รีเซต
TRUE TALK : ผลสอบ "โค้ชโย่ง-แข้งช้างศึก" คืนฟอร์มถล่มกัมพูชา ซีเกมส์ 2017 ... by "บก.เก้น"

TRUE TALK : ผลสอบ "โค้ชโย่ง-แข้งช้างศึก" คืนฟอร์มถล่มกัมพูชา ซีเกมส์ 2017 ... by "บก.เก้น"

TRUE TALK : ผลสอบ "โค้ชโย่ง-แข้งช้างศึก" คืนฟอร์มถล่มกัมพูชา ซีเกมส์ 2017 ... by "บก.เก้น"
kentnitipong
20 สิงหาคม 2560 ( 22:36 )
6.8K

TRUE TALK : กลับมาเรียกศรัทธาจากแฟนบอลชาวไทยได้ในระดับหนึ่ง หลังทัพ “ช้างศึก” ภายใต้การนำของ “โค้ชโย่ง” วรวุฒิ ศรีมะฆะ คืนฟอร์มเก่ง (ครั้งแรก) ใน ซีเกมส์ 2017 ด้วยการไล่ถล่ม กัมพูชา ที่ขนผู้เล่นดาวรุ่งแต่พกดีกรีติดทัพ “อังกอร์ วอร์ริเออร์” ชุดใหญ่มาหลายคน

 

 

วันนี้ Sport.trueid.net จะพาทุกท่านมาติดตาม TRUE TALK : ผลสอบ “โค้ชโย่ง-แข้งช้างศึก” คืนฟอร์มถล่มกัมพูชา ซีเกมส์ 2017 มาดูกันว่าแข้งทีมชาติไทยชุดนี้ รวมถึง “โค้ชโย่ง” จะได้คะแนนมากน้อยแค่ไหนจากการเอาชนะ กัมพูชา ไป 3-0 ในแมตช์ที่สามของศึกลูกหนังซีเกมส์หนนี้

 

ระบบ : 4-2-3-1

นนท์ ม่วงงาม (เชียงราย ยูไนเต็ด) : 6.5 คะแนน 

ป้องกันลูกยิงของแนวรุกกัมพูชาได้อย่างยอดเยี่ยม ถือเป็นจังหวะสำคัญที่สร้างความมั่นใจให้กับเพื่อนร่วมทีมได้เป็นอย่างมาก โดยรวมยังถือเป็นคนที่ทำผลงานได้อย่างคงเส้นคงวา และรักษามาตรฐานของตัวเองเอาไว้ได้

 

 

สุริยา สิงห์มุ้ย (เชียงราย ยูไนเต็ด) : 6.5 คะแนน 

มีจังหวะเติมเกมสวยๆ ขึ้นมาหลายจังหวะ แต่ยังขาดทีเด็ดในเรื่องของการเปิดบอลจนทำให้ทีมพลาดโอกาสในการลุ้นจบจากลูกกลางอากาศ แต่อย่างไรก็ตาม เกมนี้ “เจ้าเธค” สามารถใส่ชื่อตัวเองเข้าไปในฐานะคนแอสซิสต์ให้เพื่อนทำประตูได้ในที่สุด และน่าจะเพิ่มความมั่นใจให้กับเจ้าตัวในการเบียดพื้นที่แบ็กซ้ายตัวจริงกับ เควิน ดีรมรัยม์ ได้อย่างสนุกแน่

 

วรวุฒิ นามเวช (ศรีสะเกษ เอฟซี) : 6 คะแนน

กลับมาคืนตัวจริงอีกครั้ง หลังจากพลาดท่าทำให้ทีมเสียจุดโทษไปในแมตช์แรกกับ อินโดนีเซีย ซึ่งเกมนี้เจ้าตัวสามารถรับมือกับหัวหอกของทีมคู่แข่งได้อย่างมั่นใจ โดยเฉพาะลูกเคลียร์ที่เด็ดขาด แต่อาจยังต้องปรับในเรื่องของการอ่านบอลจังหวะแรกที่ยังดูกั๊กๆ กับเพื่อนร่วมทีมอยู่

 

ศฤงคาร พรมสุภะ (ระยอง เอฟซี) : 6.5 คะแนน

แก้ตัวจากนัดที่แล้วได้พอสมควร หลัง “เจ้าเหน่ง” อาศัยประสบการณ์ และการเข้าบอลที่ค่อนข้างหนัก ทำให้แนวรุกของกัมพูชาเกิดอาการแหยงไปเหมือนกัน เชื่อว่าหากได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง เซนเตอร์ฮาล์ฟจาก ระยอง เอฟซี รายนี้ น่าจะเป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ ของทีมในเกมที่เหลืออย่างแน่นอน

 

รัตนากร ใหม่คามิ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) : 6 คะแนน

อาจจะไม่ได้โดดเด่นแบบสุดๆ แต่ฟอร์มโดยรวมของ “เจ้าเกม” ก็ไม่ได้ย่ำแย่ อาจจะมีบางจังหวะที่โดนริมเส้นด้านซ้ายกัมพูชารุมเล่นงานอย่างหนัก แต่แนวรับจากค่าย “ปราสาทสายฟ้า” รายนี้ก็ยังสามารถเอาตัวรอดมาได้ทั้งๆ ที่ไม่ได้ลงเล่นในบทบาทที่ถนัดนัก

 

พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล (เชียงราย ยูไนเต็ด) : 6.5 คะแนน

เล่นได้นิ่ง ออกบอลง่าย เข้าแย่งบอลจากแนวรุกกัมพูชาได้ค่อนข้างดี อาจจะมีแค่จังหวะเปลี่ยนจากรับเป็นรุกที่ยังดูช้าไปนิดนึง ถ้าเจ้าตัวปรับสปีดบอลให้เร็วกว่านี้ได้ พิธิวัต จะกลายเป็นอีกหนึ่งห้องเครื่องที่น่ากลัวไม่น้อยสำหรับทีมชาติไทยในอนาคต

 

วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (ชลบุรี เอฟซี) : 6.5 คะแนน

กล้าเลี้ยง กล้าเล่น กล้าจ่ายมากขึ้น ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นผลหลังจากโหม่งพังประตูได้ในเกมนัดที่แล้ว ทำให้ความมั่นใจของดาวเตะรายนี้ดูเพิ่มขึ้นมาไม่น้อย

ด้วยวัยเพียงแค่ 19 ปี “เจ้ายิม” ถือว่าสอบผ่านหากเทียบกับการแบกอายุลงเล่นในรายการนี้ ถือเป็นเกมที่เพลย์เมคเกอร์รายนี้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่ดีกว่าเกมที่ผ่านมา เราได้แต่หวังว่า วรชิต จะสามารถยกระดับการเล่นของตัวเอง และเร่งฟอร์มตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนพาทีมชาติไทยชุดนี้ฝ่าด่านเข้าไปคว้าเหรียญทองให้ได้ในซีเกมส์ 2017

 

เชาว์วัฒน์ วีระชาติ (บางกอกกล๊าส เอฟซี) : 5.5 คะแนน

ยังไม่สามารถพิสูจน์ให้เราเห็นได้ว่าเจ้าตัวคือจอมทัพในแดนกลาง เพราะทีเด็ดทีขาดอย่างลูกยิงไกล รวมถึงจังหวะแทงบอลทะลุช่องนั้นยังน้อยเกินกว่าจะสร้างความอันตรายได้ เป็นอีกเกมที่ “เจ้าอินซ์” อยู่ในสนามไม่ครบ 90 นาที และถูกเปลี่ยนตัวออกทันทีหลังจบครึ่งแรก

 

 

พิชา อุทรา (พัทยา ยูไนเต็ด) : 7 คะแนน

โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นอย่างต่อเนื่องเป็นนัดที่สองติดต่อกันสำหรับแนวรุกร่างจิ๋วที่เคยไปฝึกปรือฝีเท้ากับ “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด มาแล้ว และในวันนี้ “เจ้าเคน” ก็ไม่ทำให้แฟนบอลชาวไทยผิดหวัง หลังปรี่เข้าไปชาร์จจ่อๆ ในกรอบเขตโทษให้ทัพ “ช้างศึก” ขึ้นนำ 1-0 ก่อนจะคว้าชัยในนัดนี้ได้สำเร็จ

ความคล่องตัว บวกกับความมุ่งมั่น และกระหายในชัยชนะ คือสิ่งที่มีอยู่ในตัว พิชา อยู่เต็มเปี่ยม และหากเจ้าตัวยังคงรักษาสิ่งเหล่านี้เอาไว้ได้ มั่นใจว่า “เจ้าเคน” จะก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งคีย์แมนคนสำคัญที่ “โค้ชโย่ง” ต้องหนีบเอาไว้ หากยังหวังที่จะล่าเหรียญทองในซีเกมส์หนนี้

 

 

ชัยวัฒน์ บุราญ (เชียงราย ยูไนเต็ด) : 3 คะแนน

อารมณ์ชั่ววูบ บวกกับการตัดสินใจที่ผิดพลาดในช่วงเสี้ยววินาทีช่วงท้ายครึ่งแรก นำมาซึ่งใบแดง และนั่นคือจุดที่ทำให้ไทยต้องปรับแทคติกไปพอสมควรในครึ่งเวลาหลัง ถือเป็นบทเรียนชิ้นสำคัญที่จะทำให้ “เจ้าบอล” นั้นได้เรียนรู้ และโตขึ้นหากหวังที่จะพัฒนาตัวเองให้ขึ้นมาเป็นแกนหลักของทีมชาติไทยชุดใหญ่ในอนาคต

 

 

เจนรบ สำเภาดี (บีอีซี เทโรศาสน) : 6.5 คะแนน

ยังไม่สามารถเบิกสกอร์แรกให้กับตัวเองในซีเกมส์หนนี้ได้ แต่เกมนี้ เจนรบ ดูเหมือนจะฟิตขึ้นกว่าเกมนัดที่แล้ว และพยายามทุกวิถีทางที่จะทำประตูให้กับทีม

อีกหนึ่งช็อตที่หัวหอกตัวความหวังรายนี้ทำได้อย่างยอดเยี่ยมก็คือ การตัดสินใจเข้าไปปกป้องเพื่อนร่วมทีมอย่าง ชัยวัฒน์ ในจังหวะปัญหาช่วงท้ายครึ่งแรก จนทำให้สถานการณ์นั้นไม่บานปลายไปกว่าเดิม แสดงให้เห็นถึงภาวะความเป็นผู้นำของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี

เชื่อว่า เจนรบ คือนักเตะที่มีฝีเท้าดีอยู่แล้ว เพียงแต่บางที ด้วยแทคติกการยืนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าเพียงแค่คนเดียว อาจจะทำให้เจ้าตัวพยายามลงมาล้วงบอล จนปล่อยให้พื้นที่ในกรอบนั้นไม่มีตัวค้ำกดดันคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟของกัมพูชามากพอ ถือเป็นโจทย์ที่ทั้ง “โค้ชโย่ง” และกัปตันทีมรายนี้คงต้องถกร่วมกัน

 

ตัวสำรอง

ศศลักษณ์ ไหประโคน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) : 6.5 คะแนน

ลงมาแทน เชาว์วัฒน์ ตั้งแต่ช่วงเริ่มครึ่งหลัง และในเกมนี้ ศศลักษณ์ สามารถสร้างความวูบวาบให้กับแนวรุกไทยได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะจังหวะลูกยิงไกล รวมถึงความขยันในการล้วงบอลมาทำเกมด้วยตัวเอง ถือเป็นเกมที่เจ้าตัวทำผลงานได้ค่อนข้างน่าพอใจ หากเทียบกับสองแมตช์แรกที่ผ่านมา

 

 

ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา (ราชบุรี มิตรผล เอฟซี) : 7 คะแนน

แม้ว่า “เจ้าเบนซ์” จะยังมีลูกขัดใจแฟนบอลหลายๆ จังหวะ ทั้งความเร็ว การออกบอล หรือการตัดสินใจในจังหวะสุดท้าย แต่ในเกมนี้ ดาวเตะเจ้าของหมายเลข 7 แสดงให้เห็นถึงความเยือกเย็น และความนิ่ง หลังอาสารับหน้าที่สังหารลูกที่จุดโทษเขาไป รวมถึงฮาล์ฟวอลเลย์กลางประตูตุงตาข่ายเป็นประตูตอกย้ำชัยชนะให้กับทีมชาติไทยในนัดนี้ ถือเป็นเกมที่ลงมาขโมยซีนเพื่อนๆ ได้อย่างแท้จริง และเชื่อว่า “เจ้าเบนซ์” น่าจะเรียกความมั่นใจกลับมาได้พอสมควร

 

มนตรี พรหมสวัสดิ์ (ราชบุรี มิตรผล เอฟซี) : ไม่มีคะแนน

ลงมาเล่นแทน เจนรบ ในช่วงประมาณ 8 นาทีสุดท้าย และมีโอกาสยิงหลายต่อหลายครั้ง แต่ทว่าบอลที่ออกจากเท้านั้นยังไม่ค่อยมีวิถีสักเท่าไหร่ ยังต้องพยายามอีกพอสมควร หากจะก้าวมาเป็นตัวหลักของทีมในชุดนี้

 

 

“โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ (กุนซือทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ 2017) : 6 คะแนน

เป็นผลการแข่งขันที่น่าจะคลายความกดดันให้กับเฮดโค้ชรายนี้ไม่น้อย แต่โดยภาพรวมแล้ว “โค้ชโย่ง” เองยังต้องปรับในเรื่องของจังหวะการเข้าทำในเกมรุก รวมถึง “ความกล้า” ในการหันมาใช้ศูนย์หน้าสองคน เพราะหลายครั้งที่ทีมชาติไทยเรามีตัวริมเส้นมากมาย แต่ขาดตัวจบสกอร์ในกรอบเขตโทษ แต่โดยรวมถือเป็นแมตช์ที่ “โค้ชโย่ง” ทำได้ดีขึ้น

 

ติดตามข่าว ซีเกมส์ 2017 ได้ที่นี่

ร่วมเชียร์ไทยไปกับ TrueID ในซีเกมส์ 2017
เชียร์สดทุกวัน ชมครบทุกไฮไลท์ได้ที่แอป ทรูไอดี และ Trueid.net

ยอดนิยมในตอนนี้

ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
สัมผัสโลกไร้ขีดจำกัดกับทรูไอดี