รีเซต
เร้าใจแน่!! 10 เหตุผลที่คุณต้องชม ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก 2022/23

เร้าใจแน่!! 10 เหตุผลที่คุณต้องชม ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก 2022/23

เร้าใจแน่!! 10 เหตุผลที่คุณต้องชม ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก 2022/23
TenAkapol
31 กรกฎาคม 2565 ( 09:30 )
4.9K

โหมโรงก่อนศึกพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลใหม่ 2022/23 จะเปิดฉากขึ้นในไม่กี่อึดใจ มีประเด็นไหนดุเดือดและน่าติดตามบ้าง รับรองฤดูกาลนี้มันแน่นอน..!!

วันเวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน หลังจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปิดฤดูกาล ไปเมื่องช่วงเดือน พฤษภาคม และ ล่าสุด ฤดูกาลใหม่ก็กำลังสืบเท้าใกล้เข้ามาแล้ว

สำหรับการเริ่มต้นใหม่ในฤดูกาลนี้ ก็ย่อมหมายถึงเรื่องราวใหม่ๆ ที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ทั้งนักเตะ ผู้จัดการทีม ทีมน้องใหม่ที่ผ่านเข้ามา กฎต่างๆ ที่เปลี่ยนไป และทุกอย่างก็เป็นเสน่ห์ของศึกพรีเมียร์ลีก ที่ทำให้เหล่าคอบอลได้ตื่นเต้นเร้าใจอยู่เสมอ แล้วในฤดูกาล 2022/23 จะมีอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจกันบ้าง มาดูกันเลย..!! 

1. กฎติกาใหม่ เปลี่ยนตัวสำรองได้ 5 คน

โดยกฎการเปลี่ยนตัวสำรองได้ 5 คนนั้น ได้ถูกกำหนดมาใช้ เพื่อสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อปี 2020 เพื่อช่วยให้นักเตะในสนามไม่เหนื่อยจนเกินไป หลังกลับมาจากกักตัว แต่ในฤดูกาล 2022-2023 ทั้ง พรีเมียร์ลีก และ อีเอฟแอล จะนำกฎนี้กลับมาใช้แบบถาวรอีกครั้ง โดยสามารถเปลี่ยนตัวได้ 3 ครั้ง ระหว่างเกม และช่วงพักครึ่ง 1 ครั้ง และสามารถใส่รายชื่อนักเตะตัวสำรองข้างสนามได้ 9 คน นั่นจะทำให้เหล่านักเตะตัวสำรอง จะได้โชว์ฝีมีมากขึ้น อีกทั้งนักเตะตัวหลักๆ ก็ลดอาการบาดเจ็บได้มากขึ้น ถือว่าเป็นผลดีกับเหล่าบรรดาทีมในพรีเมียร์ลีกได้ดีเลยทีเดียว 

2. ทีมน้องใหม่ที่ไม่ธรรมดา 

เรียกได้ว่าเป็นที่น่าจับตามองของแฟนบอลทุกๆ ปี สำหรับทีมน้องใหม่ที่จะได้เลื่อนชั้นขึ้นมาในลีกสูงสุด และในปีนี้นั้นเราก็ได้สามทีมน้องใหม่แต่หน้าเดิมอย่าง ฟูแล่ม บอร์นมัธ และ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่ได้เลื่อนชั้นขึ้นมา

แต่สิ่งที่น่าจับตาคือทีมหลังอย่าง ฟอเรสต์ ที่เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดได้ ในรอบ 23 ปี โดยทัพ "เจ้าป่า" ครั้งหนึ่งในอดีตเคยขึ้นไปเป็นแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพ และเป็นทีมขวัญใจแฟนบอลรุ่นเก่า ที่กลับมาสร้างสีสันได้อีกครั้งในปีนี้ 

แถมการขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกทัพ "เจ้าป่า" ก็เสริมทัพแบบจัดหนักมาก ดึงนักเตะใหม่มาเข้าทีมถึง 11 รายไปแล้ว

จาการเสริมทัพแบบนี้ ต้องมาดูกันว่า การกลับขึ้นมาสู่ลีกสูงสุดอีกครั้งของพวกเขา จะสามารถอยู่รอด และทำผลงานได้ดีขนาดไหน เนื่องจากตัวที่เสริมก็ไม่ธรรมดา ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น เจสซี่ ลินการ์ด, เนโก้ วิลเลียมส์, ดีน เฮนเดอร์สัน และ ไตโว อโวนิยี่ 4 นักเตะมีชื่อ จากทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ที่จะมาช่วยยกระดับทีมในฤดูกาลนี้ บอกเลยว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจเหลือเกินสำหรับน้องใหม่ไฟแรงรายนี้ 

3. ทีมบิ๊ก 6 เสริมทัพแบบจัดหนัก

เรียกได้ว่าตลาดซื้อขายนักเตะในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในตลาดซื้อขายนักเตะที่ดุเดือดที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยทีมแชมป์เก่า อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็เสริมกองหน้ามาใหม่ คว้าตัว เออร์ลิง ฮาแลนด์ สุดยอดกองหน้าดาวรุ่งระดับท็อปของโลก มาล่าตาข่ายให้ ส่วนอีกคนหนึ่งก็คือ ฮูเลียน อัลวาเรซ ดาวยิงที่น่าจับตามองที่สุดในอเมริกาใต้ ซึ่งแน่นอนว่า ทั้งสองคนจะเข้ามายกระดับแนวรุกของ "เรือใบสีฟ้า" ให้เฉียมคมยิ่งขึ้น และพร้อมที่จะมาเขย่าเวลทีพรีเมียร์ลีกแล้ว บอกเลยว่าเดือดแน่.!  

ทางด้านทีมรองแชมป์อย่าง ลิเวอร์พูล ก็ไม่น้อยหน้าได้จ่ายเงินถึง 85 ล้านปอนด์ ทุบสถิติสโมสรอีกครั้งในการคว้าตัว ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัย ของ เบนฟิก้า ทีมชั้นนำในลีกโปรตุเกส มาร่วมทีมแทนที่ของ ซาดิโอ มาเน่ ที่ย้ายออกจากทีมไปซบตัก บาร์เยิร์น มิวนิค 

สำหรับ นูนเญซ แม้ว่าช่วงแรกจะยังผลงานไม่ดีเท่าไหร่ในเกมอุ่นเครื่อง ทว่าในเกมกับ ไลป์ซิก เข้าก็โชว์เห็นเห็นถึงความเด็ดขาดแล้ว เมื่อเหมาซัดคนเดียว 4 ลูก ในเกมดังกล่าว ซึ่งแน่นอนว่า เขาก็พร้อมจะท้าทายแนวรับของทุกทีม หากฤดูกาลใหม่เปิดขึ้นมา 

ทางด้าน เชลซี ที่ได้เจ้าของใหม่ และก็พยายามที่จะคว้าตัวแบบที่ผู้จัดการทีมอย่าง โธมัส ทูเคิ่ล รีเควสเอง โดยได้ทำการเปิดตัว คาลิดูคู ลิบาลี กองหลังจอมแกร่งจาก นาโปลี และ ราฮีม สเตอร์ลิง แนวรุกทีมชาติอังกฤษมาร่วมทีมเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมาสร้างสีสันให้กับทีมในเกมรับ และรุกได้อย่างแน่นอน 

ส่วนทางด้านทีม อาร์เซน่อล นั้นปีนี้ถือน่าจับตามองมากๆ หลังทำการคว้าตัว กาเบรียล เชซุส มาเสริมเป็นกองหน้าตัวหลักให้กับทีม แถมยังโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดในช่วงศึกอุ่นเครื่อง นั่นทำให้กลายเป็นกองหน้าตัวความหวังของเหล่าสาวก "ปืนใหญ่" ไปแล้วในตอนนี้ อีกทั้งพวกเขายังคว้า ฟาร์บิโอ วิเอร่า หนึ่งในดาวรุ่งฝีเท้าดีของโปรตุเกส มาร่วมกันสร้างสรรค์เกมได้อย่างดี แม้ยัย้ายมาแล้วเจออาการบาดเจ็บเล่นงาน แต่คาดว่าน่าจะให้ทันฟอร์มลงฟาดแข้งในฤดูกาลหน้าอย่างแน่นอน บอกเลยปีนี้ทีม ปืนใหญ่ มาดีไม่น้อยเลยล่ะ 

ส่วนทาง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส มีกุนซือจอมเทคนิคอ่าง อันโตนิโอ คอนเต้ ที่ได้มีโอกาสลงตลาดเพื่อซื้อนักเตะเข้าทีมอย่างเป็นจริงเป็นจังเป็นครั้งแรก และพวกเขานั้นก็ได้เสริมในจุดที่พวกเขายังขาดไปในฤดูกาลที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการคว้า ริชาร์ลิซอน กองหน้าทีมชาติบราซิล จาก เอฟเวอร์ตัน มาเสริมทีมในแนวรุก การคว้าวิงแบ็กคู่ใจอย่าง อีวาน เปริซิซ มาช่วยเกมรับอีกถือว่า ทัพ "ไก่เดือยทอง" จัดเต็มได้ตรงจุดถูกในคอบอลไม่น้อยเลย 

ทางด้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ไม่น้อยหน้าได้มีการเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารทีม และการเปลี่ยนผู้จัดการทีมใหม่ อย่าง เอริค เทน ฮาก ที่เข้ามาปรับทีมให้ดูทนงองอาจอีกครั้ง จากฟอร์มในช่วงอุ่นเครื่องปรีซีซั่นที่ผ่านมาทำผลงานได้อย่างสุดยอด นั่นก็ทำให้แฟนบอลใจชื้นอีกครั้ง ที่จะได้เห็นทีมรักเข้าสู่ฟอร์มโหดอีกครั้งในช่วงเปิดฤดูกาลใหม่

อย่างไรก็ดี แม้ว่าตลาดซื้อขายครั้งนี้จะยังไม่จบลง และพวกเขายังตามล่าตัว แฟรงกี้ เดอ ยอง ที่เป็นคีย์สำคัญของทีมให้ได้ แม้จะได้ตัว คริสเตียน เอริคเซ่น มาช่วยสร้างสรรค์ เกมแดนกลางยังได้กองหลังอย่าง ลิซานโดร มาร์ติเนซ และ ไทเรลล์ มาลาเซีย มาช่วยทีมได้อย่างดี 

4. ใครจะเป็นคนหยุด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในฤดูกาลนี้ 

แน่นอนการที่เป็นแชมป์ ถือว่าเป็นการยากแล้วในศึกพรีเมียร์ลีก แต่การป้องกันแชมป์ดูเหมือนเป็นงานหนักมากกว่า สำหรับทัพ "เรือใบสีฟ้า" หลังได้แชมป์มาสองฤดูกาล ติดต่อกันแล้ว และพวกเขาจะทำการป้องกันแชมป์ สมัยที่ 3 ได้หรือไม่ บอกเลยฤดูกาลนี้ต้องทุ่มพลังไม่น้อยเลย

อีกทั้ง "เรือใบสีฟ้า" ยังต้องเจอคู่แข่งคนสำคัญอย่าง ลิเวอร์พูล ที่พร้อมเดินหน้าทวงแชมป์ในฤดูกาลใหม่นี้อย่างแน่นอน แม้หลายคนอาจจับจ้องมาที่ ดาร์วิน นูนเญซ ว่าจะเป็นคีย์หลักในการทำสกอร์ แต่อย่าลืมว่าในแผงแนวรุกพวกเขายังมี โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ หลุยซ์ ดิอาซ ที่พร้อมทำลายแผงหลังได้อย่างดี ซึ่งการทำทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ทำได้เข้าฝักไม่แน่ว่า ฤดูกาลนี้พวกเขาจะเดินหน้าคว้าแชมป์ลีกสูงสุด อีกครั้งก็เป็นได้ 

อีกทีมที่น่าสนใจที่น่าจะก้าวสู่การชิงบัลลังก์แชมป์ ก็คือ อาร์เซน่อล ทีมที่มาพร้อมกับนักเตะพลังหนุ่มเกือบทั้งทีม อีกทั้งแต่ละคนฝีมือจัดจ้านกันน่าดู และได้ตัวรุกอย่าง กาเบรียล เชซุส มาเติมเต็มกองหน้า ถือว่าน่ากลัวเลย ที่จะเป็นม้ามืดขึ้นคว้าแชมป์ในปีนี้ได้เหมือนกัน ถ้าฟอร์มไม่ออกทะเลไปก่อนเหมือนฤดูกาลที่ผ่านมาก็ถือว่ามีลุ้นอยู่

5. บทพิสูจน์ของ เอริค เทน ฮาก

สาวก "ปีศาจแดง" คงจะแฮปปี้พอสมควร ที่ได้เห็นผู้จัดการทีมคนใหม่เข้ามาปลุกชีพให้ทีม หลังจากที่ทำผลงานในช่วงอุ่นเครื่องได้ดีเหลือร้าย แถมถล่มทีม "หงส์แดง" คู่อริเละเทะ 4-0 ที่กรุงเทพ ก่อนที่ยังสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น ในช่วงอุ่นเครื่อง 4 นัดที่ผ่านมา นั่นทำให้เหล่าแฟนๆ ตั้งความหวังว่า เอริค เทน ฮาก ผู้นี้แหละที่จะมาเป็นผู้ชุบีวิตให้เหล่า เร้ด เดวิลล์ ได้ลืมตาอ้าปาก พูดคุยกับเหล่าสาวกทีมอื่นได้แบบไม่อายอีกต่อไป หลังจมปลักอยู่ในยุคมืดมานาน และไม่สามารถคว้าแชมป์ลีกได้เลย พวกเขาโดยได้แชมป์ลีกครั้งสุดท้ายก็ปี  2012–13 ซึ่งผ่านมาเข้าปีที่ 10 ของพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 

การมาของ กุนซือชาวดัตช์ ในครั้งนี้ ถือว่ามาเปลี่ยนแปลง แมนยู ในหลายสิ่ง ทั้ง การคุมการฝึกที่เข้มงวด การมีวินัยที่เข้มข้น เริ่มหล่อหลอมให้ทีมกลับมาสู่สิ่งที่เรียกว่า "ทีมเวิร์ก" ได้แล้ว ซึ่งดูจากการเตรียมทีมช่วงอุ่นเครื่องที่ผ่านมา เห็นได้ว่าเหล่าแฟน "ปีศาจแดง" ออกปากชมการทำทีมของเขาได้อย่างสุดยอด ชมกันอย่างไม่ขาดสาย และนี่คือสิ่งที่พัฒนาที่เห็นได้อย่างชัดเจน

โดยหากเปิดฤดูกาลใหม่ เริ่มฟาดแข้งแบบจริงจังแล้ว เราจะได้เห็นกันว่า เอริค เทน ฮาก จะเป็นของจริงอย่างกับที่เหล่าแฟนแมนยู หวังไว้หรือไม่ นี่แหละคือบทพิสูจน์ เทน ฮาก แบบเต็มๆ ว่าจะรอด หรือจะร่วง ในพรีเมียลีกอังกฤษ ลีกที่ดุเดือดที่สุดของโลกฟุตบอล

6. ยุคใหม่ของอาร์เซน่อล

ถ้าหากให้พูดถึงทีมน่าจับตามองในฤดูกาลใหม่ของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คงต้องยกให้ อาร์เซน่อล เนื่องจากช่วงซัมเมอร์นี้ มีการเสริมทัพที่จัดเต็ม และก็ซื้อได้ถูกจุดอย่างมาก อีกทั้งตัวผู้เล่นโดยส่วนใหญ่ก็ยังเป็นนักเตะอายุยังน้อย แถมนักเตะยังเล่นได้อย่างเขาขาแบบรู้ใจกันอย่างดี ทั้งเกมรุกและเกมรับ เรียกว่ามองตารู้ใจ

และการได้ตัวรุกอย่าง กาเบรียล เชซุส มาช่วยล่าตาข่าย ก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ลงตัวอย่างมาก หากดูฟอร์มจากช่วงอุ่นเครื่อง จะเห็นว่านักเตะชาวบราซิลรายนี้ แทบไม่ต้องปรับตัวอะไรมากกับทีม "ปืนใหญ่" เลย ก็สามารถพังประตูได้เป็นกอบเป็นกำ อีกทั้งเขายังเคยร่วมงานกับ มิเกล อาร์เตต้า กุนซือชาวสเปน ตั้งแต่ตอนที่เป็นผู้ช่วย เป๊บ กวาดิโอร่า สมัยอยู่กับแมนซิตี้ มาแล้วด้วย ก็ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่สำหรับการปรับตัวกับฟอร์มการเล่น

เท่านั้นยังไม่พอ อาร์เซน่อล ยังได้ตัว โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ มาเติมเต็มตำแหน่ง แบ็คซ้าย ที่ทีมตามหามานานก็ยิ่งทำให้ทีมดูแล้วลงตัวขึ้นไปอีก

จะเห็นว่าปีนี้ ทางทัพ "ปืนใหญ่" จัดหนักจัดเต็ม ในการเสริมทัพอย่างมาก นั่นเพราะว่า พวกเขามองว่าในฤดูกาลหน้านี้ ทีมของพวกเขาต้องไม่ใช่ทีมนอกสายตาอีกต่อไป และหวังว่าจะยืนหยัดในการไปตะลุยในเวทียุโรปให้ได้ หลังพลาดท่าแบบไม่น่าพลาดในฤดูกาลก่อน ที่ทำให้จบแค่อันดับ 5 เท่านั้น ซึ่งฤดูกาลนี้ เราจะได้เห็นกันว่า อาร์เซน่อล ทีมใหม่นี้ เจ๋งพอที่จะขึ้นไปเขย่าท็อปโฟร์ ได้หรือยัง 

7. ดาวซัลโว ซีซั่นนี้ ลุ้นกันเดือดแน่ 

หากพูดถึงดาวยิงสูงสุดในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ย่อมมีการแข่งขันกันสูงตลอดเวลา หลังจากฤดูกาลที่แล้ว มีดาวซัลโวถึงสองคน ทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ตัวรุกของ ลิเวอร์พูล ที่ควงคู่ ซน ฮึง-มิน ของท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทั้งสองคนพังประตูคู่แข่งกันไปถึง 22 ประตู ในฤดูกาลที่แล้ว

ส่วนฤดูกาลใหม่ที่จะถึง นักเตะที่น่าจับตามองอย่าง คงหนีไม่พ้น เออร์ลิง ฮาแลนด์ ที่มีสถิติยิงประตูถล่มทลายในศึก บุนเดสลีกา เยอรมนี ก่อนที่จะย้ายซบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และได้ถูกยกให้เป็นตัวเต็งที่จะคว้าดาวซัลโวคนใหม่ของพรีเมียร์ลีก ไปแล้ว

แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เมื่อยังมี บรรดายอดหัวหอก อีกหลายคน เป็นก้างขวางคออยู่ ไม่ว่าจะเป็น ดาร์วิน นูนเญซ ที่ทางทัพ "หงส์แดง" คว้าตัวมาแทนที่ของ ซาดิโอ มาเน่ และมีการตั้งความหวังว่าเด็กหนุ่มชาวอุรุกวัยรายนี้ จะมาเป็นเครื่องจักรล่าสังหารประตูให้กับทีม

อีกทั้งตัวรุกคู่แข่งคนสำคัญอย่าง กาเบรียล เชซุส ของอาร์เซน่อล ที่กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอด และ แฮร์รี่ เคน และ ซน ฮึง-มิน สองคู่หูจอมถล่มประตูล ของทัพ "ไก่เดือยทอง" ก็ยังเป็นคู่แข่งคนสำคัญในการแย่งดาวซัลโวในฤดูกาลใหม่นี้เหมือนกัน 

ไม่ว่าจะเป็นนักเตะหน้าเก่าหรือหน้าใหม่ การแข่งขันในการสังหารประตู ก็เป็นความมุ่งมั่นของตัวบุคคล ความเฉียบคม อีกทั้ง โชคช่วยก็เป็นสิ่งที่ให้พวกเขาเหล่านั้นก้าวสู่ชุดสูงสุดของดาวยิงได้ ซึ่งปียี้บอกเลยว่า การถล่มประตูน่าจะดุเดือดไปน้อย และต้องมาลุ้นว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะคว้าดาวซัลโวสูงสุด 3 ปีติดได้หรือไม่อีกด้วย 

8. การคว้าตั๋วไปลุย แชมป์เปี้ยนลีก ที่สุดดุเดือด 


ข้อนี้เป็นข้อที่ไม่พูดคงไม่ได้ เพราะการที่ได้ไปลุยในศึกยูฟ่า แชมป์เปี้ยน ลีก นั้น เหมือนเป็นกับความฝันของหลายทีม รวมถึงเหล่านักเตะที่อยากจะวาดลวดลายในเวทียุโรป เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้กับตัวเอง อีกทั้งยังเป็นการอัพค่าตัวให้กับทีม หากโชว์ฟอร์มได้เข้าตา และมีการซื้อขายเกิดขึ้น

และการแย่งชิงโควต้า ไปแชมป์เปี้ยนลีก บอกเลยว่าดุเดือดเลือดพล่านก็มาทุกซีซั่น และซีซั่นนี้ก็น่าจะยิ่งเข้มข้น และลุ้นมากกว่ากว่าเดิม

อันดับ ท็อปโฟร์ ปีนี้ เรียกว่าหลายทีมมีสิทธิ์อย่างมาก แต่หากเลือกทีมเต็งที่จะได้โควต้า แชมป์เปี้ยนลีก คงหนีไม่พ้น แมนเชสเตอร์ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ส่วนอีก 2 ที่นั่งที่เหลือ จะเป็นการแย่งชิงที่สุดเดือดของ เชลซี, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, อาร์เซน่อล และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 

นอกจากทีมบิ๊ก 6 ข้างบนแล้ว ไม่แน่ว่า ซีซั่นนี้ อาจจะมีทีมม้ามืด ที่เป็นตัวแปรสำคัญเข้ามาเอี่ยวด้วยก็ได้ และถ้าให้เลือก ก็น่าจะเป็น เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่ถือว่าไม่ธรรมดาทำผลงานดีมาหลายซีซั่นติดแล้ว และล่าสุดก็เสริมทัพได้แบบสุดอันตราย ได้ตัว จานลูก้า สกามัคก้า ที่จะมาช่วยทีมล่าตาข่าย ก็น่าจะทำให้ทีมอันตรายยิ่งขึ้น

9. นักเตะต้องงัดฟอร์มเด่น เพื่อหวังติดธงไปลุยบอลโลก 

ศึกพรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ นอกจากจะเป็นการต่อสู้เพื่อแย่งชิงอันดับ และคะแนนกันแล้ว เหล่าบรรดานักเตะ ก็ต้องการจะโชว์ฟอร์มส่วนตัวให้ยอดเยี่ยมด้วย เพื่อให้เข้าตาบรรดาโค้ชทีมชาติ และถูกเรียกตัวเป็น 23 คนสุดท้าย มีชื่อไปลุยฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่กาตาร์ ในช่วงปลายปีนี้

แน่นอนว่า เหล่าบรรดาพ่อค้าแข้ง พร้อมที่ที่จะงัดฝีเท้าทุกอย่างออกมาโชว์ในสนามอย่างแน่นอน ซึ่งจะทำให้เราได้เห็นลีลาการเล่นอันตื่นตาตื่นใจ และมันก็น่าจะช่วยทวีคูณความเข้มข้นของลีกสูงสุดเมืองผู้ดีไปอีกหลายเท่า เรียกได้ว่าเป็นกำไรของแฟนบอล อย่างแท้จริง

10. พรีเมียร์ลีกที่สุดคุ้ม สำหรับแฟนบอลชาวไทย

ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนบอลทีมไหนในศึกพรีเมียร์ลีก โอกาสที่จะได้ชม ได้เชียร์ทีมรักแบบจัดเต็มแบบทุกนัด ไม่ได้ยากอย่างที่คิด แถมยังคุ้มค่าแบบสุดๆ อีกด้วย 

คอบอลคนไหน ที่อยากจัดหนัก จัดเต็ม ชมครบ 380 แมตช์ ต้องไม่พลาดการเป็นลูกค้ากลุ่มทรู รับรองว่าได้ชมพรีเมียร์ลีก แบบจุใจ ในราคาที่ใครๆ ก็สามารถเอื้อมถึงแบบชิวๆ ได้แน่นอน

และขอบอกว่า ทั้ง 380 แมตช์ ที่จะระเบิดขึ้นในฤดูกาลนี้ สามารถรับชมได้หลายช่องทางอย่างมาก เชียร์สะใจผ่านทุกแพลตฟอร์มของกลุ่มทรู ทั้งบนทีวี สมาร์ทโฟน และออนไลน์ เรียกได้ว่าอยู่ที่ไหนก็รับชมความเร้าใจได้แบบจัดเต็ม 

แฟนบอลคนไหนที่ต้องการรับชมความมันส์ ของศึกพรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ ก็สามารถดูรายละเอียด และวิธีการสมัคร ในรูปแบบต่างๆ ได้จากที่นี่เลยครับ ครบถ้วนแน่นอน >> https://sport.trueid.net/detail/P6PX9WWBD5q6

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

-------------------------------------------------

ดูสด ดูฟรี ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ... พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม
ต้อง App TrueID เท่านั้น โหลดเลย!!

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ << คลิกที่นี่

อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! หรือ กด *301*32# โทรออก

หรือ อัพเดทข่าวบอลไทยลีก กด *301*36# โทรออก

ยอดนิยมในตอนนี้

ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
สัมผัสโลกไร้ขีดจำกัดกับทรูไอดี