หงส์แดงลิเวอร์พูลแข่งไป 9 นัด มี 13 คะแนนห่างจากท็อปโฟร์ 6 คะแนน ซึ่งมีคิวนัดกลางสัปดาห์กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในคืนวันนี้ ก่อนหน้านี้นายใหญ่หงส์แดงบอกว่าการลุ้นแชมปีนี้ได้จบลงไปแล้วก็จริง แต่ยังเหลือพื้นที่UCL ให้ได้ลุ้นกันอยู่ เพราะเมื่อเหลียวมอง 5 เกมที่มีในมือตอนนี้มีโอกาสสูงมากที่จะไปลุ้นติดท็อปโฟร์ก่อนที่จะเปิดทางให้กับฟุตบอลโลกในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน มาถึงตรงนี้หลายคนคงบอกว่า “เพ้อหรือเปล่าเนี่ย” เพราะโอกาสที่ทั้ง ไบร์ทตัน , แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ,นิวคาสเซิล และ เชลซี จะพลาดอย่างน้อยสองเกมจากนี้เป็นไปได้ยากมาก ๆ อีกทั้ง ลิเวอร์พูล เองก็มีเกมใหญ่ในมือหนึ่งเกมนั่นก็คือการเจอกับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส ซึ่งในฤดูกาลนี้แข็งแกร่งเอาเรื่อง แล้วไปเอาความมั่นใจมาจากไหนที่จะบอกว่า หงส์แดงผู้อหังกาจะเก็บได้ 15 แต้ม แล้วทะยานไปรั้งท็อปโฟร์ได้ ว่าแล้วก็มาไล่เลียงกันไปพร้อม ๆ กันดีกว่าว่ามีปัจจัยอะไรบ้างโปรแกรม 5 เกมของลิเวอร์พูลเวสต์แฮม ยูไนเต็ด (ในบ้าน) เดวิด มอยส์ แม้ว่าจะพาทีมทำผลงานในบ้านได้น่าพอใจก็จริง แต่เกมนอกบ้านยังเป็นปัญหาพอสมควรเพราะจากผลงานนอกบ้านฤดูกาลนี้ 5 เกม ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 3 อีกทั้งนับตั้งแต่ปี 11 ธันวาคม 2016 เวสต์แฮม ไม่เคยเอาชนะลิเวอร์พูลได้ที่แอนฟิลด์แม้แต่เกมเดียว นั่นยิ่งตอกย้ำว่า เกมนี้ก็ไม่น่าพลาดสามแต้ม นี่ยังไม่รวมผลงานที่โค่นเรือใบสีฟ้าที่สนามแห่งนี้มาได้ เพิ่มสถิติไม่แพ้ทีมใดที่แอนฟิลด์เป็น 28 เกมไปแล้วน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (ไปเยือน) ทีมน้องใหม่ที่มีดีแค่ความสดของเหล่านักเตะ แต่ผลงานกลับไม่ได้เป็นอย่างตั้งใจ แม้ว่าจะไม่เคยเจอกันในพรีเมียร์ลีกภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เกน คล๊อปป์ แต่ด้วยวรรณะและคุณภาพของผู้เล่น เหนือกว่าแทบจะทุกตำแหน่ง นี่ยังไม่นับรวมสถิติที่เป็นทีมเสียประตูมากที่สุดเป็นอันดับสองของพรีเมียร์ลีก และยังเป็นทีมที่ยิงประตูได้น้อยที่สุดเป็นอันดับสองด้วยเช่นกัน ฉะนั้นคงไม่มีอะไรที่จะมาขว้างกันให้หงส์แดงเก็บสามแต้มได้อย่างแน่นอนลีดส์ ยูไนเต็ด (ในบ้าน) หนึ่งในทีมที่ผีเข้าผีออก รั้งอันดับ 15 ของตาราง มี 9 คะแนน ซึ่งถือว่าอยู่ในโซนอันตรายที่จะต้องหนีตกชั้น ปัญหาของนกยูงทอง ณ เวลานี้ก็คือเรื่องการจบสกอร์ ที่แม้ว่าจะได้ศูนย์หน้า แพทริค แบมฟอร์ด กลับมาจากอาการบาดเจ็บได้ก็จริง แต่จากเกมล่าสุดสิ่งที่เจ้าตัวขาดไปคือความมั่นใจและความฟิต ฉะนั้นตัวทำสกอร์จึงตกไปอยู่กับนักเตะแดนกลางซะเป็นส่วนใหญ่ ครั้งล่าสุดที่หงส์แดงแพ้ในบ้านให้กับเจ้านกยูงทองคือเมื่อ 13 เมษายน 2001 นี่ยังไม่นับรวมสถิติที่เจอกับนับตั้งแต่เลื่อนชั้นมาพรีเมียร์ลีกครั้งล่าสุดเมื่อปี 2020 เจอกันที่แอนฟิลด์ 2 เกม หงส์แดงชนะทั้ง 2 เกม แถมยังยิงไป 10 ประตูจากสองเกมรวมกันอีกด้วย คงไม่ต้องบอกว่าผลการแข็งกันเกมนี้จะออกฝั่งไหนท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส (ไปเยือน) นี่คือเกมยากที่สุดในบรรดาห้าเกมที่มีในมือ เพราะผลงานในบ้านไก่เดือยทอง 5 เกม ยังไม้แพ้หรือเสมอแม้แต่เกมเดียว ด้วยรูปแบบการเล่นที่เน้นเรื่องความแน่นอนของ อันโตนิโอ คอนเต้ ไม่ได้ก็ไม่เสียทำให้ทีมที่เน้นเกมรุกจะต้องเปิดเกมเข้าใส่ ซึ่งนั่นจะทำให้เข้าทางมากขึ้น ฉะนั้นนี่เป็นเกมที่นายใหญ่หงส์แดงจะต้องงัดแผนที่ใช้โค่น แมนซิตี้ มาใช้งาน โดยไม่ต้องให้วิงแบ๊คเติมเกมรุก เน้นบอลจากหลังไปหน้า ไม่ผลีผลาม แต่ก็มีหนึ่งสถิติที่พอจะให้อุ่นใจได้บ้างนั่นก็คือ นับตั้งแต่ปี 2016 ที่ เจอร์เกน คล๊อปป์ เข้ามาคุมบังเหียนหงส์แดง ลิเวอร์พูลแพ้ให้กับ สเปอร์ส แค่เกมเดียว แม้ว่าเจอกันเมื่อฤดูกาลที่แล้ว จะกินกันไม่ลงทั้งสองเกม แต่นี่คือเกมที่เดิมพันสูง ฉะนั้นเกมนี้อาจจะออกได้ทั้งสามหน้า แต่จากสถิติที่ไม่เคยโกหกก็ไม่แน่ว่าอาจจะเก็บสามแต้มสำคัญเกมนี้ก็เป็นได้เช่นกัน เซาแธมป์ตัน (ในบ้าน) เป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่ทีมนักบุญเริ่มต้นด้วยฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่แบบนี้ แข่ง 10 นัด มี 8 คะแนน แถมสภาพทีมก็ไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่ ยิ่งเกมนอกบ้านยิ่งแล้วใหญ่ จาก 5 เกม เก็บชัยได้เพียง 1 เกม หนึ่งเกมที่ว่าคือการเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ แบบหวุดหวิด 2 – 1 เมื่อเหลียวมองสถิติ ที่มาเยือนสนามแห่งนี้ เซาแธมป์ตัน เอาชนะที่สนามแหง่นี้ได้ครั้งล่าสุดคือเมื่อวันที่ 25 มกราคม ปี 2017 หลังจากนั้นก็ไม่เคยได้เห็นชัยชนะแม้แต่เกมเดียวที่สนามแห่งนี้ยิ่งสถานการณ์แบบนี้ ยิ่งทำให้ต้องเป็นงานที่ยากอย่างมากสำหรับเกมนี้ของทีมนักบุญ กว่าจะกลับมาคืนฟอร์มได้ก็คงหลังช่วงต้นปีหน้าโน่นแหละ เพราะนั่นคือสถิติที่ดีของทีมนักบุญที่ทำให้รอดตกชั้นมาหลายครั้งหลายคราโปรแกรมทีมคู่แข่ง แย่งท็อปโฟร์เชลซี นี่คือทีมที่รั้งอันดับสี่ของตาราง ณ เวลานี้ เก็บไป 19 คะแนน จาก 9 นัด แต่โรแกรมที่เหลือก็ต้องไปตัดกันเองทั้ง แน่นนอว่าเป็นผลดีอย่างบมากกับลิเวอร์พูล นอกจากนั้นยังจะต้องเจอกับปืนใหญ่อาร์เซน่อล จาก 15 แต้มที่น่าจะได้ สิงห์บลูอาจจะเก็บได้เพียงแค่ 6 แต้มก็ได้ โดยสิงห์บลูมีโปรแกรมที่จะต้องตัดกันเองดังนี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 22 ตุลาคมไบร์ทตัน 29 ตุลาคมนิวคาเซิล 13 พฤศจิกายนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปีศาจแดงเป็นทีมเดียวที่โปรแกรมที่เหลือจากนี้ไป 5 เกม ถือว่าไม่หนักมากมีเพียงแค่เกมที่จะต้องเจอกับสเปอร์ส ที่เป็นเกมหนักอละอาจจะชวดสามแต้มสำคัญได้ แต่เมื่อดูองค์รวมที่ผีเข้าผีออกของปีศาจแดง ณ เวลานี้ก็ไม่น่ากลัวเท่าไหร่สำหรับทีมที่มีวรรณต่ำกว่า ด้วยมาตรฐานของทีมในพรีเมียร์ลีก และสถาพของทีม ณ เวลานี้ จาก 15 คะแนน อาจจะเก็บได้เพยงแค่ 6 – 7 คะแนนเท่านั้นนิวคาสเซิล มีสองเกมใหญ่ที่จะต้องเจอนั่นก็คือ เชลซี และ อาร์เซนอล หากมองจากสภาพทีมและผลงาน ณ ช่วงเวลานี่อาจจะเป็นหนึ่งในทีมที่เอาชนะปืนใหญ่ก็เป็นได้ และมีโอกาสสูงมากที่จะเบียดขึ้นไปรั้งทิอปโฟร์ใน 5 เกมต่อจากนี้ ด้วยเหตุผลที่ว่านอกจาสองบิ๊กทีมแล้วทั้ง แอสตันวิลล่า , เชาร์แธมป์ตัน และ คริสตัลพาเลส สาลิกาด้งน่าจะเก็บ 9 แต้มเต็มได้ไบร์ทตัน จาก 5เกมในมือมีสามเกมใหญ่รออยู่ทั้ง แมนซิตี้ เชลซี และ อาร์เซน่อล ไม่ใช่งานง่ายเลยสำหรับนายใหม่อย่าง เด เซอร์บี ที่แม้ว่าจะไม่ได้เน้นรับสวนกลับเหมือนกับ เกรแฮม พอร์ตเตอร์ แต่การเจอกับบิ๊กทีมทั้งสามเกมโอกาสที่จะเก็บ 9 แต้มเต็มคงถือว่ายยากพอสมควร ฉะนั้นอีกสองเกมที่เจอน้องใหม่ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรกับ 3 คะแนน น่าจะเก็บได้ 3 – 6 คะแนน หรือเลวร้ายกว่านั้นอาจจะเก็บได้เพียงแค่3 คะแนนก็เป็นได้เช่นกันด้วยสถานการณ์ของทั้งโปรแกรมที่เหลือของลิเวอร์พูล และ ของคู่แข่งแย่งท็อปโฟร์ น่าจะพอมองภาพออกกันแล้วว่า โอกาสที่หงส์แดงจะทะยานไปจบที่ท็อปโฟร์มีสูงอย่างมาก หรือหากไม่สามารถจบที่อันดับที่ 4 ได้ ก็น่าจะจบที่อันดับที่ 5 ได้เหมือนกัน เพราะจากโปรแกรมที่เหลือ และสถิติหลายอย่าง ไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นไปไม่ได้ ฉะนั้นเกมที่จะเจอกับขุนค้อน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ลิเวอร์พูล จะต้องเก็บ สามแต้มได้เท่านั้น ข่าวที่เกี่ยวข้อง ส่อง 5 ปัจจัยสำคัญที่ ลิเวอร์พูล อาจเหนือกว่า แมนซิตี้ บิ๊กแมตซ์พรีเมียร์ลีกส่องแผน-เทคติค-เก็บตกสถิติ ลิเวอร์พูล หลังเกมชนะ แมนซิตี้ลิเวอร์พูล ปัญหาที่ถาโถม อิ่มตัว ค่าเหนื่อย เจ็บระนาว ความกดดันจัดอันดับ 5 นักเตะ ลิเวอร์พูล ฟอร์มห่วยเกม แดงเดือด นัดแรกในพรีเมียร์ลีก 2022/23วิเคราะห์ปัญหา ลิเวอร์พูล เหตุใดถึงผลงานแย่ พร้อมหนทางแก้ไขกลับคืนสู่ความสำเร็จเครดิตภาพปก twitter.com/LFC :: ภาพปกเครดิตภาพปก twitter.com/LFC :: ภาพที่1 , twitter.com/nffc :: ภาพที่ 10 , ภาพที่ 3 , twitter.com/westham :: ภาพที่ 2 , ภาพที่ 6 , twitter.com/LUFC :: ภาพที่ 4 , twitter.com/SpursOfficial :: ภาพที่ 5 , twitter.com/ChelseaFC :: ภาพที่ 7 , :: twitter.com/ManUtd :: ภาพที่ 8 , twitter.com/NUFC :: ภาพที่ 9 Communityคอบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์