ผมเชื่อว่าทุกคนต้องเคยรู้สึกว่าที่ๆเราอยู่มาตั้งแต่เกิดยิ่งอยู่ไปแล้วยิ่งรู้สึกว่าที่นี่ไม่มีอะไรโดยเฉพาะคนที่อาศัยอยู่ในชนบทอย่างผมก็มักจะมีความรู้สึกแบบนี้อยู่เสมออาจจะเป็นเพราะเราเป็นคนชอบเก็บตัวด้วยวันหยุดก็นั่งจ้องแต่จอมือถือจอคอมพิวเตอร์ มีช่วงที่ได้คุยกับเพื่อนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันว่าคิดถึงสมัยเด็กๆที่เทคโนโลยียังเข้าไม่ถึงเท่ายุคนี้วันๆก็จะไปหากันที่บ้านชวนกันวิ่งเล่นกันตามประสาเด็กๆพอมาคิดดูแล้วถ้าชีวิตเราไม่มีเทคโนโลยีเราน่าจะสนใจสิ่งที่มีอยู่รอบข้างมากกว่านี้เพราะฉะนั้นผมกับเพื่อนจึงตัดสินใจเริ่มที่จะออกวิ่งด้วยกัน รูปภาพโดยผู้เขียนเอง วิ่งวันแรกต้องบอกเลยว่าเหนื่อยมากและรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เราคุ้นชินตอนเด็กๆเราเคยสนุกกับการวิ่งการได้ออกกำลังกายมากกว่านี้แต่แล้วทำไมตอนนี้เราถึงเป็นเหมือนตอนนั้นไม่ได้ แอบนอยด์กับตัวเองมากๆแต่พยายามไม่แสดงอาการเพราะไปกับเพื่อนการสร้างบรรยากาศระหว่างวิ่งต้องไม่มีอะไรมาที่บั่นทอนกำลังใจเพราะถ้าเราแสดงออกมาคนที่วิ่งด้วยกันก็จะมีความรู้สึกติดลบนั้นไปด้วย รูปภาพโดยผู้เขียนเอง แต่แล้วระหว่างที่พักวิ่งค่อยๆเดินนั้นก็ได้มองออกไปรอบข้างถนนตกใจกับตัวเองที่ได้เห็นภาพเหล่านี้นั่นก็คือภาพของธรรมชาติที่สวยงามระหว่างสองข้างทางซึ่งถนนเส้นนี้นั้นผมใช้สัญจรไปมาอยู่ประจำแต่ผมกลับมองข้ามมันอยู่เสมอ ความสวยงามเหล่านี้มันอยู่ที่เดิมไม่เคยไปไหนแต่คงจะขึ้นอยู่ที่ว่าเราจะมองมันมุมไหนเท่านั้นเอง ถ้าผมยังเลือกที่จะเก็บตัวอยู่ในห้องไปวันๆผมจะได้มาเห็นอะไรแบบนี้รึเปล่าซึ่งแน่นอนว่าไม่ รูปภาพโดยผู้เขียนเอง การได้มาเห็นธรรมชาติระหว่างข้างทางแบบนี้ทำให้เรานั้นได้ลืมโลกที่วุ่นวายไปชั่วขณะได้เปิดใจอยู่กับความเงียบสงบของธรรมชาติที่ไม่ต้องเดือดร้อนกับการเปลี่ยนไปของยุคสมัยหากไม่มีใครรุกราน ก็คงจะมีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่กำลังทำให้สิ่งเหล่านี้หายไปถึงเวลาแล้วที่เราควรจะอนุรักษ์สิ่งเหล่านี้เอาไว้ไม่ให้หายไปไหน รูปภาพโดยผู้เขียนเอง สุดท้ายนี้อยากให้ทุกท่านได้ลองปิดมือถือปิดคอมพิวเตอร์สักครู่แล้วลองออกมาใช้ชีวิตข้างนอกกรอบของเทคโนโลยีบ้างจงมองหาธรรมชาติที่สวยงามรอบๆตัวท่านจงอย่าคิดว่าไม่มีถ้าหากยังไม่ได้ลงมือทำและการออกกำลังกายท่ามกลางธรรมชาติไม่เบียดเสียดผู้คนในช่วงโควิด-19ก็ถือว่าเป็นสิ่งดีๆที่ธรรมชาติได้มอบไว้ให้ผมขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้ผมได้มาอยู่ในชนบทแห่งนี้ขอบคุณจริงๆ