ผลการแข่งขัน พรีเมียร์ลีกอังกฤษ นัดแดงเดือด จบด้วยชัยชนะของเจ้าถิ่น “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหนือหงส์แดงลิเวอร์พูล 2-1 ตามที่แฟนฟุตบอลได้รับทราบกันไปแล้ว เรามาเก็บตกประเด็นดราม่าเสียงวิจารณ์จากนักวิเคราะห์หลายท่าน มองว่าประตูแรกของผีแดงเริ่มจากแอนโธนี่ อีแลงก้า จ่ายบอลให้เจดอน ซานโช่ ลากเลื้อยหลบผู้เล่นลิเวอร์พูลสับไกผ่านมืออลีสซง เบ็คเกอร์ จังหวะนี้ “เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค” กลับไม่แสดงความพยายามพุ่งตัวเข้าไปสกัดบอล ทำได้เพียงยืนเอามือไขว้หลัง ปล่อยให้ทีมเสียประตูแรกไปตั้งแต่นาที 16 เรามาวิเคราะห์กันถึงประเด็นนี้ว่าฟาน ไดจ์ค พลาดจริงหรือ?หากมองภาพรวมทุกช็อตอย่างละเอียด “เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค” ไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดแต่ประการใด เพราะด้านข้างฝั่งขวามือของเค้ามีบรูโน่ แฟร์นันด์ส ผู้เล่นแมนยูอีกคนยืนพร้อมรอซัดจ่อ ๆ หน้าประตู ดูเค้าจะกังวลระวังบรูโน่มาก เพราะหากบอลหลุดไปถึงแล้วโอกาสเสียประตูแทบจะ 100 เปอร์เซ็นต์ และอลิสซอน เบ็คเกอร์ เสียหลักพุ่งตัวไปอีกทางไม่พร้อมป้องกันประตู หากตัวเค้าขยับขึ้นมาตามเสียงวิจารณ์ว่าทำไมถึงไม่ทำ ซานโช่ที่เตรียมวางเท้าแทงบอลให้บรูโน่จะมีทางเลือกจิ้มบอลส่งให้แบบสบายเป็นเสี้ยววินาทีของฟาน ไดจ์ค ในการตัดสินใจได้ดีที่สุดในช่วงเวลาวิกฤตนั้นแล้ว เพราะสิ่งที่เค้าทำช่วยลดโอกาสการเสียประตูจากแทบจะ 100 เปอร์เซ็นต์ (หากบอลถึงบรูโน่) เหลือเพียง 80-90 แม้จะมีเปอร์เซ็นต์มากอยู่ แต่เพิ่มความยากให้ซานโช่อีกนิดหนึ่งก็ยังดี อย่างน้อยจะได้ประตูนี้ต้องใช้ฝีมือกันหน่อย ยิงอัดมุมเข้าไปอย่างที่เห็นอีกประการต่อมาช็อตนี้ของฟาน ไดจ์ค ช่วยชะลอจังหวะให้อลิสซอน เบ็คเกอร์ มีเวลาลุกขึ้นมาได้โอกาสป้องกันประตูอีกครั้ง และที่สำคัญ! ซานโช่ไม่ได้ยืนว่างแต่แรกซะทีเดียว มีเพื่อนร่วมทีม “เจมส์ มิลเนอร์” พยายามพุ่งเข้ามาบล็อก หน้าที่ของฟาน ไดจ์ค จึงเหลือเพียงเฝ้าระวังป้องกันไม่ให้บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่หลุดจากตัวประกบ และเป็นความผิดพลาดของแนวรับลิเวอร์พูลส่วนหนึ่งด้วยที่ปล่อยให้ยืนว่างในกรอบเขตโทษขนาดนี้ สุดท้ายซานโช่ตัดสินใจหวดด้วยขวาไปทางซ้ายมือของตัวเองเข้าประตูไปส่วนจอร์แดน เฮนเดอร์สัน คนชี้มือโวยฟาน ไดจ์ค ว่าทำไมปล่อยให้ยิงง่าย ๆ ไม่เข้ามาชาร์จ ภาพมุมซ้ายเข้ามาอยู่ในเฟรม ยืนว่างอยู่แบบไม่ได้ประกบใครเลย (ก่อนหน้านั้นมีโอกาสหยุดเกมรุกแมนยู) หากมองด้วยความเป็นกลาง “จะโยนความผิดให้ใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้” เป็นความรับผิดชอบร่วมกัน ถือเป็นการทำหน้าที่ได้ดีที่สุดของฟาน ไดจ์ค ในจังหวะนั้นแล้ว ถ้าหากเจ้าตัวขยับเข้าพรวดไปอีกคน มันก็อาจจะเกิดดราม่าอีกแบบว่าทำไมถึงไม่ระวังบรูโน่ที่อยู่ใกล้ ๆแต่คงย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ลิเวอร์พูลต้องรวบรวมสมาธิไปยังเกมนัดหน้า 27 สิงหาคมเวลา 21.00 น. โดยมีคิวต้องเปิดแอนฟิลด์ต้อนรับการมาเยือนจากบอร์นมัธ น้องใหม่พรีเมียร์ลีกที่เพิ่งโดนแมนซิตี้ และอาร์เซนอลถล่มมา 4-0 และ 3-0 ตามลำดับ ถือเป็นโอกาสดีที่ลูกทีมของ “เจอร์เก้น คล็อปป์” จะกลับคืนสู่ฟอร์มเก่งประเดิม 3 แต้มแรกฤดูกาลนี้ได้สำเร็จ แฟนหงส์แดงคงต้องเป็นกำลังใจให้ทีมเช่นเคยครับ 🤗 ..ภาพประกอบโดย Manchester United : ภาพปก / TrueVisionsOfficial : ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2-3 Manchester United : พื้นหลัง , FantastX : กรอบโทรศัพท์ / Premier League : ภาพที่ 4 , ภาพที่ 5Communityคอบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลีย