ขณะที่ผมพิมพ์บทความนี้อยู่ในที่สุดศึกคาราบาว คัพประจำฤดูกาล 2023/2024 ก็ได้ทีมที่เข้าไปรอในรอบชิงชนะเลิศเป็นทีมแรกแล้ว ทีมนั้นก็คือ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซีที่สามารถกลับมาเอาชนะ "เดอะโบโร่" มิดเดิลสโบรห์ได้ในเกมเลกที่ 2 ของรอบรองชนะเลิศ โดยรวมผลสองนัด เชลซีถล่มมิดเดิลสโบรห์ไป 6-2 ตีตั๋วไปรอที่เวมบลีย์เป็นทีมแรก ไปรอผู้ชนะระหว่างลิเวอร์พูลและฟูแลมที่จะเตะกันในคืนนี้ (เช้ามืดวันที่ 25 มกราคม 2024) ซึ่งผลในเกมแรกก็เป็นฝ่ายหงส์แดงเฉือนเอาชนะเจ้าสัวน้อยไป 2-1 ที่แอนฟิลด์สำหรับบทความนี้ผมจะพาไปดูครับว่าเส้นทางการเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของเชลซีนั้นเป็นยังไง ยากหรือง่ายอย่างไร เส้นทางของเชลซีจะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลยครับรอบที่ 2 (VS เอเอฟซี วิมเบิลดัน ชนะ 1-0)11 ตัวจริง: โรเบิร์ต ซานเชส, บาเชอร์ ฮัมฟรีย์ส, อักเซล ดิซาซี, ลีวาย โควิลล์, มาร์ค คูคูเรญา, เลสลีย์ อูโกชุกวู, โคนอร์ กัลลาเกอร์, โนนี มาดูเอเก, เอียน มัตเซน, ดิเอโก โมเรรา และเมสัน เบิร์สโตว์ผู้ทำประตู: มาดูเอเกและเอ็นโซ เฟอร์นันเดซ (สำรอง)รอบที่ 3 (VS ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน ชนะ 1-0)11 ตัวจริง: โรเบิร์ต ซานเชส, มาร์ค คูคูเรญา, อักเซล ดิซาซี, ลีวาย โควิลล์, เบน ชิลเวลล์, มอยเซส ไคเซโด, เลสลีย์ อูโกชุกวู, เอียน มัตเซน, โคล พาลเมอร์, มิไคโล มูดริกและนิโคลัส แจ๊คสันผู้ทำประตู: นิโคลัส แจ๊คสันรอบที่ 4 (VS แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ชนะ 2-0)11 ตัวจริง: โรเบิร์ต ซานเชส, รีซ เจมส์, อักเซล ดิซาซี, เบอนัวต์ บาเดียชิล, มาร์ค คูคูเรญา, เอ็นโซ เฟอร์นันเดซ, เลสลีย์ อูโกชุกวู, โคล พาลเมอร์, คอนอร์ กัลลาเกอร์, ราฮีม สเตอร์ลิงและนิโคลัส แจ๊คสันผู้ทำประตู: บาเดียชิลและสเตอร์ลิงรอบก่อนรองชนะเลิศ (VS นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ชนะการดวลจุดโทษ 5-3)11 ตัวจริง: จอร์เจ เปโตรวิช, อักเซล ดิซาซี, ธิอาโก ซิลวา, เบอนัวต์ บาเดียชิล, ลีวาย โคลวิลล์, คอนอร์ กัลลาเกอร์, มอยเซส ไคเซโด, โคล พาลเมอร์, เอ็นโซ เฟอร์นันเดซ, ราฮีม สเตอร์ลิงและนิโคลัส แจ๊คสันผู้ทำประตู: มิไคโล มูดริก (สำรอง) [คนยิงจุดโทษ: พาลเมอร์, กัลลาเกอร์, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู (สำรอง) และมูดริก]รอบรองชนะเลิศ (VS มิดเดิลสโบรห์ ผลรวม 2 เกม ชนะ 6-2)เลกแรก: แพ้ 1-011 ตัวจริง: จอร์เจ เปโตรวิช, มาโล กุสโต, อักเซล ดิซาซี, ธิอาโก ซิลวา, ลีวาย โคลวิลล์, มอยเซส ไคเซโด, เอ็นโซ เฟอร์นันเดซ, โนนี มาดูเอเก, คอนอร์ กัลลาเกอร์, ราฮีม สเตอร์ลิงและโคล พาลเมอร์เลกสอง: ชนะ 6-111 ตัวจริง: จอร์เจ เปโตรวิช, อักเซล ดิซาซี, ธิอาโก ซิลวา, ลีวาย โคลวิลล์, เบน ชิลเวลล์, มอยเซส ไคเซโด, เอ็นโซ เฟอร์นันเดซ, ราฮีม สเตอร์ลิง, โคล พาลเมอร์, มิไคโล มูดริกและอามันโด โบรยาผู้ทำประตู: โจนาธาน ฮาวสัน (ทำเข้าประตูตัวเอง), เอ็นโซ, ดิซาซี, พาลเมอร์ (2 ประตู) และมาดูเอเกรวมผลสองนัด: ชนะ 6-2สถิติที่น่าสนใจของเชลซีกับถ้วยคาราบาว คัพเชลซีสามารถผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศของรายการคาราบาว คัพ (EFL คัพ/ลีก คัพ) ได้เป็นครั้งที่ 10 แล้วในประวัติศาสตร์ของรายการนี้ (เท่ากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) มีเพียงลิเวอร์พูลที่สามารถเข้าชิงรายการนี้ได้มากกว่าพวกเขาที่ 13 ครั้งเชลซีกลายเป็นทีมที่ 2 ที่สามารถยิงได้มากกว่า 6 ประตูในเกมรอบรองฯ ลีกคัพ เลกที่ 2 ต่อจากแอสตัน วิลลาที่เคยทำได้ในเกมที่เจอแบล็คเบิร์นในฤดูกาล 2009/2010บรรดาทีมที่ได้ชื่อว่าเป็น "Big 6" ของพรีเมียร์ลีก เชลซีคือทีมที่สามารถเข้าชิงฟุตบอลรายการในประเทศ (เอฟเอ คัพและลีก คัพ) ได้มากที่สุดที่ 18 ครั้ง (นับตั้งแต่ปี 2000)ในศษวรรษที่ 21 นี้ (ตั้งแต่ปี 2001) เชลซีสามารถผ่านเข้าชิงในลีก คัพได้ถึง 7 ครั้ง โดย 6 ครั้งที่ผ่านมา พวกเขาสามารถคว้าแชมป์ไปได้ 3 ครั้งขอบคุณข้อมูและภาพประกอบจากOfficial X ของ OptaJoe, Squawka และ Statman DaveOfficial Facebook ของเชลซีภาพปก 1, ภาพปก 2, ภาพปก 3, ภาพประกอบ 1, ภาพประกอบ 2, ภาพประกอบ 3, ภาพประกอบ 4 และภาพประกอบ 5 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !