ลิเวอร์พูล สโมสรที่ต่อสู้กับเสียงกร่นด่ามาตลอดกว่า 30 ปี ในยุคของพรีเมียร์ลีกซึ่งแน่นอนว่าก่อนที่จะก้าวคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2019–2020 ซึ่งแม้กว่าจะมาถึงวันนี้เหล่าสาวกของหงส์แดงต่างก็ต้องก้าวผ่านความล้มเหลวมานักต่อนัก นี่ยังไม่ร่วมคำที่โดนแฟนบอลทีมอื่นเหยียบย้ำซ้ำเติมตลอดช่วงเวลากว่าสามสิบปี แต่ในตอนนี้สโมสรที่ยิ่งใหญ่ไม่ได้เป็นอย่างในอดีตอีกต่อไปแล้ว ในบทความนี้จะพาไปจัดอันดับ 8 ผู้จัดการทีมในยุคของพรีเมียร์ลีก จากผลงานแย่ที่สุดไปถึงผู้จัดการทีมที่มีผลงานดีที่สุด ตลอดเวลากว่าสามสิบปีที่ผ่าน มีใครที่โดนใจเหล่าสาวก The Kopp กันบ้าง อันดับที่ 8 รอย ฮอดจ์สัน นี่คือผู้จัดการทีมที่เชื่อสาวกลิเวอร์พูลยุค 90 น่าจะคุ้นเคยกันดี เพราะเป็นผู้จัดการทีมเสริมนักเตะอย่างบ้าคลั่ง แต่กลับไม่สามารถพาสโมสรแห่งนี้ไปสู้ความสำเร็จได้เลย โดยการเซ็นนักเตะนตลาดซื้อขายช่วงซัมเมอร์เดียวถึง 8 ราย มีรายชื่อทั้งหมดดังนี้ ราอูล ไมเรเลส, โจ โคล, คริสเตียน พูลเซ่น, พอล คอนเชสกี้, แบรด โจนส์, แดนนี่ วิลสัน, จอนโจ เชลวีย์ และ มิลาน โยวาโนวิช นี่เป็นผู้จัดการทีมที่ใช้เงินเสริมนักเตะในฤดูกาลเดียวเกือบ 180 ล้านปอร์น (อ้างอิงจากข้อมูลการซื้อขายโดยประมาณ) นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้จัดการรายนี้อยู่ได้เพียงฤดูกาลเดียวในปี 2010–2011 อันดับที่ 7 แกรม ซูเนสส์ ผู้จัดการทีมชาวสกอตกลายเป็นผู้จัดการทีมที่ปลุกความฝันที่จะก้าวไปคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกของลิเวอร์พูล ด้วยการคว้านักเตะมาร่วมทีมเพียงไม่กี่รายแต่สามารถพาทีมจบอันดับที่หกได้ถึงสองฤดูกาลติดต่อกัน โดยนักเตะเหล่านั่นเชื่อว่าสาวกลิเวอร์พูลรุ่นเดอะหน่อยย่านะคุ้นชื่อกันเป็นอย่างดี อาทิเช่น เอียน รัช , จอห์น บาร์นส์ , สตีฟ แม็คมานามาน และ ร็อบบี ฟาวเลอร์ แต่ถึงแม้จะไม่สามารถพาทีมจบด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก แต่ก็ยังเป็นผู้จัดการทีมที่มแชมป์ติดมือ นั่นก็คือการคว้าแชมป์เอฟเอคัพในปี 1991-1992 แม้ว่าแชมป์นี้จะอยู่ในช่วงที่ยังไม่ได้ถูกเรียกว่าพรีเมียร์ลีก แต่ก็ถือว่าเป็นผู้จัดการทีมที่เป็นที่รักของเหล่าสาวกหงส์แดงคนหนึ่ง แกรม ซูเนสส์ ลาออกจากผู้จัดการทีมในเดือนมกราคม 1994 หลังจากเกมที่แพ้ให้กับกับบริสตอล ซิตี้ ซึ่งเป็นสปิริตของเจ้าตัวกับการเซ่นผลงานที่ตกต่ำในช่วงนั้น อันดับที่ 6 เคนนี่ ดัลกลิช เริ่มต้นจากการเป็นผู้จัดการทีมชั่วคราวหลังจากที่ รอย ฮอดจ์สัน ถูกไล่ออกในเดือนมกราคม 2011 แต่แล้วผลงานของเจ้าตัวกลับทำได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งนักตะที่พาลิเวอร์พูลมาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมและกลายเป็นนักเตะที่แฟนลิเวอร์พูลหลายคนรู้จักเป็นอย่างดีนั่นก็คือ หลุยส์ ซัวเรซและ แอนดี้ แคร์โรลล์ การเข้ามาของสองรายนี้ก็เอามาทดแทนตำแหน่งของ เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่ย้ายไปยัง เชลซี แม้ว่า เคนนี่ ดัลกลิช จะทำหน้าที่ได้เพียงฤดูกาลเดียวในปี 2011–2012 แต่ก็สามารถพาทีมคว้าแชมป์ลีกคัพ ในฤดูกาลเดียวกันได้ อันดับที่ 5 รอย อีแวนส์ ได้เข้ามารับตำแหน่งหลักจาที่ แกรม ซูเนสส์ ได้ลากออกจากตำแหน่งในปี 1994 แม้ว่าการเข้ามาของเจ้าตัวนั้นจะถูกแฟนลิเวอร์พูลมอว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง แถมยังไม่มีความเชื่อมั่นจากผู้จัดการทีมรายนี้ว่าจะพากลับมายิ่งใหญ่ได้ แต่แล้วสิ่งนี้ก็ถูกลบล้างไปด้วยการจบอันดับที่สามหรือหรืออันดับที่สี่ ในช่วงที่เขานั้นเป็นผู้จัดการทีมในช่วงปี 1994 - 1998 แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถพาทีมไปถึงตำแหน่งแชมป์ได้ อาจะเพราะความโชคร้ายที่ทีมคู่รักคู่แค้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังอยู่ในยุคของความรุ่งโรจน์ ทำให้แม่ว่าผลงานจะไม่ได้แย่แต่ก็ไม่สุดท้าย รอย อีแวนส์ ลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมในปี 1998 อันดับที่ 4 เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นี่เป็นผู้จัดการทีมที่พาลิวเวอร์พูลเข้าใกล้คำว่าแชมป์ในปี 2013-14 อีกทั้งยังเป็นผู้จัดการทีมที่เชื่อว่าแฟนลิเวอร์พูลหลายคนไม่อยากให้ลากออกจากตำแหน่งในตอนนั้น แต่งานเลี้ยงก็มีวันเลือกลาหลังจากที่พาลิเวอร์พูลจบที่อันดีบรองแชมป์ในปี 2013 -2014 หลังจากนั้นสองปีถะชัดมาก็ได้ถูกปลดจากผู้จัดการทีม เพราะผลงานที่กำลังดิ่งลงเหวนั่นเอง ผลงานของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ตลอดเวลาที่เป็นผู้จัดการทีมหงส์แดง ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ เอฟเอคัพ และ ลีกคัพ ในฤดูกาลเดียวแต่ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์ได้ แต่ด้วยผลงานที่พาลิเวอร์พูลอยู่ในช่วงที่รุ่งโรจน์ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จกับการเป็นผู้จัดการทีมในถิ่นแอนฟิลด์คนหนึ่ง อันดับที่ 3 ราฟาเอล เบนิเตซ เป็นผู้จัดการทีมที่พาหงส์แดงก้าวไปคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกครั้งแรกในรอบในรอบ 21 ปี ซึ่งเกิดขึ้นในฤดูกาล 2004-2005 ในปีเดียวกันก็คว้าแชมป์ ยูฟ่าซูเปอร์คัพ ในฤดูกาล 2005-2006 ก็คว้าแชมป์ เอฟเอคัพ หลังจากเอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ดในรอบชิงชนะเลิศ แต่ก็ต้องยอมรับแหละว่าความยิง่ใหญ่และความต้องการของสโมสรแห่งนี้คือการเป็นแชมป์พรีเมียร์หลีก เพราะหลังจากปี 2006 ผลงานของ ราฟาเอล เบนิเตซ ก็ดูจะถดถอยอย่างมากจนสุดท้ายก็แยกทางกับสโมสรในปี 2010 ด้วยผลงานที่พาทีมจบอันดับที่ 7 อันดับที่ 2 เจอราร์ด อุลลิเยร์ เป็นผู้จัดการทีมที่คว้าแชมป์อย่างมากมายให้กับสโมสรลิเวอร์พูล โดยตลอดเวลาหกปีที่เขาทำงานให้กับสโมสร ซึ่งเริ่มต้นด้วยการทำงานร่วมกับ รอย อีแวนส์ ในปี 1998 จนก้าวมาเป็นผู้จัดการเต็มตัวในปี 1999 – 2004 โดยพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอคัพ 1สมัย ในปี 2000–2001 ลีกคัพ 2 สมัย ในปี 2000–2001และ 2002–2003 เอฟเอคอมมูนิตีชีลด์ 1สมัย ในปี 2001 ยูฟ่าคัพ 1 สมัย ในปี 2000–2001 และ ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 1 สมัย ในปี 2001 ซึ่งในฤดูกาล 2001-02 เจอราร์ด อุลลิเยร์ พาทีมหงส์แดงจบที่อันดับ 2 ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนในพรีเมียร์ลีก เจอราร์ด อุลลิเยร์ ลาออกจากตำแหน่งในปี 2004 เพื่อแสดงความรับผิดชอบหลังจากที่ไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สองฤดูกาลติดต่อกัน อันดับที่ 1 เจอร์เกน คล็อปป์ ไม่ต้องสงสัยเลยผู้จัดการทีมชาวเยอรมันจะได้รับถูกยกให้เป็นผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดของลิเวอร์พูลในยุคพรีเมียร์ลีก ซึ่งแน่นอว่าก็แฟนหงส์แดงบางคนที่ไม่ได้เห็นด้วยกับการให้ผู้จัดการคนนี้เป็นผู้จัดการที่ดีที่สุด แต่หากมองลึกไปกว่าคำว่าแชมป์พรีเมียร์ลีกที่รอคอย ผู้จัดการคนนี้ยังสร้างนักเตะที่ค่าตัวไม่มาก แต่ผลงานระดับเทพให้กับสโมสรแห่งนี้หลายราย อีกทั้งยังให้โอกาสเด็กสายเลือดลิเวอร์พูลได้โชว์ศักยภาพในเวลาระดับโลก นี่คือการสร้างอนาคตของสโมสรที่มั่นคงเป็นการสร้างบรรทัดฐานให้กับสโมสรอย่างแท้จริง ความสำเร็จของ เจอร์เกน คล็อปป์ ภายใต้สโมสรลิเวอร์พูลแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019–20แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 รองชนะเลิศ ฤดูกาล 2017–18แชมป์ยูฟ่าซูเปอร์คัพ ฤดูกาล 2019แชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก ฤดูกาล 2019แชมป์ฟุตบอลลีกคัพ รองชนะเลิศ ฤดูกาล 2015–16แชมป์ยูฟ่ายูโรปาลีก รองชนะเลิศ ฤดูกาล 2015–16 นั่นคือ 8 ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลในยุคพรีเมียร์ลีก ที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับสโมสรแหล่งนี้ ไม่ว่าใครจะอยู่ลำดับที่เท่าไหร่ก็ตาม เหล่าผู้จัดการทีมทั้งหมดก็คือคนที่สร้างสโมสรด้วยความรักอย่างแท้จริง ซึ่งก็ต้องกล่าวคำว่าขอบคุณสำหรับเหล่าบรรดาผู้จัดการทีมทั่งหลายเหล่านี้ที่ได้ร่วมกันสร้างทีม ฝ่าฟันอุปสรรคนา ๆ จนพาทีมมาสู่ยุคที่รุ่งโรจน์ พร้อมที่จะก้าวไปคว้าทุกแชมป์ที่อยู่ข้างหน้าเพื่อความสุขของเหล่าสาวก THE KOPP ทั่วโลกข่าวที่เกี่ยวข้องเบิร์นลี่ย์ vs ลิเวอร์พูล :: ฌอน ไดช์ สถิติในบ้านสวย หงส์แดง สถิติเกมเยือนน่าห่วงวูล์ฟแฮมป์ตัน vs อาร์เซนอล วิเคราะห์ก่อนเกม:: หมาป่าลุ้นไร้พ่ายแปดนัดติด ปืนใหญ่หลังน่าห่วงเจาะจุดแข็ง รู้จุดอ่อน สูตรสำเร็จ ลิเวอร์พูล ลุ้นคว้าแชมป์โค้งสุดท้าย4 ประเด็นใหญ่ "ลิเวอร์พูล" กับโอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2022จับตาดู 5 ดาวรุ่งลิเวอร์พูลฟอร์มแจ่ม ฤดูกาล 2021-2022เครดิตภาพปก twitter.com/LFC :: ภาพที่ 1 , ภาพที่ 2 , ภาพที่ 3 , ภาพที่ 4 เครดิตภาพประกอบ twitter.com/WatfordFC :: ภาพที่ 1 , twitter.com/LFC :: ภาพที่ 2 , ภาพที่ 3 , ภาพที่ 4 , ภาพที่ 5 , ภาพที่ 6 , ภาพที่ 7, ภาพที่ 8ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !