หลังเกมส์ ไทยคม เอฟเอคัพ - หมดยุครุ่งเรืองของ เซราะกราว แล้วใครจะครองแทน ??

หลังจากที่ บลาเซ อิลิโจสกี ยิงจุดโทษเข้าไป ส่งผลให้ บางกอกกล๊าส เอฟซี บุกมาเขี่ย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า 3 ปีซ้อน ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ในศึกมูลนิธิ ไทยคม เอฟเอคัพ 2014 และยังเป็นการสะสางแค้นที่เคยพ่ายในนัดชิงชนะเลิศ เมื่อปีกลายไปได้อย่างหมดจด อีกทั้ง ยังนับได้ว่าเป็นการบุกมาเอาชนะ บุรีรัมย์ ครั้งแรกของสโมสรแห่งย่านรังสิต คลอง 3 เลยก็ว่าได้ จนเป็นที่พูดถึงว่า บุรีรัมย์ สิ้นยุครุ่งเรืองแล้วหรือยัง เมื่อตกรอบรายการนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ซึ่งครั้งสุดท้าย ก็ต้องย้่อนไปถึงปี 2010 ที่ บุรีรัมย์ พ่าย อาร์มี ยูไนเต็ด 0:1 แถมมีเหตุอื้อฉาวมากมาย ณ เวลานั้น 

โดยปัจจัยที่ แข้งกระต่ายแก้ว บุกมาล้มยักษ์นี้ ได้ ต้องยกเครดิตให้กับ “โค้ชจุ่น” อนุรักษ์ ศรีเกิด ที่สามารถรวมใจนักเตะให้เป็นหนึ่งเดียวกัน หลังจากผ่านพ้นช่วงวิกฤติของสโมสรมาได้ แถมยังได้ตัวนักเตะดีๆ มาเสริมทีมได้อย่างเหมาะเจาะ ซึ่งเกมนี้ เป็นเกมที่คู่หู มาซิโดเนียน คอนเน็คชันส์ ได้แผลงฤทธิ์สร้างความปั่นป่วนให้ ทีมเจ้าบ้าน เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ บลาเซ อิลิโจสกี ที่ยิงคนเดียว 2 ประตู ช่วยให้ บีจี ออกมาจาก นิว ไอโมบาย สเตเดียม ด้วยชัยชนะอันยิ่งใหญ่ในนัดนี้ และพาร์ตเนอร์คู่ใจ อย่าง ดาร์โก ทาเชฟสกี ที่คุมแดนกลางได้อย่างยอดเยี่ยม รวมไปถึง “เจ้าเบนซ์” พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ ที่กลับมาจากการยืมตัวจาก เชียงราย ยูไนเต็ด ก็ทำให้แดนกลาง เล่นได้ลื่นตามากขึ้น 

นอกจากนี้ นริศ ทวีกุล ก็เป็นอีกคนที่โชว์ฟอร์มเซฟจังหวะอันตรายได้ทุกลูก ทำให้ได้ผลการแข่งขันที่ต้องการออกไป นับได้ว่า สร้างความมั่นใจให้กับทีมได้ถูกที่ถูกเวลา โดยแท้จริง ก่อนที่จะเจอกันอีกครั้งในเกม ไทย พรีเมียร์ลีก สุดสัปดาห์นี้ ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่า บีจี ต้องการเอาชนะอีกครั้ง เพื่อประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของสโมสร ที่สามารถเอาชนะ บุรีรัมย์ ได้ ทุกรายการ อีกทั้ง ยังเป็นการชำระแค้นอันขมขื่น ที่เคยโดน บุรีรัมย์ ยัดเยียดความปราชัยทุกรายการในปี 2012 ซึ่งเจอกัน 5 ครั้ง ปรากกว่า บีจี พ่ายทุกครั้ง จนเป็ความแค้นที่เก็บกดสะสม รอเวลาที่จะเอาคืนให้สาสมเสียที ซึ่งเป็นทีมแรกที่ทำได้ ขณะนี้ หากสามารถเอาชนะ บุรีรัมย์ ได้อีกครั้ง ในเกมลีก ซึ่ง ชลบุรี เอฟซี เคยทำมาแล้ว ในปี 2012 แต่ทำได้แค่เกมในลีก และ เกมชิงถ้วยพระราชทาน ก เท่านั้น ส่วนฟุตบอลรายการนี้ กลับต้องมาพ่าย แข้งเซราะกราว ไปอย่างน่าเสียดาย 

ส่วนบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ที่เหลือ ก็มาตามนัดกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด, ชลบุรี เอฟซี, สุพรรณบุรี เอฟซี และ เชียงราย ยูไนเต็ด ซึ่งน่าสนใจว่า จะได้เจอกับใครในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึกฟุตบอลถ้วยที่ไม่มีที่ว่างสำหรับผู้แพ้ รายการนี้ ในปี 2014 เชื่อได้เลยว่า ทุกทีมที่เข้ารอบ ต่างก็ดีอกดีใจกันแน่นอน ที่แชมป์เก่าตกรอบไปเสียที หลังจาก ต้องทนอยู่ในร่มเงาของยอดทีมแห่งอีสานใต้มาถึง 3 ปี ไม่ว่าจะเป็น เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่น่าจะออกอาการสะใจมากกว่าทีมไหนๆ รองลงมาก็เป็น ชลบุรี เอฟซี แชมป์เก่าในปี 2010 และ บางกอกกล๊าส ที่สลัดการที่เป็นเบี้ยล่าง หรือ ลูกไล่ ของ บุรีรัมย์ ได้อย่างเต็มตัว หลังจบเกมนี้ 

โดยสรุปแล้ว ใครจะได้แชมป์ในปีนี้ พร้อมทั้งโควต้าเพลย์ออฟ ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย รายการใหญ่ที่สุด ในศึก เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2015 ไปครอง ต้องมาติดตามกกันต่อไป ว่าทีมหน้าใหม่ หรือ หน้าเก่า อย่าง ชลบุรี จะคว้าตั๋วใบนี้ไป รับรองได้เลยว่า สนุกแน่ !!! 

เครดิตภาพประกอบ – Buriram United & Bangkok Glass FC 
10-06-2557
11.00 น.