⚽ ถ้าจะให้แฟนๆฟุตบอลพูดชื่อโค้ชที่สร้างสีสันให้กับฟุตบอลสมัยใหม่และเป็นที่รักของแฟนบอลของแต่ละทีมที่ไปคุมมากที่สุดหนึ่งในชื่อที่แฟนบอลหลายคนคิดถึงคงหนีไม่พ้นชื่อของ The special one หรือโชเซ่ มูรินโญ่อย่างแน่นอนจากการคุมทีมและพาทีมต่างๆคว้าแชมป์เยอะแยะมากมายทั้งที่ปอร์โต้, เซลซี, อินเตอร์ มิลาน, เรอัล มาดริด, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, โรม่าหรือแม้กระทั่งที่สเปอร์สที่ถึงแม้มูรินโญ่จะไม่สามารถพาไก่เดือยทองคว้าแชมป์ใดๆได้แต่เขาก็พาสเปอร์สเข้าชิงถ้วยลีกคัพได้ก่อนที่จะถูกปลดก่อนนัดชิงเพียงไม่กี่วันเท่านั้นเอง.👨💼 หนึ่งสิ่งที่เป็นที่โด่งดังของมูรินโญ่นั่นก็คือเขารู้วิธีที่จะทำให้ทีมที่เขาคุมนั้นชนะการแข่งขันไม่ว่าจะเป็นชัยชนะที่สวยงามเลิศหรูหรือชัยชนะแบบไม่ค่อยสวยงามซักเท่าไหร่ซึ่งแน่นอนว่าในเมื่อการแข่งขันฟุตบอลไม่มีคะแนนให้กับการเล่นที่สวยงามทีมที่ชนะต้องทำประตูให้ได้มากกว่าเท่านั้นดังนั้นแล้วก็อาจจะไม่จำเป็นต้องเล่นฟุตบอลให้มันสวยงามไปซะทุกนัดก็ได้นี่และด้วยสไตล์การคุมทีมแบบนี้ของมูรินโญ่นั้นเขาก็พาทีมต่างๆประสบความสำเร็จได้มากมาย.👨💼 ตลอดการคุมทีมของมูรินโญ่ก็มีทั้งช่วงขาขึ้นและขาลงทั้งการคุมทีมที่ประสบความสำเร็จและล้มเหลวแต่มูรินโญ่ก็ได้ทิ้งมรดก/มนตร์เสน่ห์และสีสันให้กับโลกฟุตบอลไว้เป็นอย่างมากชนิดที่แฟนฟุตบอลทั่วโลกจะไม่มีวันลืมเลือน. บทความนี้จะพาผู้อ่านไปสำรวจผลงานการคุมทีมของโซเซ่ มูรินโญ่ที่เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จสูงสุด 5 อันดับด้วยกัน.อันดับที่ 1. Chelsea (2004-2007) 6 ถ้วยแชมป์🔵 แน่นอนว่าการคุมทีมเซลซีครั้งแรกของมูรินโญ่ในช่วงฤดูกาล 2004-2005/2005-2006/2006-2007 คือการคุมทีมของมูรินโญ่ที่แฟนฟุตบอลทั่วโลกไม่เคยลืมเลือนอย่างแน่นอนกับผลงานการพาทีมสิงโตน้ำเงินคราม เซลซีคว้าถ้วยแชมป์ไปได้กว่า 6 รายการภายในเวลา 3 ปีโดยเฉพาะผลงานการพาเซลซีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ 2 ฤดูกาลติดต่อกันในฤดูกาล 2004-2005 และ 2005-2006.🔵 มูรินโญ่คุมเซลซีในช่วง 3 ฤดูกาลไปทั้งหมด 184 เกมด้วยกันและพาทีมชนะไปถึง 124 เกมซึ่งหนึ่งในจุดเด่นของเซลซีในช่วงเวลานั้นคือผลงานของเกมรับที่แข็งแกร่งโดยที่ในฤดูกาลที่พวกเขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2004-2005 นั้นทัพสิงโตน้ำเงินครามเสียประตูไปเพียงแค่ 15 ประตูทั้งฤดูกาลพร้อมกับเก็บคลีนชีตได้ถึง 25 เกมซึ่งเป็นสถิติที่อยู่ยั้งยืนยาวมาจนปัจจุบันก็ยังไม่เคยมีทีมไหนทำลายสถิตินี้ลงได้.🔵 นอกจากผลงานการคุมทีมที่สุดยอดแล้วนั้นมรดกอีกอย่างหนึ่งที่มูรินโญ่ทิ้งไว้ให้กับเซลซีและพรีเมียร์ลีกนั้นก็คือลีลาการคุมทีมข้างสนามที่ค่อนข้างมีความเกี้ยวกราดและการสัมภาษณ์สื่อในแบบฉบับที่แทบไม่มีโค้ชในพรีเมียร์ลีกคนไหนก่อนหน้านั้นเคยทำมาก่อนโดยเฉพาะบทสัมภาษณ์อันโด่งดังกับประโยค “Please don’t call me arrogant, but I’m a European champion and I think I’m a special one.” ซึ่งสมญานาม the special one ก็เป็นชื่อที่เรียกขานตัวเขามาต่ออีกยาวนานนับ 20 ปีจวบจนปัจจุบัน.🔵 แม้ว่าสุดท้ายแล้วมูรินโญ่จะอยู่คุมเซลซีรอบแรกได้เพียงแค่ 3 ฤดูกาลแต่ทุกๆวินาทีของมูรินโญ่ที่เซลซีนั้นได้สร้างมนตร์เสน่ห์และสีสันให้กับโลกฟุตบอลเป็นอย่างมากชนิดที่ไม่ใช่แค่แฟนๆเซลซีแต่แฟนฟุตบอลทั่วโลกจะไม่มีวันลืมเลือนและจะอยู่ในความทรงจำของแฟนฟุตบอลทุกคนตลอดไป.อันดับที่ 2. Inter milan (2008-2010) 5 ถ้วยแชมป์🟢 หลังจากออกจากเซลซีแล้วนั้นในปี 2008 มูรินโญ่ก็ได้รับงานคุมทัพงูใหญ่ อินเตอร์ มิลานและเขาก็พาอินเตอร์ มิลานคว้าแชมป์ลีกอีตาลีอย่างเซเรีย อาและแชมป์อิตาเลียนซูเปอร์คัพได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เข้ามาคุมทีมแต่นั่นเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเพียงเท่านั้น. ในฤดูกาลต่อมาซึ่งก็คือฤดูกาล 2009-2010 มูรินโญ่ก็ได้สร้างหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาชีพโค้ชของเขานั่นก็คือการพาอินเตอร์ มิลานคว้าทริปเปิลแชมป์ทั้งแชมป์เซเรียอา อิตาลี, แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกในยุคที่บาร์เซโลนาและแมนฯยูไนเต็ดต่างกำลังมั่นใจและเป็นตัวเต็งในการคว้าถ้วยนี้และแชมป์บอลถ้วยอิตาลีอย่างโคปปา อิตาเลียซึ่งนับจนถึงปัจจุบันอินเตอร์ มิลานก็ยังไม่สามารถกลับไปยังความรุ่งโรจน์สูงสุดแบบในปีนั้นได้อีกเลย.🟢 มูรินโญ่อำลาอินเตอร์ มิลานหลังจากจบฤดูกาล 2009-2010 ซึ่งเชื่อว่าช่วงเวลาของมูรินโญ่ที่อินเตอร์จะเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่อยู่ในความทรงจำของแฟนๆอินเตอร์และแฟนฟุตบอลอย่างแน่นอน.อันดับที่ 3. Real Madrid (2010-2013) 3 ถ้วยแชมป์⚪ หลังจากออกจากอินเตอร์ มิลานในปี 2010 มูรินโญ่ก็ได้รับงานคุมทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริดซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่เป๊ป กวาร์ดิโอล่ากำลังคุมบาร์เซโลนาและสร้างบาร์เซโลนาให้เป็นหนึ่งในทีมที่แข็งแกร่งที่สุดที่โลกฟุตบอลเคยประสบพบเจอดังนั้นผลงานการพาทัพราชันชุดขาวคว้าแชมป์ลาลีกา สเปนมาจากบาร์เซโลนาได้ในฤดูกาล 2011-2012 ก็ถือเป็นผลงานมาสเตอร์พีซอีกชิ้นนึงของมูรินโญ่เลยทีเดียว.⚪ การที่มูรินโญ่พาเรอัล มาดริดคว้าแชมป์ลาลีกา สเปนได้แค่ในฤดูกาล 2011-2012 นั้นอาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่เห็นจะยิ่งใหญ่อะไรแต่การคว้าแชมป์ครั้งนั้นเรอัล มาดริดสามารถทำลายสถิติได้มากมายทั้งเป็นทีมที่ชนะเกมลีกได้มากที่สุดที่ 32 เกมจาก 38 เกม, คว้าแต้มไปได้ 100 แต้มและทำประตูไปกว่า 121 ประตูชนิดที่บาร์เซโลนาที่เป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดในโลกเวลานั้นยังทำไม่ได้.⚪ นอกจากแชมป์ลาลีกา สเปนแล้วมูรินโญ่ก็ยังคว้าแชมป์โกปา เดล เรย์กับสแปนิช ซูเปอร์คัพกับเรอัลมาดริดได้ก่อนจะอำลาทีมไป. สิ่งหนึ่งที่คิดว่าคงค้างคาอยู่ทั้งมูรินโญ่และแฟนๆเรอัล มาดริดก็คือการที่มูรินโญ่ไม่สามารถพาเรอัล มาดริดคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกได้เลยแม้แต่ปีเดียว.อันดับที่ 4. Porto (2002-2004) 6 ถ้วยแชมป์🔴 จุดเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ของมูรินโญ่ที่ทำให้โลกฟุตบอลได้รู้จักกับ the special one คงปฏิเสธไม่ได้ว่าคือช่วงการคุมทีมปอร์โต้นั่นเองโดยที่ในฤดูกาล 2003-2004 อยู่ดีๆมูรินโญ่ก็พาปอร์โต้ตะลุยฝ่าด่านทีมยักษ์ใหญ่ต่างๆอย่างเช่น แมนฯยูไนเต็ดและโมนาโกจนคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกได้ชนิดช็อคโลกเลยทีเดียวและเขายังพาปอร์โต้คว้าแชมป์ลีกสูงสุดโปรตุเกสได้ 2 ฤดูกาลติดต่อกันทำให้โดยรวมเขาคว้าแชมป์กับปอร์โต้ไปกว่า 6 แชมป์ด้วยกัน.🔴 มูรินโญ่คุมทีมปอร์โต้ไป 127 เกมและเก็บชัยชนะได้ถึง 91 เกมจนทำให้โลกได้รู้จักกับเขาและต่อมามูรินโญ่ก็ได้ย้ายไปคุมทีมเซลซีในปี 2004 ซึ่งช่วงเวลาที่เซลซีหลังจากปอร์โต้นี้เองที่ถือว่าเป็นช่วงการคุมทีมที่ดีที่สุดของมูรินโญ่เลยก็ว่าได้.อันดับที่ 5. Chelsea (2013-2015) 2 ถ้วยแชมป์🔵 มูรินโญ่กับเซลซีนั้นถือเป็นภาพจำที่มักจะมาคู่กันเสมอถึงแม้ว่าการกลับมาในครั้งที่ 2 ของ the special one จะไม่ค่อยจะ special ซักเท่าไหร่เพราะในฤดูกาลแรกที่เขากลับมาก็ไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์รายการใดได้เลยจนในฤดูกาลที่ 2 ที่ทางมูรินโญ่ได้ดึงกองหน้าจอมถล่มประตูที่เคยทำงานร่วมกันมาก่อนอย่างดิดิเยร์ ดร็อกบากลับสู่ถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์อีกครั้งและเป็นส่วนสำคัญในการพาเซลซีกลับมาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้อีกครั้งในฤดูกาล 2014-2015 บวกกับแชมป์คาราบาวคัพอีก 1 ถ้วย.🔵 แต่ในช่วงเดือนธันวาคมปี 2015 ระหว่างการป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2015-2016 มูรินโญ่ก็พาทีมทำผลงานได้ย่ำแย่มีคะแนนอยู่เหนือโซนตกชั้นเพียงแค่ไม่กี่คะแนนเท่านั้นทำให้เขาถูกปลดออกจากตำแหน่งในที่สุด.⚽ หนึ่งในโค้ชที่สร้างสีสันให้กับโลกฟุตบอลมากที่สุด👨💼 นอกจากการคุมทีมทั้ง 5 ช่วงเวลานี้แล้วนั้นมูรินโญ่ยังเคยได้คุมทีมชื่อดังอื่นๆอีกอย่างเช่น แมนฯยูไนเต็ด, สเปอร์สและโรม่าและถึงแม้ว่าช่วงเวลาเหล่านั้นนอาจจะไม่ดีเท่า 5 ช่วงเวลาที่ได้ยกมาในบทความนี้แต่มูรินโญ่ก็ยังสร้างมนตร์เสน่ห์และสีสันให้กับโลกฟุตบอลเรื่อยมาและเชื่อเหลือเกินว่าแฟนฟุตบอลทั่วโลกต่างก็หลงรักและคิดถึงการคุมทีมของมูรินโญ่เป็นอย่างมากและยังอยากเห็นเขากลับมาคุมทีมและสร้างมนตร์เสน่ห์และสีสันให้กับโลกฟุตบอลอีกครั้งในเร็ววัน. เครดิตภาพรูปปก: รูปประกอบที่ 1 จาก Chelsea Official X, รูปประกอบที่ 2 จาก Chelsea Official X, รูปประกอบที่ 3 จาก Tottenham Hotspur Official X, รูปประกอบที่ 4 จาก Jose Mourinho Official Instagram, รูปประกอบที่ 5 จาก Real Madrid C.F. Official X, รูปประกอบที่ 6 จาก Inter Official X, รูปประกอบที่ 7 จาก FC Porto Official X.ภาพประกอบ: ภาพประกอบที่ 1 จาก Chelsea Official X, ภาพประกอบที่ 2 จาก Chelsea Official X, ภาพประกอบที่ 3 จาก Real Madrid C.F. Official X, ภาพประกอบที่ 4 จาก Inter Official X, ภาพประกอบที่ 5 จาก FC Porto Official X, ภาพประกอบที่ 6 จาก Chelsea Official X. ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !