
ไร้คลาส! อิชิอิ จวกยับจังหวะแข้งอิรักจงใจเตะ ชนาธิป สุดเลวร้าย

มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือทีมชาติไทย ชี้จังหวะผู้เล่นอิรักตั้งใจเตะขา ชนาธิป สรงกระสินธ์ เป็นพฤติกรรมสุดเลวร้าย และไร้คลาสไม่สมกับเป็นผู้เล่นมืออาชีพ พร้อมกับยอมรับผิดหวังที่ทีมชาติไทยได้เพียงรองแชมป์คิงส์คัพ แต่ยืนยันแข้งช้างศึกทุกคนทำเต็มที่แล้ว
มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอน ฟุตบอลชายทีมชาติไทย ให้สัมภาษณ์หลังการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 51 รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเกมดังกล่าว ทีมชาติไทย พ่าย อิรัก 0-1 จากประตูของ โมฮานัด อาลี ในนาทีที่ 75
ขณะเดียวกันในช่วงทดเวลาของเกมนี้มีจังหวะเดือด เมื่อ โมฮานัด อาลี โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม เมื่อไปเตะใส่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ อย่างน่าเกลียด ตามมาด้วยเหตุชุลมุนวุ่นวายระหว่างผู้เล่นทั้งสองทีม ยังดีที่เหตุการณ์ไม่บานปลาย ซึ่ง อิชิอิ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงจังหวะเดือดนี้ว่า
"ผมก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่าฟุตบอลระดับนี้จะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก จังหวะสกัดลูกนี้มันเลวร้าย และไร้คลาสมาก และรุนแรงเกินไป และนักฟุตบอลอาชีพก็ไม่สมควรจะทำแบบนี้"
ส่วนเรื่องเกี่ยวกับผลงานในสนามของทีมชาติไทย ซึ่งพลาดเป้าทำได้แค่ตำแหน่งรองแชมป์ อิชิอิ กล่าวว่า "ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณแฟนบอลทุกท่านที่เดินทางมาชมมาเชียร์พวกเราในทั้งสองเกมที่ผ่านมา ครึ่งแรกเราก็เล่นเกมรับเยอะเกินไป ส่วนครึ่งหลังเราทำได้ดีขึ้นจากการแก้ไขในช่วงพักครึ่ง ผมมองว่าเราทำผลงานในครึ่งหลังได้ดีกว่าครึ่งแรก"
"จากการที่ครั้งนี้เรามีเวลาซ้อมทั้งหมด 1 สัปดาห์ ถ้าเราได้เก็บตัวอย่างต่อเนื่อง ก็คิดว่ามีโอกาสที่นักเตะไทยไปต่อในฟุตบอลโลก ในรอบคัดเลือกครั้งต่อไป ถ้ามองถึงผลการแข่งขัน อาจจะไมได้ผลลัพธ์ตามที่เราคาดหวังเอาไว้ แต่รายละเอียดของเกมนักเตะทุกคนทำงานหนัก เพื่อเอาชนะในเกมนี้ สิ่งที่ทุกคนเห็นในวันนี้ ทั้งที่สนาม และหน้าจอทีวี น่าจะเห็น ความมุ่งมั่นตั้งใจของนักเตะทุกคนในวันนี้"
"ไม่ใช่ว่าสตาฟหรือนักฟุตบอลเพียงแค่กลุ่มเดียวที่มีความมุ่งมั่นที่จะได้เห็นทีมไปได้ไกลในฟุตบอลโลก แต่รวมถึงสื่อมวลชนและแฟนบอล ถ้าเราร่วมด้วยช่วยกัน ผมคิดว่าเราสามารถไปถึงจุดนั้นได้ ก็อยากจะขอความร่วมมือตรงนี้ครับ หลายครั้งที่ผ่านมา ผมอาจจะไม่ได้สื่อสารอะไรมากมายต่อหน้าสื่อ ก็จะพยายามสื่อสารตรงนี้ให้มากที่สุด ขอบคุณทางกาญจนบุรี โดยเฉพาะผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ทำให้ทัวร์นาเมนต์นี้เกิดขึ้น"
"(การแก้ไขปัญหาเกมรับลูกกลางอากาศ และ การจบสกอร์?) แน่นอนว่าเวลาเราเจอกับทัวร์นาเมนต์นานาชาติ และต้องเจอกับทีมที่อันดับฟีฟ่า แรงกิ้ง ดีกว่า ครึ่งแรก ผมคิดว่าเราป้องกันลูกกลางอากาศได้ดีอยู่ ส่วนครึ่งหลัง เวลาเราเจอทีมที่เหนือกว่าเรา ช่วงเสี้ยววินาที ที่เราผิดพลาดเราก็สามารถเสียประตูได้เลย ส่วนเกมรุก เมื่อวานทางสื่อก็ได้สอบถามว่าทีมชาติจำเป็นต้องมีโค้ชกองหน้าหรือไม่ ผมก็ตอบไปแล้วว่า ช่วงทีมชาติเรามีเวลารวมตัวกันน้อย สิ่งที่จะเป็นประโยชน์ก็คือเวลาที่นักเตะเล่นในนามสโมสร ถ้าต้องการปรับปรุงที่สโมสรจะมีประโยชน์มากกว่า เพราะทีมชาติจะมีเวลารวมกันแค่ 7-9 วันเท่านั้น"
"เราเองก็พยายามฝึกซ้อมเรื่องการจบสกอร์ด้วยเช่นกัน และผมมองว่าพอเป็นนักฟุตบอลอาชีพแล้ว เราจะมาซ้อมเรื่องการจบสกอร์ ในเรื่องเบื้องต้นอีก เพราะเราต้องซ้อมกันมาตั้งแต่เด็กๆ ในอคาเดมี ที่ต้องต่อเนื่องถึงจะส่งผลอนาคต โค้ชที่คอยดูแลก็มีส่วน ต้องสามารถสอนนักเตะได้ด้วย เรื่องนี้เป็นปัญหามาตั้งแต่บอลสโมสรหรือบอลเด็ก และมาถึงทีมชาติ"
"(ปัญหาที่คิดว่าต้องแก้เป็นการเร่งด่วน?) ตัวผมเองเรื่องการซ้อมหรือการจับคู่ในการดึงศักยภาพที่ดีที่สุดของนักเตะทุกคนออกมาให้ได้มากที่สุด ก็ต้องได้รับความร่วมมือจากปัจจัยอื่นๆ ตัวผมเหมือนเป็นแค่เสียงเล็กๆ เสียงหนึ่งเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายปัจจัย ยกตัวอย่างในไทยลีก ตอนนี้ ที่เปิดโควตาต่างชาติจำนวนเยอะมาก และทำให้นักเตะไทยในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า และ เซ็นเตอร์แบ็ค ก็จะไม่ค่อยมีประสบการณ์ในการลงสนามมากเท่าที่ควร"
"ผมรู้สึกถึงความกดดันทุกเกม ไม่ใช่แค่เกมต่อไป เพราะตั้งแต่มาคุมทีมชาติ เวลากับทีมชาติค่อนข้างน้อย ก็มีความกดดันในทุกเกม"
โปรแกรมนัดต่อไป ของ ทีมชาติไทย คือการทำศึกเอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก นัดที่ 3 และนัดที่ 4 ในช่วงฟีฟ่า เดย์ เดือนตุลาคม พบกับ ไชนีส ไทเป แบบไป-กลับ ในวันที่ 9 และ 14 ตุลาคม 2568 โดยจะมีการแจ้งรายละเอียดให้ทราบอีกครั้งในภายหลัง