรรมการแข่งขันนั่งเหม่อนี้ มีวัตถุประสงค์จัดขึ้นเพื่อที่อยากจะเสียดสีถึงการใช้เครื่องมือสื่อสารในประเทศเกาหลีที่มีมากเกินไป จึงคิดว่าประชากรในประเทศจะทำได้ไหมหากจะต้องนั่งเฉย ๆ เป็นชั่วโมงโดยที่ไม่ต้องจับโทรศัพท์มือถือ และไม่คิดอะไร ปล่อยจิตใจและสมองให้ว่างเปล่า ให้มันได้พักผ่อนจากความเครียดทั้งหลาย โดยวิธีการแข่งขันคือ ผู้เข้าแข่งขันจะต้อง 'ไม่ทำอะไรเลย' เป็นเวลา 90 นาที มีกฎเพียงแค่ว่า ห้ามหลับ ห้ามสัปหงกหรือหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอ่านนั่นเอง (ที่มาภาพ: https://unsplash.com/photos/kwSg-CnWvdc) การออกกำลังกายหรือกิจกรรมทุกอย่างย่อมที่จะได้รับผลประโยชน์ คือ ร่างกายแข็งแรง ได้พัฒนาทักษะบางอย่าง แต่ถ้าเป็นการแข่งขันนั่งเหม่อ เราจะได้อะไรจากการแข่งขันนี้ล่ะ? มีผู้สังเกตการณ์ผู้ที่เข้าแข่งขันการนั่งเหม่อ หลังจากจบการแข่งขันเธอพบว่าหน้าตาของผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนดูสดชื่นขึ้นเหมือนได้นอนเต็มอิ่ม การนั่งเหม่อโดยที่ในหัวไม่ได้คิดอะไรเลยก็เหมือนเป็นการพักผ่อนสมองนั่นเอง การที่มีสมองที่โล่งและว่างเปล่าอาจจะทำให้เราได้ไอเดียหรือความคิดอะไรใหม่ ๆ ขึ้นมาก็ได้ (ที่มาภาพ: https://unsplash.com/photos/1MlMA5njI0c) การนั่งเหม่อจริง ๆ ก็คล้ายกับการนั่งสมาธิในประเทศไทยเลยนะคะ เพียงแค่เรานั่งสมาธิปล่อยจิตให้สงบ เราก็จะเป็นคนที่มีสติและความคิดมากขึ้นนั่นเอง โดยการแข่งขันนี้นอกจากจะมีการแข่งขันในประเทศเกาหลีใต้แล้ว ยังลามไปถึงเมืองปักกิ่ง เนเธอร์แลนด์ และไทเปอีกด้วย ทำให้เห็นว่าหลาย ๆ ประเทศก็ให้ความสำคัญกับกิจกรรมที่เรียบง่าย แต่ได้ประโยชน์เหมือนกันอีกด้วย หากมีเวลาว่างทุกคนลองดูกันได้นะคะ เป็นกิจกรรมที่ไม่ต้องใช้อะไรเลย นอกจากใจและกายของเรา ลองทำวันละ 15 - 30 นาทีก็ยังดีค่ะ ส่วนตัวเราวันนี้ขอตัวลาไปนั่งเหม่อก่อนนะคะ ไว้เจอกันค่า :) เนื้อเรื่องโดย Lemoncandy ภาพประกอบโดย Pixabay, Unsplash