เจอร์เก้น คลอป นำเดอะเรดลิเวอร์พูลหยุดสถิติไม่ชนะเกมเยือนได้แล้วหลังบุกเชือดเดอะเบลด เซฟฟิลด์ ยูไนเต็ด นิ่มๆ ด้วยสกอร์ 2-0 ทำแต้มไล่หลังจ่าฝูงเดอะกันเนอร์เหลือ 2 คะแนน ชิงความได้เปรียบในวันที่เรือใบล่มที่วิลล่าพาร์ก มันเกิดอะไรขึ้นในเกมนี้บ้าง เรามาคุยกันครับเดอะเบลดอาการหนักสุดเมื่อจมอยู่บ๊วยของตารางคะแนนมี 5 คะแนน และก่อนเกมนี้พวกเขาก็พลาดท่าแพ้ให้ทีมน้องใหม่ที่เลือนชั่นขึ้นมาพร้อมกันอย่างเบิร์นลีย์ถึง 5-0 ทำให้ พอล เฮดคิงบ็อตตัม กระเด็นตกเก้าอี้กุนซือ แล้วให้คนใหม่หน้าเก่าอย่าง คริส วิลเดอร์ เข้ามารับไม้ต่อ เป็นการรีเทิรน์กลับมาปะทะฝีมือกับ เจอร์เก้น คลอป อีกคำรบหนึ่งเดอะเรดโรเตชั่นนักเตะ 4 ตำแหน่งจากเกมล่าสุดที่ชนะเจ้าสัวน้อยฟูแล่ม ผู้รักษาประตูยังเป็นเควิน เคลเลเฮอร์ แบ็กขวา เทรน อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เช็นเตอร์แบ็ก อิบราฮิมา โกนาเต้ (ลงแทน โจเอล มาติป) จับคู่ เฟอร์จิว ฟานไดซ์ แบ็กซ้าย โจ โกเมซ (ลงแทน คอสต้า ซิมิคาส) กลางรับ วาตารุ เอ็นโด๊ะ กลางรุก โดมินิค โซบอสซ์ไล และ อเล็กซิส แม็คอลิสเตอร์ (สลับตำแหน่งเล่นแทน ไรอัน กราเฟนแบร์ก) กองหน้า โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โคดี้ คักโป (ลงแทน ดาวิน นูเญซ) และหลุยซ์ ดิอาซเดอะเบลดเปลี่ยน 4 ตำแหน่งจากเกมที่โดนเบิร์นลีย์ถล่มย่อยยับเช่นกัน ผู้รักษาประตู เวส ฟอเดอริงแฮม กองหลัง อาเนล อาเหม็ดฮอซิช, แจ็ก โรบินสัน และ ออสตัน ทรัสตี้ กองกลาง เจน์เดน โบเกิล, กุสตาโว ฮาเมอร์, วินีซุส โซซา และแอนเดอร์ บรูคส์ (แทนกลางชุดเดิมที่มี จอห์น เฟล็ก, โอลิเวอร์ นอร์วูด และจอร์จ บาลด็อก) กลางรุก เจมส์ แม็คอาตี้ และ คาเมรอน อาร์เชอร์ กองหน้า วิลเลียม โอซูลา (ลงแทนโอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ โดนแบน)ทรงบอลทั้งครึ่งแรกและครึ่งหลังเหมือนกันคือเดอะเรดเป็นฝ่ายครองบอลมากกว่าถึง 80% และหาทางเจาะอยู่ฝ่ายเดียว มีโอกาสยิง 15 ครั้ง ยิงตรงกรอบ 8 ครั้งได้มา 2 ประตู เตะมุม 12 ครั้งประตูแรกที่ขึ้นนำจากฟานไดซ์ก็มาจากลูกเตะมุม ขณะที่เดอะเบลดเป็นรองทุกอย่างแต่ก็เล่นรออย่างอดทนรอจังหวะโต้กลับเน้นๆ มีโอกาสยิง 6 ครั้ง ตรงกรอบ 1 ครั้ง และเตะมุม 2 ครั้งเดอะเรดเกมนี้เล่นด้วยความระมัดระวังตัวไม่ผลีผลามบุกแบบเอาเป็นเอาตายยิ่งได้ประตูขึ้นนำแล้วก็ยิ่งเล่นครองบอลไว้เสียมากกว่า จังหวะหวาดเสียวถึงขั้นมีโอกาสเสียประตูจริงๆ มาจากความผิดพลาดของเดอะเรดมากกว่า ครั้งหนึ่งมาจากความผิดพลาดของโกเมซปั้มบอลเสียกลางสนามแล้วโดนโต้กลับอาร์เซอร์ได้ยิงเข้ากรอบแต่ติดเซฟของเคลเลเฮอร์ อีกครั้งว่ามาจากลูกเตะมุมนักเตะเดอะเบลดได้วอลย์เลย์ตรงจุดโทษบอลกระดอนพื้นข้ามคาน แล้วก็มีโอกาสกดดันเดอะเรดได้บ้างช่วงท้ายเกม ทำให้แนวรับปั่นปวนอยู่เหมือนกันก่อนโซโบจะกดประตูที่สองฝังเจ้าบ้านสำเร็จฟอร์มของนักเตะเดอะเรด เคลเอลเฮอร์ มีโอกาสเซฟจริงจังแค่ครั้งเดียวเป็นเซฟสำคัญช่วยให้ทีมไม่ตกเป็นรองเจ้าบ้านเสียก่อน และเป็นการช่วยเซฟความผิดพลาดของโกเมซที่วันนี้ลงแทนซิมิคาสทั้งที่ไม่เจองานยากแต่เจ้าตัวก็ไม่ได้โชว์ฟอร์มอะไรโดนเด่นมิหนำซ้ำยังก่อความผิดพลาดขึ้นมาจนทีมเกือบเสียหาย ฟานไดซ์โดนเด่นมากทั้งเกมรับและเกมรุกยิงขึ้นนำให้ทีมและเซฟจังหวะยิงของนักเตะเดอะเบลดให้กับทีมอีกด้วย ประคองทั้งโกนาเต้และโกเมซเอ็นโด๊ะเชื่อมเกมและตัดเกมตั้งแต่แดนของเจ้าบ้านทำงานได้ตามหน้าที่ แม็คก้าในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกเชื่องช้าไปนิดมีจังหวะยิงลูกใบไม้ร่วงเกือบได้ประตูหนึ่งครั้ง ท้ายครึ่งแรกโดนย้ำบริเวณเข่าซ้ายฝืนเล่นจนถึงนาที 59 ก็โดนเปลี่ยนออก โซโบไม่โดนเด่นจังหวะยิงไกลไม่มีให้เห็นแต่จังหวะยิงลูกฝังเจ้าบ้านทำได้เยือกเย็นเด็ดขาดส่วนสามกองหน้าลูโซ คักโป ซาล่าห์ รวมถึงนูเญซที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมาก็ยิงประตูไม่ได้เป็นเกมที่สองต่อเนื่องกัน นูเญซมีทั้งดีและไม่ดีในเกมนี้ ไม่ดีในจังหวะหลุดเดี่ยวแล้วยิงติดผู้รักษาประตู ดีในจังหวะแย่งบอลกลับมาและแอตซิสให้โซโบยิงปิดกล่องชัยชนะในเกมนี้ของเดอะเรดช่วยหยุดสถิติไม่ชนะเกมเยือนจากสามเกมก่อนหน้านี้ลงได้ รักษาระยะห่างจากจ่าฝูงอาร์เซนอลเหลือ 2 คะแนนอีกครั้ง และยังหนีแมนเซสเตอร์ ซิตี้ออกไปเป็น 4 คะแนน หลังเรือใบล่มที่วิลล่าพาร์กแพ้ต่อแอสตันวิลล่า 0-1 ร่วงมาอยู่อันดับ 4 ของตารางคะแนน ที่สำคัญเพิ่มความมั่นใจมากขึ้นก่อนจะออกไปเยือนดิอีเกิ้ล คริสตันพาเลซในเกมสุดสัปดาห์นี้ขอบคุณเครดิตภาพประกอบจาก : Official Page Of Thailand Liverpool FCภาพปก / ภาพประกอบที่ 1 / ภาพประกอบที่ 2 / ภาพประกอบที่ 3 / ภาพประกอบที่ 4 Communityคอบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์