วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักกีฬาแบดมินตันชายชาวไทย ที่ได้ปลุกกระแสกีฬาแบดมินตันให้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากคว้าเหรียญเงินในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ที่ปารีส 2024 ได้สำเร็จ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของชาวไทยเป็นอย่างมาก แล้วอะไรกันนะที่ทำให้เขาสามารถก้าวขึ้นไปยืนในจุดที่เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างมากได้ขนาดนี้ บทความนี้ได้ทำการวิเคราะห์ 10 แนวคิดของ "วิว กุลวุฒิ" ที่เป็นเบื้องหลังความสำเร็จออกมาให้ผู้อ่านทุกท่านได้อ่านกัน จะมีแนวคิดใดน่าสนใจบ้าง เลื่อนอ่านต่อได้เลยค่ะประวัติ "วิว กุลวุฒิ" กับเส้นทางนักแบดมินตันทีมชาติไทย วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ (Kunlavut Vitidsarn) เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2544 กรุงเทพมหานครฯ บุตรชายคนแรกของบุตรของนายณัฐวัชร และนางนัฎกนก วิทิตศานต์ มีน้องสาว 1 คน คือ สรัลรักษ์ วิทิตศานต์ หรือ น้องส้ม ซึ่งเป็นนักกีฬาแบดมินตันเช่นกัน ก้าวแรกสู่สนามแบดมินตันวิว กุลวุฒิ เริ่มต้นเข้าสู่วงการแบดมินตันด้วยความตั้งใจเริ่มแรกเพียงต้องการออกกำลังกายให้สุขภาพดีขึ้นเนื่องจากในวัยเด็กป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ ซึ่งเดิมทีคุณพ่อก็เป็นโค้ชแบดมินตันอยู่แล้ว ทำให้วิวได้มีโอกาสลองเล่นจนพบว่ารู้สึกชอบในกีฬานี้และด้วยพรสวรรค์รวมกับพรแสวงก็ทำให้วิวได้ฉายแววความโดดเด่นออกมาจากเด็กรุ่นเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด ข้อมูลส่วนตัวของวิว กุลวุฒิอันดับโลก: 4ฉายา: เทพสามเกม (Three-Game God)รูปแบบการเล่นที่ถนัด: เกมรับส่วนสูง: 177 เซนติเมตรมือที่ถนัด: ขวาสังกัด: โรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอดผู้ฝึกซ้อม: ภัททพล เงินศรีสุข (โค้ชเป้)IG: kunlavut.vFacebook: Kunlavut Vitidsarn - กุลวุฒิ วิทิตศานต์แน่นอนว่าการที่คนหนึ่งคนจะประสบความสำเร็จได้นั้น ย่อมไม่ใช่ความบังเอิญหรือเรื่องราวของโชคชะตา หากแต่เกิดจากความวิริยะอุตสาหะและมีความคิดแบบผู้ชนะ ซึ่งเราทุกคนทราบโดยทั่วกันอยู่แล้วว่า "นักกีฬาทีมชาติ" ย่อมผ่านการฝึกซ้อมที่หนักหน่วงและความกดดันต่าง ๆ มากมาย แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาก้าวข้ามสิ่งเหล่านั้นได้ ไม่ใช่เพียงร่างกายแต่เกิดจาก "จิตใจ" หรือ "Mindset" ที่แข็งแกร่งด้วย แล้ว Mindset ที่วิว กุลวุฒิเขามีนั้นจะมีประการไหนน่าสนใจบ้าง มาดูกันค่ะวิว กุลวุฒิ กับแนวคิด Winner Mindset เพื่อชีวิตที่ประสบความสำเร็จ1. รู้จุดแข็ง-จุดอ่อนของตัวเองเสมอวิวกุลวุฒิมีมุมมองว่าพวกเราทุกคนย่อมมีจุดแข็งและจุดอ่อนกันทั้งนั้น แต่สิ่งที่เราต้องทำคือต้องรู้ให้ได้ว่าจุดแข็ง-จุดอ่อนของตัวเองนั้นคืออะไร รู้จุดแข็งแล้วก็พัฒนาสิ่งนั้นให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ส่วนจุดอ่อนเมื่อรู้แล้วก็ควรปรับปรุงและอย่ามองข้ามมันเด็ดขาด หลายคนอาจจะไม่ยอมรับในจุดอ่อนของตัวเอง เลือกจะมองข้ามมันไปและไปโฟกัสกับจุดแข็งเพียงอย่างเดียว ซึ่งแท้จริงแล้วการทำแบบนั้นเป็นเรื่องที่น่ากังวล เพราะคุณอาจจะต้องเผชิญกับปัญหาแบบเดิม ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าดังนั้นอย่าสูญเสียความมั่นใจที่ต้องรับรู้ว่า "คุณเองก็มีจุดอ่อน" แต่จงเผชิญหน้ากับมัน เพื่อหาวิธีจัดการและลดจุดอ่อนนั้นให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้อย่างวิวเองมีจุดแข็งในเกมรับ เพราะเขาสามารถคาดคะเนโอกาสที่คู่ต่อสู้จะส่งลูกมาในแต่ละฝั่งได้ค่อนข้างแม่นยำ แต่ในส่วนของเกมรุก วิวอาจจะยังไม่ได้ทำได้ดีขนาดนั้น แต่ในโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ปารีส ในแมทช์ วิว กุลวุฒิ vs ฉี ยู่ฉี (อันดับ 1 ของโลก) จะเห็นว่าเขามีการใช้เกมรุกมากขึ้นและทำให้ได้รับชัยชนะในครั้งนั้นไป2. รับมือกับความเบื่อหากคุณอยากเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องอะไร "ความเบื่อ" จะเริ่มมาเยือนจิตใจคุณเสมอ ความเบื่อ คำ ๆ นี้ฟังดูแล้วเหมือนเป็นอะไรที่แย่ แต่ความจริงแล้วมันเป็นสัญญาณที่ดีมาก เพราะแสดงถึงการวินัยของคุณ ความสม่ำเสมอ การทำอะไรซ้ำ ๆ จะทำให้เกิดความเบื่อได้ สิ่งที่ทำได้คือลองเปลี่ยนมุมมองต่อความเบื่อดู และโฟกัสกับกระบวนการที่จะทำให้ไปถึงเป้าหมาย แต่หากคุณเบื่อจริง ๆ และไม่อยากออกจากกระบวนการนี้เช่นกัน คุณอาจจะลองปรับกระบวนการให้มีความหลากหลายและยืดหยุ่นมากขึ้นวิวกุลวุฒิ ในฐานะนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติที่ซ้อมกีฬาเป็นกิจวัตรประจำวันแบบเดิม ๆ ตลอด 10 กว่าปี เขาเองก็ยอมรับว่าเขามีความเบื่อเกิดขึ้นเช่นเดียวกัน แต่เลือกจะมองข้ามมันไปและโฟกัสไปที่เป้าหมาย (Goals) ที่อยากทำได้ มันจะทำให้มีกำลังใจที่จะเอาชนะความเบื่อแต่ละวันได้ในที่สุด3. มีวินัยสม่ำเสมอ ไม่ออกนอกลู่นอกทางวิวกุลวุฒิมองว่าการเป็นนักกีฬาต้องมีวินัยเสมอ เขาเองไม่ได้ไปเที่ยวตามสถานบันเทิงแบบที่วัยรุ่นหลายคนอาจจะเคยลองไป เพราะเขามองว่าเป็นการไม่เหมาะสมสำหรับคนที่เป็นนักกีฬา ที่ต้องดูแลสภาพร่างกายให้พร้อมอยู่เสมอซึ่งตรงนี้เราสามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตของเราได้ หากเราอยากบรรลุเป้าหมายอะไรก็ตาม การโฟกัสกับกระบวนการและเป้าหมาย พยายามควบคุมตัวเองไม่ให้ออกนอกลู่นอกทางได้ ก็จะช่วยให้เราได้ไปถึงเป้าหมายต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น4. อยู่กับปัจจุบัน อย่าคิดถึงผลลัพธ์มากเกินไปไม่ว่าจะเป็นสนามแบดมินตันหรือสนามชีวิต การที่เอาแต่คิดถึงผลลัพธ์ในอนาคตมากไป จนไม่ได้อยู่กับปัจจุบันมากพอ มีแต่เสียกับเสีย วิวกุลวุฒิเองเป็นหนึ่งในคนที่พวกเราเห็นได้ชัดว่าเขามีความนิ่งและมีสมาธิในเกมที่ลงแข่งขันมาก อย่างแมทช์ วิว กุลวุฒิ vs lee zii jia วิวเองก็มีทั้งตอนที่ไล่ตามและคะแนนนำ เชื่อว่าหลายคนเมื่อโดนนำแต้มห่างมาก ๆ ก็อาจจะเสียสมาธิและสติกระเจิงไปแล้ว แต่วิวเลือกที่จะนำคำแนะนำจากทีมจิตวิทยาที่เข้ามาช่วยโค้ชนักกีฬามาใช้ นั่นคือการทำแต่ละแต้มให้ดีที่สุด อย่าเพิ่งไปคาดหวังว่าจะชนะหรือแพ้การมีแนวคิดเช่นนี้จะช่วยให้เราไม่กดดันตัวเองมากเกินไป และไม่ปล่อยปละละเลยกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ได้อีกด้วย5. ตั้งเป้าหมายให้ชัดวิวกุลวุฒิมีเป้าหมายของตัวเองสำหรับวงการแบดมินตัน 3 อย่าง คือ จะเป็นแชมป์โลก แชมป์ ออลอิงแลนด์ เหรียญทองโอลิมปิก การที่มีเป้าหมายชัดเจนทำให้เราสามารถวางแผนต่อไปได้อย่าง "ชัดเจน" เช่นเดียวกันว่าจะทำอย่างไรต่อไปเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเหล่านั้นได้สำเร็จ6. มีเวลาให้ตัวเองบ้างถึงแม้ว่า "ความมุ่งมั่น" จะเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จ แต่บนโลกใบนี้อะไรที่มากเกินไปย่อมไม่ดีทั้งสิ้น การพักผ่อนที่ดีต่อกายและใจก็เป็นส่วนที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จได้ด้วยเช่นกัน อย่างวิวกุลวุฒิ ในช่วงที่มีเวลาพักผ่อนก็อาจจะเลือกเล่นเกมที่ตัวเองชอบ รับประทานอาหารมื้อโปรด หรือใช้เวลานอนพักผ่อน7. มีโค้ชที่ดีการมีโค้ชที่ดี คืออีกหนึ่งกุญแจสำคัญที่ช่วยไขกล่องแห่งความสำเร็จของบุคคลระดับโลกหลายต่อหลายคน ในส่วนของวิว กุลวุฒิ ได้รับการดูแลจากโค้ชภัททพล เงินศรีสุข หรือ โค้ชเป้ ซึ่งเป็นคนดูแลเรื่องของระเบียบวินัยและการฝึกซ้อม รวมถึงฝึกให้รู้จักการวิเคราะห์เกมได้อย่างเฉียบขาดในแมทช์ วิว กุลวุฒิ vs วิคเตอร์ อเซลเซ่น ที่ผ่านมานั้น แม้ว่าวิวกุลวุฒิในตอนนั้นจะเป็นรองคู่ต่อสู้อยู่ในระดับหนึ่ง แต่โค้ชเป้ก็ไม่ได้ต่อว่าหรือพยายามกดดันใด ๆ โดยผู้ชมจะได้ยินประโยคหนึ่งจากปากโค้ชท่านนี้ว่า "พี่บอกแล้วไง เอ็งจะหาประสบการณ์แบบวันนี้ไม่ได้แล้ว เอ็งจะแพ้หรือชนะไม่เป็นไร เอ็งเอาความรู้ ความรู้สึก วิธีคิดวิธีเล่นเอาไปใช้ เขาคือสุดยอด เราต้องเรียนรู้จากเขา ใช่ปะ”ซึ่งคำพูดเหล่านี้ถือเป็นพื้นฐานในการสร้าง Growth Mindset ให้คนหนึ่งคนได้อย่างยอดเยี่ยมและทรงพลัง แน่นอนว่าในฐานะนักกีฬาทีมชาติที่มีความคาดหวังของคนทั้งประเทศแบกไว้บนบ่า ย่อมไม่มีใครอยากสัมผัสกับ "ความพ่ายแพ้" แต่ในเวลาที่ทุกอย่างดูไม่เป็นใจ ถึงแม้เราจะพยายามทำทุกวิถีทางอย่างดีที่สุดแล้วก็ตาม บางครั้งการลองปรับมุมมองของตัวเองต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและพยายามเก็บเกี่ยวบทเรียนจากมัน อาจดีกว่าการกดดัน บีบคั้น ตัวเองต่อไปอย่างไร้จุดจบ 8. เรียนรู้จากคนที่เก่งกว่าการได้อยู่ท่ามกลางคนที่เก่งกว่า เปรียบเสมือนโอกาสทองในชีวิต ไม่ต้องพยายามแข่งขันหรือเอาชนะคนเก่งอย่างไม่ลืมหูลืมตา แต่สิ่งที่ควรทำคือ "การเรียนรู้" เพราะในที่สุดแล้ววิธีที่ทำให้คุณเก่งขึ้นได้เร็วที่สุด ก็คือการได้อยู่ร่วมกับคนที่เขาเก่งกว่าคุณเช่นเดียวกับวิว กุลวุฒิ ที่ไม่ได้มองว่าการต้องไปถูกห้อมล้อมด้วยคนเก่ง ๆ มากมายจะทำให้เขากลายเป็นคนที่ตัวเล็กกว่าหรือถูกมองข้าม แต่มันคือโอกาสและประสบการณ์ชีวิตที่แสนล้ำค่าที่จะทำให้เขาได้พัฒนาตัวเองต่อไปมากกว่า9. รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งการรู้และเข้าใจตัวเอง อีกทั้งยังวิเคราะห์คู่แข่งได้อย่างปราดเปรื่องเป็นอีกหนทางที่ทำให้เราเข้าใกล้ชัยชนะได้มากขึ้น อย่างในแมทช์ วิว กุลวุฒิ vs ฉี ยู่ฉี จากจีน วิวเริ่มสังเกตได้ว่าอีกฝั่งมีความกดดันสูง และสภาพจิตใจไม่มั่นคง นั่นถือเป็นช่องโหว่ที่สำคัญในวันนั้นและทำให้วิวเริ่มคิดจะเปิดเกมบุกมากขึ้น และได้แต้มตามที่ตั้งใจไว้ได้10. กำลังใจแน่นอนว่า "กำลังใจ" เปรียบเสมือนน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจของแต่ละคน การมีกำลังใจเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ อย่าง วิว กุลวุฒิ เองก็มีแฟนสาวและครอบครัวคอยเป็นลมใต้ปีก สนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตัวเขาเองก็ยอมรับว่าบุคคลเหล่านี้มีคุณค่าต่อเขามาก ๆ จะเห็นได้ว่า วิว กุลวุฒิ เป็นนักกีฬาที่ไม่ได้มีเพียงพรสวรรค์ทางด้านกีฬาเท่านั้น แต่เขายังมีพรแสวงและแนวความคิดที่แข็งแรงและน่าสนใจมาก ๆ อีกด้วย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะช่วยให้ผู้อ่านทุกท่านได้ลองนำแนวคิดดี ๆ ไปปรับใช้กับชีวิตประจำวันไม่มากก็น้อยนะคะบทความแนะนำhttps://sport.trueid.net/detail/Wl9BrDZrNmbxขอบคุณภาพหน้าปกภาพที่1: kunlavut.v / ภาพที่2: kunlavut.v / ภาพที่3: kunlavut.v ขอบคุณภาพประกอบภาพที่1: kunlavut.v / ภาพที่2: kunlavut.v / ภาพที่3: kunlavut.v / ภาพที่4: kunlavut.v / ภาพที่5: kunlavut.v / ภาพที่6: kunlavut.vHASHTAG#วิวกุลวุฒิ #แบดมินตัน #โอลิมปิก #โอลิมปิกเกมส์ ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !