ลิเวอร์พูล ลงเล่นพรีเมียร์ลีกเกมที่ 14 ของฤดูกาล เป็นเกมส่งท้ายก่อนเบรกฟุตบอลโลก โดยเปิดบ้านพบกับเซาแธมป์ตัน ทีมในกลุ่มท้ายตารางคะแนนที่มักจะเป็นของแสลงเหลือเกิน แต่เกมนี้ผลปรากฏว่าลิเวอร์พูล สามารถเก็บชัยชนะไปด้วยสกอร์ 3-1 โดยได้ประตูขึ้นนำเร็วจากลูกโหม่งของ โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ ในนาทีที่ 6 แต่หลังจากขึ้นนำได้ไม่นานก็มาโดนตีเสมอในนาทีที่ 9 จากลูกหม่งของ เช อดัมส์ แต่รูปเกมส่วนใหญ่ก็เป็นลิเวอร์พูลที่ทำได้ดีกว่า สุดท้ายก็มายิงแซง 2 ประตูรวดจาก ดาร์วิน นูเญซ ในนาทีที่ 21 และ 42 ครึ่งหลังทีมเยือนเล่นกันได้ดีขึ้น และมีโอกาสที่จะยิงประตูไล่มาอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่ผ่านมือของ อลีสซง เบ็คเกอร์ จบเกมลิเวอร์พูลเลยเก็บ 3 คะแนนในบ้านได้สำเร็จ เก็บคะแนนขยับเข้าใกล้พื้นที่ Top4 ไปเรื่อยๆวันนี้ NPK Football style จะมาวิเคราะห์หลังเกมถึง 4 เรื่องราวดีๆ และหนึ่งเรื่องที่ต้องพัฒนาแดนกลางลงตัวมากขึ้นหลังจากที่ช่วงหลายเกมที่ผ่านมา แดนกลางลิเวอร์พูล เป็นสาเหตุส่วนหนึ่งของฟอร์มอันย่ำแย่ของทีม นักเตะหลายคนฟอร์มตก ไม่สามารถปั้นเกมให้ทีมได้ แต่ช่วง 2-3 เกมที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าแดนกลางเริ่มลงตัว สามารถคุมเกมให้ทีมได้ดีขึ้น โดย 3 ผู้เล่นตัวหลักในช่วงนี้ประกอบด้วย ฟาบินโญ่, ติอาโก้ อัลคันทาร่า และ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ในเกมนี้ทั้งสามคนเล่นได้อย่างแข็งแกร่ง ฟาบินโญ่ คอยลงมารับบอลเชื่อมเกม ออกบอลง่าย จ่ายบอลเร็ว ส่วน ติอาโก้ อัลคันทาร่า เป็นคนคุมจังหวะเกม จ่ายบอลสั้นยาว สร้างจังหวะในเกมรุกให้กับทีม ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ เบียดขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมได้สำเร็จ มีเท้าซ้ายที่ว่องไว เอาตัวรอดเก่ง จ่ายบอลสั้นยาวได้แม่นยำ จึงกลายเป็นส่วนผสมในแดนกลางที่ลงตัวที่สุดในตอนนี้วิธีการเล่นที่คุ้นเคยเกมนี้ลิเวอร์พูลลงเล่นด้วยแผน 4-3-3 อย่างที่คุ้นเคย อาจจะมีบางจังหวะที่ปรับมาเป็น 4-3-1-2 บ้าง รูปแบบการเล่นทำได้ดี ดูสนุก เหมือนอย่างที่แฟนบอลคุ้นเคยและไม่ได้เห็นมานาน นักเตะทุกคนขยับเคลื่อนที่แทนตำแหน่งกันได้อย่างลงตัว มีการจ่ายบอลสั้นยาวที่แม่นยำ สามารถแก้เพรสซิ่งของคู่แข่งออกมาได้ง่ายๆ ทำเกมรุกด้วยการต่อบอลกัน และเร่งจังหวะเมื่อเข้าพื้นที่อันตราย แบ็คทั้งสองข้างเล่นร่วมกับริมเส้นได้ดี มีการจ่ายบอลทะลุช่อง และจ่ายตัดหลังสวยๆให้เห็นหลายครั้ง ทั้งหมดนี้เป็นวิธีการเล่นที่ลิเวอร์พูลเคยทำได้ดีเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ตอนนี้ดูเหมือนว่าทุกอย่างกำลังพัฒนากลับไปในแนวทางที่ถูกต้องเหมือนเดิมอีกครั้งประตูของ ดาร์วิน นูเญซดาร์วิน นูเญซ ยิง 2 ประตูในเกมนี้ ทำให้ตอนนี้ทำประตูในพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 5 ประตู ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 3 ประตู รวมเป็น 8 ประตูจากการลงเล่นทั้งหมด 17 เกม ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ทุกเกมที่ลงเป็นตัวจริง สถิติต่างๆเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงแนวทางในการเล่นที่ ดาร์วิน นูเญซ แสดงให้เห็นถึงความหลากหลาย ไม่ได้เป็นเพียงกองหน้าตัวเป้าที่รอยิงประตูเท่านั้น ช่วงหลังมักจะได้ออกสตาร์ทในตำแหน่งตัวรุกฝั่งซ้าย และก็ทำผลงานออกมาได้ดีเกินคาด ด้วยความเร็วที่มีสามารถสร้างความปั่นป่วนจากริมเส้นได้ นอกจากนี้ยังสลับเข้ามาตรงกลาง และทำประตูด้วยสัญชาตญาณที่ยอดเยี่ยมหลายลูก จุดนี้แสดงให้เห็นแล้วว่า ดาร์วิน นูเญซ สามารถปรับตัวให้เข้ากับสไตล์การเล่นของทีมลิเวอร์พูลได้ โดยที่ทีมแทบไม่จำเป็นต้องไปปรับตัวเพื่อเขาเลยนักเตะหลายคนคืนฟอร์มเก่งฟอร์มการเล่นของทีมที่ตกลงไป นอกจากอาการบาดเจ็บของนักเตะแล้ว อีกปัญหาหนึ่งคือนักเตะตัวหลักหลายคน มีฟอร์มการเล่นที่ตกลงไปจากเดิม การเคลื่อนที่ การรับส่งบอล ประสิทธิภาพลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด แต่ในเกมนี้จะเห็นได้ว่านักเตะหลายคน เริ่มมีสภาพร่างกายที่ดีมากขึ้น มีความมั่นใจ และกลับมาเล่นในฟอร์มที่ใกล้เคียงเหมือนเดิมมากขึ้น อย่างเช่น ฟาบินโญ่ เคลื่อนที่ดีกว่าเดิม อ่านเกมและเข้าถึงบอลได้ไวขึ้น แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เล่นได้แข็งแกร่ง โดดเด่นทั้งเกมรุกและเกมรับ การเปิดบอลสร้างความอันตรายได้มาก ส่วน โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ ก็โชว์ฟอร์มได้โดดเด่น กลับมาเป็นนักเตะตัวหลักที่ทีมจะขาดไปไม่ได้เลยช่วงนี้ช่องโหว่ในเกมรับเกมรับของทีมยังคงมีช่องโหว่ให้ต้องแก้ไข การไม่มี อิบราฮิม่า โกนาเต้ ในเกมนี้ ทำให้ยังมองเห็นถึงจุดอ่อนในการป้องกัน ลูกแรกที่เสียประตู ก็เกิดจากการประกบตัวไม่ดีพอ ปล่อยให้คู่แข่งได้โหม่งคนเดียวโล่งๆ และหลังจากนั้นก็ยังถูกโจมตีจากฝั่งขวาอยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะในครึ่งหลัง เซาแธมป์ตัน มีโอกาสหลุดเข้าไปยิงประตูโล่งๆถึง 3 ครั้ง แต่ต้องยกความดีความชอบให้กับ อลิสซง เบคเกอร์ ที่โชว์ฟอร์มป้องกันประตูไว้ได้ทั้งหมด ซึ่งถ้าหากกลายเป็นประตูสักลูกนึง ครึ่งหลังลิเวอร์พูลจะเล่นได้ยากมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ และก็ไม่แน่ว่าสุดท้ายผลจะจบลงอย่างไรหลังเกมนี้ลิเวอร์พูล ก็จะต้องหยุดพักเบรกปล่อยให้นักเตะไปช่วยทีมชาติในฟุตบอลโลก ก่อนที่จะกลับมาลงสนามอีกครั้ง ในเกมฟุตบอลถ้วย คาราบาว คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย เจอศึกหนักด้วยการบุกไปเยือน แมนซิตี้ ส่วนโปรแกรมในฟุตบอลลีกต่อไป จะลงเล่นในคืนวันที่ 26 ธันวาคม เวลา 00:30 น. ด้วยการบุกไปเยือน แอสตันวิลล่า นั่นเอง แล้วเราจะกลับมาพบกันอีกครั้งในเกมต่อไป ...ถ้าหากเพื่อนๆชอบในการวิเคราะห์ของเรา หรืออยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพิ่มเติม รบกวนฝากกดติดตามบทความอื่นๆของเราได้ทั้ง 2 ช่องทางด้านล่างนี้เลย ขอบคุณครับTrueid : NPK Footballstyleเพจ Facebook : NPK Footballstyleเครดิตภาพภาพปก Liverpool FC/Liverpool FCภาพ1 Liverpool FCภาพ2 Liverpool FCภาพ3 Liverpool FCภาพ4 Liverpool FCภาพ5 Liverpool FChttps://sport.trueid.net/premier-league/clips/lLxkYPP99EDeอัปเดตข่าวสาร ติดตามผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกแบบไม่พลาดทุกนัดที่ ทรูไอดี คอมมูนิตี้ ห้อง 'ฟุตบอล'