พรีเมียร์ลีกในวันอาทิตย์นี้ มีเกมใหญ่ระดับ 5 ดาว ศึกแดงเดือดที่แฟนบอลชาวไทยเฝ้ารอคอย โดยเกมนี้ทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล จะเป็นฝ่ายเปิดบ้านต้อนรับทีมปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งในเกมแรกแมนยูเป็นฝ่ายเปิดบ้านเอาชนะไปได้ก่อน ลิเวอร์พูลจึงต้องการจะล้างแค้นคืนในบ้านของตัวเอง ถึงแม้ว่าผลงานในฤดูกาลนี้จะเป็นรองเยอะ แต่ฟอร์มการเล่นในบ้านเป็นสิ่งที่นักเตะหงส์แดงยังทำได้ดี ยิ่งเป็นแมตช์แห่งศักดิ์ศรีแบบนี้ไม่มีใครยอมง่ายๆอย่างแน่นอนวันนี้ NPK Footballstyle จะพามาดูความพร้อมของทั้งสองทีม ลองมาติดตามดูกันได้เลยลงเตะ : วันอาทิตย์ 5 มีนาคม เวลา 23:30 น.สนาม : Anfieldดูสด >>True Premier Football 1ความพร้อมของทีมเจ้าบ้าน ลิเวอร์พูลอันดับ 6 ของตาราง มี 39 คะแนนลงเตะ 24 เกม ชนะ 11 เสมอ 6 แพ้ 7ยิงได้ 40 ประตู เสียไป 28 ประตู5 เกมหลังสุด แพ้/ชนะ/ชนะ/เสมอ/ชนะลิเวอร์พูล หลังจากฟอร์มการเล่นออกทะเลไปนาน ล่าสุด เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็เริ่มหาทางดึงลูกทีมกลับเข้าฝั่งมาได้แล้ว เกมล่าสุดเมื่อกลางสัปดาห์เปิดบ้านชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-0 เป็นการเก็บชัยชะได้ 3 เกมจาก 5 เกมหลังสุดในลีก และก็ไม่แพ้ใครมา 4 เกมติดต่อกัน ทำให้อันดับขยับขึ้นมาเหลือห่างจากพื้นที่ท็อปโฟร์ 7 คะแนนแต่ลงแข่งน้อยกว่าหนึ่งเกม ยังมีโอกาสลุ้นแย่งโควต้าบอลยุโรป ถึงแม้ว่าฟอร์มตอนนี้จะยังไม่ใกล้เคียงของเดิม แต่ก็นับว่าดีขึ้นมากนักเตะดูมีความกระหายและตั้งใจเล่นกันมากขึ้น การหายเจ็บกลับมาของตัวหลักอย่าง เวอร์จิล ฟานไดจ์, โคนาเต้, ดีโอโก้ โชต้า ทำให้เกมมีความสมดุลมากขึ้น หรือแม้แต่ เทรนต์-อาร์โนลด์, ฟาบินโญ่ ก็กลับมาอยู่ในฟอร์มดีขึ้นด้วย จุดอ่อนในแดนกลางตอนนี้ถูกแก้ไขโดยนักเตะวัย 18 ปี สเตฟาน บายเซติช ช่วยทำให้ทีมมีพลังในการขับเคลื่อนเกมอีกครั้ง ส่วนแนวรุกก็ยังคงความอันตรายด้วยนักเตะหลายสไตล์ มีอาวุธหนักที่แตกต่างกันไปความพร้อมนักเตะ คัลวิน แรมซีย์, ติอาโก้ อัลคันทาร่า, หลุยส์ ดิอาซ, โจ โกเมซ ไม่พร้อมในเกมนี้ทั้งหมด รวมถึง อาร์ตูร์ เมโล่ ที่อาจจะยังไม่ได้อยู่ในทีมชุดใหญ่ ส่วน นาบี เกอิต้า ต้องรอเช็คความฟิตอาจจะพลาดเกมนี้ไปอีกคนคาดเดา 11 ตัวจริงอลีสซง เบ็คเกอร์(GK)/ เทรนต์-อาร์โนลด์/ เวอร์จิล ฟานไดจ์/ อิบราฮิมา โคนาเต้ / แอนดรูว์ โรเบิร์ต/ สเตฟาน บายเซติช/ ฟาบินโญ่/ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน/ โมฮาเหม็ด ซาลาห์/ ดีโอโก้ โชต้า/ ดาร์วิน นูนเญซความพร้อมของทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอันดับ 3 ของตาราง มี 49 คะแนนลงเตะ 24 เกม ชนะ 15 เสมอ 4 แพ้ 5ยิงได้ 41 ประตู เสียไป 28 ประตู5 เกมหลังสุด แพ้/ชนะ/เสมอ/ชนะ/ชนะแมนยู หลังจากคว้าแชมป์ลีกคัพมาเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ กลางสัปดาห์ก็ลงเล่นบอลถ้วยเอฟเอคัพ เอาชนะเวสต์แฮม 3-1 ผ่านเข้ารอบต่อไปได้สำเร็จ โดยเกมนี้ เอริก เทน ฮาก พักนักเตะตัวหลักไว้เกินครึ่งทีม เพื่อให้มีเวลาฟื้นฟูร่างกายอย่างเต็มที่ ส่วนในลีกตอนนี้อยู่อันดับ 3 ถ้าทีมนำพลาดเมื่อไรก็ยังมีลุ้นแชมป์ได้เหมือนกัน ฟอร์มในลีกเก็บชัยชนะได้ 3 เกมจาก 4 เกมหลังสุด และไม่แพ้ใครมา 11 เกมติดต่อกันรวมทุกรายการ เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมของ เอริก เทน ฮาก ที่เปลี่ยนให้แมนยูกลายเป็นทีมสปิริตสูง นักเตะกลับมาเล่นบอลกันด้วยความสุขอีกครั้ง พร้อมทั้งรักษาฟอร์มได้อย่างสม่ำเสมอ นักเตะใหม่อย่าง คาเซมิโร่, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, แอนโทนี่ หรือแม้แต่ เว้า เว็กฮอร์สต์ ช่วยให้ทีมเกิดความสมดุลอย่างมาก ส่งผลให้นักเตะเก่าหลายคนก็ระเบิดฟอร์มดีตามมาด้วย โดยเฉพาะ มาร์คัส แรชฟอร์ด ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญยิงไปแล้ว 24 ประตู เติมความเด็ดขาดในการจบสกอร์ ซึ่งเป็นเหมือนสัญญาสัญญาณของปีศาจแดงที่ขาดหายไปนาน ความพร้อมนักเตะ ดอนนี่ ฟาน เดอเบ็ค, อองโตนี มาร์ซิยาล, คริสเตียน เอริคเซ่น เป็นสามคนที่หมดสิทธิ์ลงเล่นแน่นอน นอกจากนี้ยังต้องรอเช็คความฟิตของ ลุค ชอว์ และจาดอน ซานโช่ แต่คาดว่าน่าจะกลับมาได้ทันเวลา ส่วนนักเตะที่ได้พักในบอลถ้วยก็จะกลับมาเล่นเกมนี้ด้วยความฟิตที่มีมากขั้นคาดเดา 11 ตัวจริงดาบิด เด เคอา(GK)/ ดิโอโก้ ดาโลต์/ ราฟาแอล วาราน/ ลิซานโดร มาร์ติเนซ/ ลุค ชอว์/ เฟร็ด/ กาเซมิโร่/ บรูโน เฟอร์นันเดส/ แอนโทนี่/ มาร์คัส แรชฟอร์ด/ เว้า เว็กฮอร์สต์ความน่าสนใจ ในเกมนี้คูนี้เจอกันตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาลและก็เป็น แมนยูเปิดบ้านเอาชนะไปได้ก่อน 2-1 ซึ่งกลายเป็นเกมที่จุดประกายให้ปีศาจแดงตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ส่วนลิเวอร์พูลหลังจากเกมนั้นก็ผลงานตกลงไปเรื่อยๆจนเกือบแย่เหมือนกัน แต่ในตอนนี้ก็กลับมาอยู่ในฟอร์มที่ดีได้ทันเวลา รวมถึงสภาพทีมก็พร้อมมากกว่าเดิม สิ่งที่น่าสนใจคือลิเวอร์พูลแม้ว่าจะมีช่วงฟอร์มแย่ แต่เมื่อเล่นในบ้านก็ยังทำได้ดีเสมอ โดยแพ้ในบ้านไปแค่เกมเดียวเท่านั้น ส่วนแมนยูฤดูกาลนี้ก็เล่นในบ้านได้ดีมากๆเช่นกันแพ้ไปเกมเดียว แต่เวลาเป็นทีมเยือนกลับมีข้อผิดพลาดมากกว่าและแพ้ไปถึง 4 เกม เรียกได้ว่าเก่งในบ้านกันทั้งคู่ ส่วนฟอร์มในปัจจุบัน 5 เกมหลังสุด เก็บมาได้ทีมละ 10 คะแนนเท่ากัน เรียกได้ว่าสูสีกันมาก ส่วนในเรื่องความฟิตปีศาจแดงน่าจะเป็นรอง เพราะตั้งแต่เดือนที่แล้วลงเล่นไปทั้งหมด 9 เกม ในขณะที่ลิเวอร์พูลเล่นไป 6 เกม คู่นี้หากดูภาพรวมแน่นอนปีศาจแดงมีผลงานที่ดีกว่า แต่ลิเวอร์พูลก็เริ่มทำได้ดีและได้เปรียบจากฟอร์มในบ้าน ส่วนแมนยูฟอร์มเกมเยือนไม่ดีเท่าไร จึงเชื่อว่าจะเป็นเกมที่สู้กันได้สนุกสูสี แนวรุกมีความอันตรายทั้งสองทีม ทีมเยือนมีทีเด็ดลูกยิงจาก มาร์คัส แรชฟอร์ด ในขณะที่เจ้าบ้านก็มีอาวุธหนักหลากหลายคน แดนกลางเจ้าบ้านอาศัยความสดเข้าสู้ ส่วนทีมเยือนมีลูกเก๋าเกมและประสบการณ์ที่มากว่า ทำให้เกมนี้อาจะมาตัดสินกันที่เกมรับ ถ้าทีมใดมีความผิดพลาดน้อยกว่าก็จะมีโอกาสเก็บชัยชนะได้ บางทีประตูแรกก็อาจจะตัดสินรูปเกมทั้งหมดได้เลยเดาสกอร์ : ลิเวอร์พูล 2-2 แมนยู ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนเล็กๆ จาก NPK Footballstyle เท่านั้นนะครับ ไม่สามารถนำไปอ้างอิงหรือเหมารวมว่าเป็นความเห็นของคนส่วนใหญ่ได้ แต่ถ้าหากเพื่อนๆ ชอบในการวิเคราะห์ของเรา หรืออยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพิ่มเติม รบกวนฝากกดติดตามบทความอื่นๆของเราได้ทั้ง 2 ช่องทางด้านล่างนี้เลย ขอบคุณครับTrueID : NPK Footballstyleเพจ Facebook : NPK FootballstyleเครดิตภาพFacebook : Liverpool FC/Manchester Unitedภาพปก : Liverpool/Liverpoolภาพปก : Man United/Man Unitedภาพประกอบ : Liverpool/Liverpoolภาพประกอบ : Man United/Man United ร่วมกิจกรรมได้แล้วที่ คอมมูนิตี้ห้อง 'ฟุตบอล'