ลิเวอร์พูล ทีมที่ก่อตั้งมายาวนานกว่า 130 ปี เป็นทีมที่มีแฟนกีฬา และแฟนบอลทั่วโลกติดตามอยู่เป็นจำนวนมากในประเทศไทยเองเคยมีโพลการสำรวจนะครับ ผลปรากฏว่า ลิเวอร์พูล คือทีมที่มีแฟนบอลชาวไทยตามเชียร์กันมากที่สุด รองลงมาเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชลซี อาร์เซนอล และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตามลำดับ ทำไมลิเวอร์พูลถึงครองใจแฟนบอลได้ยาวนาน เท่าที่ได้สัมผัสจากแฟนบอลคงจะหนีไม่พ้นเรื่องของ ความผูกพันของตัวสโมสรเองและแฟนบอลเป็นหลัก จะเห็นได้ว่าในบางครั้งที่ทีมอยู่ในจุดตกต่ำ บางแมตซ์การแข่งขันยังแพ้แม้แต่ทีมเล็ก ๆ แต่แฟนบอลก็ยังคงรวมพลังเชียร์กันอย่างเหนียวแน่น แฟนบอลหงส์แดงปัจจุบันที่มีอายุมากหน่อย ก็คงได้มีโอกาสสัมผัสในยุค เครื่องจักรสีแดง เป็นช่วงที่ทีมมีความลงตัว พีคมากที่สุดยุคหนึ่ง ที่ไม่ว่าจะเจอทีมไหนก็เล่นขึงอยู่แดนคู่แข่งได้ตลอดเวลา คล้ายกับเอซี มิลานในยุคสามทหารเสือฮอลแลนด์ ไม่มีผิด สิ่งที่จะพูดถึงก็มาจาก เอซี มิลาน ทีมนี้นั่นเอง เพราะถึง เอซี มิลาน จะมีนักเตะที่มีความเก่งกาจมากอยู่ในทีมก็ตาม แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้จากลูกบอลกลม ๆ บวกด้วยแรงศรัทธาจากแฟนบอลที่มีความจงรักภัคดี เหมือนดังเช่น มหัศจรรย์ที่อิสตันบูล เป็นแมตซ์การแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศยูโรเปี้ยนคัพ 2004-2005 ที่ก่อนการแข่งขันหงส์แดงเป็นรองอยู่มาก แค่รายชื่อนักเตะก็เทียบชั้นกันยากอยู่แล้ว เอซี มิลาน หนักแน่นทุกขุมกำลัง เริ่มแข่งจริงกลับยิ่งแย่กว่าที่คิด เพราะหงส์แดงพลาดเยอะ ก่อนจบครึ่งแรกตามเอซี มิลานถึง 0-3 จากการยิงของ เปาโล มัลดินี่ ในนาทีที่ 1 และ เฮอร์นัน เครสโป นาที่ที่ 39, 44 โดยลูกที่ 3 จากการจ่ายทะลุแผงหลังแบบทะลุจริง ๆ จบที่ เฮอร์นัน เครสโป ชิพข้ามตัว เยอร์ซี่ย์ ดูเด็ค ไปแบบเหนือชั้นมาก เชื่อเลยว่าแฟบอลหงส์แดงหลาย ๆ คนคงจะแทบถอดใจ ยอมรับสภาพกันแล้ว แต่ ราฟา เบนิเตช ผู้ที่ถนัดเรื่องการ โรเตชั่นนักเตะ ได้ปรับเปลี่ยนแผนจาก 4-4-1-1 ไปยืน 3-6-1 เฉยเลย โดยเน้นกลางไว้ก่อน มี ดีทมาร์ ฮามันน์ ยืนคู่กับ ชาบี อลอนโซ่ ทำให้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด มีอิสระมากขึ้น เป็นแถวสอง คอยเก็บบอล และ ราฟา เบนิเตช ก็คงพูดปลุดใจให้สู้ ในสนามแฟนบอลก็ร้องเพลง You'll Never Walk Alone กันอย่างกระหึ่ม เหมือนจะบอกให้กำลังใจนักเตะเป็นนัย ว่าพวกเราเชียร์อยู่นะ เริ่มต้นครึ่งหลัง ยังกับหนังคนละม้วน หงส์แดงเล่นดีขึ้นมาก แฟนบอลเริ่มเชียร์กันหนักหน่วง ช่วงนี้ใครที่เป็นแฟนบอลหงส์แดง บอกได้เลยว่าช่วง 6 นาที ต่อจากนี้จะเป็นความทรงจำที่ดีมาก ๆ เริ่มด้วย นาทีที่ 54 กัปตัน สตีเว่น เจอร์ราร์ด โหม่งเปลี่ยนทางตามมา 1-0 ถัดมาอีก 2 นาที วลาดิเมียร์ ซมิเซอร์ ซึ่งเป็นนักเตะที่ธรรมดามาก ไม่รู้คิดอะไรอยู่ ได้ลูกมาก็ก้มหน้ากดด้วยขวาเสียบเสาเฉย ตามมาเป็น 2-0 ต่อมาได้ลูกจุดโทษในนาทีที่ 60 ชาบี อลอนโซ่ ยิงไปติดแต่ตามซ้ำเข้าไป เสมอกัน 3-3 ต้องยิงลูกโทษตัดสิน ซึ่งลิเวอร์พูลชนะไปได้ 3-2 คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพ 2004-2005 ไปครองได้สำเร็จผลการแข่งขันที่เกิดขึ้นในวันนั้น ทำให้แฟนบอลเห็นว่า นักเตะที่พวกเขาส่งเสียงเชียร์อยู่นั้น ได้ทุ่มเทอย่างจริงใจ สู้ทุกนาทีในสนามเพื่อแฟนบอลจริง ๆ และแมตซ์ มหัศจรรย์ที่อิสตันบูล นั้นมีมนต์ขลังมาก และยังคงเป็นที่กล่าวถึงของแฟนหงส์แดงจนมาถึงปัจจุบันอยู่เสมอ ไม่เคยเสื่อมคลาย สู้ต่อไป ลิเวอร์พูล พวกเราจะติดตามคุณเสมอ You'll Never Walk Aloneเครดิตรูปภาพ ขอบคุณ Liverpool FBภาพหน้าปกรูปที่ 1รูปที่ 2รูปที่ 3รูปที่ 4ลิเวอร์พูล ทีมพรีเมียร์ ที่มีแฟนกีฬา แฟนบอลไทย ติดตามมากที่สุดโทรศัพท์ : +44 151 260 6677วิธีเดินทาง : Anfield Rd, Anfield, Liverpool L4 0TH, UK พิกัดและแผนที่อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มได้อีกครับ :วัดศรีรองเมือง ที่เที่ยว ลำปาง วัดสวย ศิลปะพม่ารีวิว อัล-ราฮามาน ร้านอาหาร อินเดีย รางวัล Users’ Choice อร่อย กรุงเทพสวนนงนุช ปราจีนบุรี เที่ยว ธรรมชาติ ดูผีเสื้อ ที่เที่ยวใกล้เขาใหญ่ วังน้ำเขียวเดิน เที่ยว วัดพระแก้ว พระบรมมหาราชวัง 1 วัน สวย กรุงเทพรีวิว วัดป่าภูหายหลง ที่เที่ยวเขาใหญ่ โคราชรีวิว ผาช่อ ที่เที่ยวดอยหล่อ เชียงใหม่รีวิวตลาดน้ำดอนหวาย เป็ดพะโล้ ผักสด ผลไม้ พริกขี้หนู ของอร่อยๆที่พักสโลว์ไลฟ์ ริมแม่น้ำเพชรบุรี The Lasy resortเที่ยวตลาดน้ำกลางป่ากวางโจว ตลาดชาวบ้านบนน้ำตก ที่เพชรบุรี จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !