หลังจากที่ตอนนี้ Liverpool หมดลุ้นทุกแชมป์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่บุกไปพ่ายแพ้ Real Madrid ในเกมยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก นัดที่สอง ทำให้ฤดูกาลนี้ลิเวอร์พูลเหลือโอกาสแค่จบ Top 4 ในพรีเมียร์ลีกให้ได้สถานเดียวเท่านั้นซึ่งสถานการณ์ในตอนนี้บนตารางพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูลมีอยู่ 42 คะแนน อยู่อันดับที่ 6 แข่งไปทั้งหมด 26 นัด แต้มห่างจากอันดับที่ 4 ที่ได้ไปลุ้นเพลย์ออฟยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีกอยู่ 6 คะแนน โดยการแข่งขันที่เหลืออยู่ 12 นัดของลิเวอร์พูลนั้นมีดังต่อไปนี้เกมเหย้าพบ ฟูแล่ม(เลื่อนเตะเนื่องจากฟูแล่มติดเล่นบอลถ้วย FA Cup)เกมเยือนพบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้เกมเหย้าพบ อาร์เซนอลเกมเยือนพบ ลีดส์ ยูไนเต็ดเกมเหย้าพบ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์เกมเยือนพบ เวสต์แฮม ยูไนเต็ดเกมเหย้าพบ สเปอร์สเกมเหย้าพบ เบรนท์ฟอร์ดเกมเยือนพบ เลสเตอร์ ซิตี้เกมเหย้าพบ แอสตัน วิลล่าเกมเยือนพบ เซาธ์แฮมป์ตันพอมาดูเกมที่เหลือของลิเวอร์พูลที่ลิสต์มานั้นก็ต้องบอกตามตรงว่า เป็นงานหินที่ลิเวอร์พูลต้องหาทางเก็บแต้มให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเกมยากๆที่มีนั้นก็จะเป็นเกมที่ต้องไปเจอกับทีมหัวตารางและทีมหนีตกชั้น ส่วนเกมที่น่าจะเก็บแต้มได้แน่ๆ 3 แต้มนั้น น่าจะมีเกมที่ออกไปเยือนลีดส์ ยูไนเต็ด และเกมที่เล่นในบ้านเกือบทั้งหมด ยกเว้นนัดที่ต้องเจอกับอาร์เซนอล ที่มีโอกาส 50/50 ซึ่งโอกาสที่ลิเวอร์พูลจะสามารถทำแต้มไต่อันดับไปถึงอันดับ 4 ได้นั้น ก็ต้องภาวนาให้สเปอร์สที่อยู่อันดับ 4 ในตอนนี้ นิวคาสเซิลที่อยู่อันดับที่ 5 และไบรตันที่มีแต้มเท่ากันนั้น พาเหรดสะดุดแพ้ให้เยอะที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เมื่อมามองดูสถานการณ์ภายในทีมตอนนี้ ลิเวอร์พูลได้ข่าวดีตรงที่ หลุยส์ ดิอาซกลับมาซ้อมได้แล้วหลังจากพักรักษาอาการบาดเจ็บไปเกือบ 5 เดือนเต็มๆ ส่วนก่อนหน้านี้ก็จะมีติอาโก้ ที่ยังไม่ทราบว่าจะกลับมาช่วยทีมทันก่อนปิดฤดูกาลมั้ย สเตฟาน บายเซติค และ คาลวิน แรมซีย์ก็บาดเจ็บและกลับมาช่วยทีมไม่ทัน ทางจอร์แดน เฮนเดอร์สันก็จะกลับมามีชื่อติดในทีมอีกครั้งหลังจากไม่มีชื่อติดทีมชุดเตะยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีกเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา จากสถานการณ์ตัวหลักที่บางคนฟอร์มตกอย่างน่าใจหาย เจอร์เกน คล็อปป์ก็สามารถแก้ไขวิกฤตนั้นให้เป็นโอกาสได้เช่นการดัน สเตฟา บายเซติค จากชุดยู 18 ขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ แถมเล่นทดแทนกองกลางที่ฟอร์มตกหรือบาดเจ็บได้ในบางนัด อนาคตของเจ้าหนูวัย 18 ปีในฤดูกาลหน้าดูสดใสอย่างมาก ตัดสลับมาทางฝั่งแนวรุกที่ตอนนี้ดาร์วิน นูเญซที่น่าจะเป็นขุมกำลังให้ในฤดูกาลนี้ แต่กลับกลายเป็นว่าเขานั้นยังคงต้องพิสูจน์ฝีเท้าและฝีมือต่อในฤดูกาลหน้า ภายใต้สามแนวรุก นูเญซ ซาลาห์ และกัคโป แม้ฤดูกาลนี้เขาจะสามารถยิงในลีกไปได้ 8 ประตูกับอีก 3 แอสซิสต์ แต่เมื่อมามองค่าตัวของเขาที่ลิเวอร์พูลจ่ายเพื่อดึงตัวมาร่วมทีมนั้น ก็ยังห่างไกลกับคำว่าคุ้มค่าคุ้มราคาไปมากพอสมควร ซึ่งก็ต้องมารอดูกันต่อไปว่า หากฤดูกาลหน้า ลิเวอร์พูลภายใต้การคุมทีมของคล็อปป์(ถ้ายังได้คุมทีมอยู่) สามารถเสริมนักเตะที่ขาดหายไปในหลายๆตำแหน่งของฤดูกาลนี้ได้จริงๆ ฤดูกาลหน้า ก็จะเป็นอีกหนึ่งทีมที่จะกลับมาต่อสู้แย่งแชมป์ได้สมศักดิ์ศรีอย่างแน่นอนหาก หลุยส์ ดิอาซกลับมาช่วยทีมได้ จอร์แดน เฮนเดอร์สันกลับมาช่วยทีมได้อีกคนหนึ่ง น่าจะช่วยให้ทีมมีสมดุลในแบบที่คล็อปป์ต้องการอย่างแน่นอนขอขอบคุณภาพประกอบบทความภาพที่ 1 จาก Twitter Real Madrid C.F.ภาพที่ 2 จาก Twitter Liverpool FCภาพที่ 3 จาก Twitter Liverpool FCภาพที่ 4 จาก Twitter Liverpool FCภาพปกประกอบบทความ จาก Twitter Liverpool FCCommunity ฟุตบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์