สำหรับ "พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2023/2024" นั้นมีเรื่องให้ถูกพูดถึงอย่ามากมาย ตั้งแต่ทีมน้องใหม่ที่เลื่อนชั้นขึ้นมาเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์อย่างลูตัน ทาวน์, สงครามการซื้อขายระหว่างเชลซีและลิเวอร์พูล, การจากลาดาวซัลโซสูงสุดตลอดกาลของสเปอร์สอย่างแฮร์รี เคนที่ย้ายไปร่วมทัพบาเยิร์น มิวนิค รวมไปถึงการที่หลายๆ ทีมเสียนักเตะไปให้กับทีมในลีกซาอุฯ แต่อีกสิ่งนึงที่จะถูกพูดถึงและน่าจับตามองอย่างแน่นอน นั่นก็คือเหล่า "ดาวรุ่ง" ที่พร้อมจะเฉิดฉายในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่นี้ หลายคนก็มีชื่อเสียงพอสมควรแล้ว อีกหลายคนก็พร้อมจะสร้างชื่อในฤดูกาลใหม่นี้ บทความนี้ผมจะพาไปดู 5 ดาวรุ่ง (อายุต่ำกว่า 23 ปี) ที่น่าจับตามองสำหรับศึกพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ จะมีใครบ้าง ไปดูกันเลยครับลาสมุส ฮอยลุนด์ (อายุ 20 ปี, แมนเชสตอร์ ยูไนเต็ด)ประเดิมด้วยกองหน้าดาวรุ่งทีมชาติเดนมาร์กวัย 20 ปีที่ได้ย้ายมาเป็นสมาชิกใหม่ของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในตลาดซัมเมอร์นี้ เพียงแต่ยังไม่สามารถลงเล่นได้เนื่องจากอาการบาดเจ็บและกำลังอยู่ในกระบวนเรียกความฟิตโดยสำหรับผลงานของฮอยลุนด์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว เขาเริ่มต้นฤดูกาลด้วยการเล่นอยู่ในลีกออสเตรีย ซึ่งเขามีส่วนร่วมกับการทำประตูไป 5 ครั้งจากการลงเล่น 5 นัด (ยิง 3 แอสซิสต์ 2) ก่อนที่จะย้ายมายังอตาลันตา และเขาก็สร้างชื่อตั้งแต่นัดแรกที่ลงเล่นในอิตาลี เพราะเขาสามารถยิงประตูได้เลยตั้งแต่นัดเดบิวต์ สุดท้ายจบฤดูกาลแรกในซีเรีย อาด้วยการลงสนาม 32 นัด (ตัวจริง 20 นัด) ยิงไป 9 ประตู ทำให้เขาเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดอันดับ 2 ที่สามารถยิงได้อย่างน้อย 9 ลูกใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรป เป็นรองเพียงจามาล มูเซียลา (มูเซียลาหนุ่มกว่าฮอยลุนด์เพียง 22 วัน)ด้วยนิสัยการเล่นที่ชอบอยู่ในกรอบเขตโทษคู่แข่ง ทำให้ฮอยลุนด์นั้นเป็นอันดับที่ 3 ของนักเตะที่สัมผัสบอลมากที่สุดในเขตโทษคู่แข่งเกม เขามีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 6.9 ครั้งต่อเกม โดยวัดจากผู้เล่นที่ลงเล่นอย่างน้อย 1,000 นาที อีกข้อมูลที่สามารถยืนยันการชอบอยู่ในกรอบเขตโทษก็คือ จากจังหวะการยิงทั้งหมด 54 ครั้ง มีแค่ 4 ครั้งเท่านั้นที่เขายิงนอกกรอบเขตโทษ และสามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้หนึ่งลูกการโจมตีกลางอากาศของเขาก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน 13 ครั้งจากจังหวะการทำประตู มี 13 จังหวะที่มาจากการโหม่ง (7 ครั้งมาจากลูกเซ็ตพีซ) แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถเปลี่ยนประตูได้เลยลีวาย โควิลล์ (20 ปี, เชลซี)ฤดูกาลที่แล้วโควิลล์ถูกเชลซีปล่อยตัวไปให้ไบรท์ตันฯ นั้นยืมตัวไปใช้งาน เจ้าตัวนั้นลงสนามให้กับไบรท์ตันไป 22 นัดรวมทุกรายการ ทำได้ 2 แอสซิสต์ เจ้าตัวทำผลงานได้ดีจนโรแบร์โต เดอ แซร์บีนั้นอยากให้ไบรท์ตันคว้าตัวมาร่วมทีมแบบถาวรถึงขั้นจะยอมซื้อมาด้วยค่าตัวระดับสถิติสโมสร แต่เชลซีนั้นไม่ยอมและดึงตัวกลับมาพร้อมเซ็นสัญญาระยะยาว รวมไปถึงมอบ "หมายเลข 26" ให้กับโควิลล์ซึ่งเป็นเบอร์ของตำนานปราการหลังกัปตันทีมอย่างจอห์น เทอร์รีในช่วงปิดฤดูกาล โควิลล์นั้นก็มีส่วนช่วยและเป็นกำลังสำคัญในการพาทีมชาติอังกฤษ ชุด U-21 ไปคว้าแชมป์ยูโร U-21 มาครองได้แบบสุดยอดโควิลล์ในวัย 20 ขวบนั้นเป็นกองหลังสมัยใหม่ แถมมีรูปร่างที่เพอร์เฟคสำหรับการเล่นเป็นกองหลังอีกด้วย เขามีทั้งความสูง มีทั้งความดุดันในการเข้าสกัดบอลและเป็นกองหลังเท้าซ้ายที่ครองบอลได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย และด้วยระบบการเล่นครองไบรท์ตันที่เน้นการครองบอลซึ่งก็มีเพียงแมนซิตี้และลิเวอร์พูลเท่านั้นที่มีค่าเฉลี่ยในการครองบอลมากกว่า อย่างที่บอกไปว่าโควิลล์นั้นคือคนสำคัญของเดอ แซร์บี ไม่แปลกที่เขาจะลงเล่นอย่างต่อเนื่องจนมีสถิตออกมาว่าเขาสัมผัสบอลเฉลี่ย 94.7 ครั้งและผ่านบอล 87.4 ครั้งต่อ 90 นาที เขาได้รับมอบหมายจากผู้จัดการทีมให้เป็นคนที่ลำเลียงบอลขึ้นไปข้างหน้า รวมไปถึงการผ่านบอลทั้งระยะไกลและจ่ายแบบกล้าได้กล้าเสียฤดูกาลที่แล้วเขามีค่าเฉลี่ยในการจ่ายบอลสำเร็จต่อเกมอยู่ที่ 4.8 ครั้งต่อเกม มากกว่าโจ โกมซของลิเวอร์พูลเสียอีก (4.1) และถ้าหากเขาไม่จ่ายบอลเขาก็เลือกที่จะพาบอลขึ้นหน้าไปเอง เพื่อให้ได้ทั้งพื้นที่การบุกและดึงตัวผู้เล่นของคู่แข่งมาทำให้มีช่องในการบุกมากขึ้น เขาพาบอลขึ้นหน้าอย่างน้อย 5 เมตรต่อ 90 นาทีอยู่ที่ 13.9 ครั้ง มากที่สุดในบรรดาผู้เล่นไบรท์ตัน และเป็นรองเพียงรูเบน ดิอาสและโจเอล มาติป (วัดจากผู้เล่นที่ลงเ่นอย่างน้อย 1,000 นาที)อีวาน เฟอร์กูสัน (18 ปี, ไบรท์ตันฯ)ฤดูกาลที่แล้วเป็นเหมือนฤดูกาลที่โรแบร์โต เดอ แซร์บีพา "อีวาน เฟอร์กูสัน" ไปที่อำเภอเลยทีเดียว เพราะต้องพาไปแจ้งเกิด ผ่าม!! เฟอร์กูสันทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจจริงๆ ทั้งๆ ที่เขาเพิ่งอายุ "17 ขวบ" เท่านั้น เจ้าหนูเฟอร์กูสันนั้นสร้างชื่อได้ตั้งแต่นัดแรกที่ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ เพราะเขาทั้งยิงและแอสซิสต์ในเกมลีก คัพที่ไบรท์ตันชนะฟอร์เรสต์ กรีน โดยในเกมวันนั้นเขายังเป็นลูกน้องของเกรแฮม พอตเตอร์อยู่เลย ก่อนที่พอตเตอร์จะย้ายไปคุมเชลซีและหลังจากนั้นเขาก็ทำผลงานได้น่าประทับใจมาตลอดนับตั้งแต่เดือนธันวาคมเขาลงเล่นไป 24 เกม (ตัวจริง 14 เกม) ภายใต้การคุมทีมของโรแบร์โต เดอ แซร์บี เขากลับมาลงสนามในเดือนมกราคม ซึ่งในเกมคัมแบคนั้นเขาลงสนามในเกมที่ไบรท์ตันเจอกับเอฟเวอร์ตัน เขาลงสนามเป็นตัวจริงและเป็นอีกครั้งที่จบเกมด้วยมีทั้งการยิงและแอสซิสต์ ซึ่งเกมก่อนหน้านั้นเขาก็เพิ่งยิงใส่อาร์เซนอลมา (ลงมาเป็นตัวสำรอง) ที่ ณ เวลานั้นคือจ่าฝูงผลงานของเฟอร์กูสันตลอดการลงเล่น 25 เกมในฤดูกาล 2022/2023 เขายิงไป 10 ประตู เขามีค่าเฉลี่ยในการยิงประตูทุกๆ 135 นาที ซึ่งทุกประตูของเขาไม่มีประตูที่มาจากการยิงจุดโทษเลยแม้แต่ลูกเดียว 15 เกมที่เขาออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้นกนางนวล เขาทำประตูไปได้ 8 ลูกกับอีก 3 แอสซิสต์ โดย 6 ประตูที่เขาทำได้ในพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ทำให้เขาคือนักเตะอายุต่ำกว่า 18 ปีที่ไม่ใช่นักเตะอังกฤษที่ยิงประตูได้มากที่สุดสถิตการยิงประตูในลีก ทำให้เขามีสถิติค่า xG ที่ไม่ได้มาจากจุดโทษต่อ 90 นาทีอยู่ที่ 0.51 อยู่ในระดับเดียวโม ซาลาห์ แถมยังมากกว่ามาร์คัส แรชฟอร์ดเสียอีก และล่าสุดในนัดแรกของฤดูกาลใหม่นี้เขาก็ยิงประตูได้เลยโคล พาล์มเมอร์ (21 ปี, แมนเชสตอร์ ซิตี้)นี่คือหนึ่งในดาวรุ่งที่เป๊ป กวาร์ดิโอลาเอ่ยปากชมและถูกคาดหวังว่าจะเป็น Next Gen ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้เช่นเดียวกับฟิล โฟเดน เพราะอะไรน่ะหรอ? ก็เพราะว่าเป๊ปไม่ยอมปล่อยตัวตัวเจ้าหนูพาล์มเมอร์ออกจากทีมแม้ว่าจะมีข้อเสนอจากทั้งในอังกฤษและบุนเดสลีกาในการขอซื้อตัวก็ตาม แม้กระทั่งการยืมตัวก็ไม่ปล่อยตัวพาล์มเมอร์นั้นเป็นนักเตะสารพัดประโยชน์เลยก็ว่า เพราะเขาเล่นได้หมดทั้งกองหน้าและกองกลาง แถมเล่นได้หลากหลายบทบาทอีกด้วย เขาลงสนามเกมแรกในพรีเมียร์ลีกในตำแหน่งกองหน้า False 9 ในเกมที่พบกับเอฟเวอร์ตัน ฤดูกาล 2021/2022ตอนที่เขาเล่นในทีมอคาเดมี เขามักจะถูกจับเล่นให้ตำแหน่งปีกและกองกลางฝั่งขวาในแผน 4-3-3 เขายิงไป 16 ประตูแถมอีก 8 แอสซิสต์ในการลงเล่น 16 นัดของพรีเมียร์ลีก 2 หลังจากนั้นเขาก็มีชื่อติดทีมชุดใหญ่ของทัพเรือใบมาตลอด เขามีคุณสมบัติในการเล่นริมเส้นเหลือเกิน เพราะเขาสามารถเลี้ยงแล้วตัดเข้าในได้ ยิงประตูจากระยะไกลได้ แต่เขาก็จะมีข้อเสียในเรื่องของการเล่นได้เพียงเท้าเดียวถึงแม้ว่าจะถูกจับลงเล่นในตำแหน่งที่ไม่ถนัด แต่เขาก็มีค่าเฉลี่ยการเลี้ยงบอลสำเร็จต่อเกมอยู่ที่ 2.4 ครั้งในฤดูกาลที่แล้ว เป็นอันดับ 1 ของนักเตะแมนซิตี้ เหนือกว่าแจ๊ค กรีลิชหรือฟิล โฟเดนเสียอีก และหลังจากจบฤดูกาลที่สามารถคว้า 3 แชมป์กับแมนซิตี้ได้แล้ว เขายังพาทีมชาติอังกฤษ U-21 ไปคว้าแชมป์ยูโร U-21 ได้อีก แถมผลงาน 1 ประตูและ 3 แอสซิสต์ในเกมรอบรองชนะเลิศที่พบกับอิสลาเอลและเกมรอบชิงกับสเปน และอย่างที่บอกไปว่าเขาเป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ ทำให้ในเกมนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม เขาถูกโค้ชจับมาเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวต่ำร่วมกับโอลิเวอร์ สคิปป์และถึงแม้ในเกมคอมมูนิตี ชิลด์ที่พบกับอาร์เซนอล แมนซิตี้จะแพ้การดวลจุดโทษ แต่ก็เพราะพาล์มเมอร์นี่แหละที่เป็นคนยิงประตูให้เรือใบขึ้นนำไปได้ก่อน หลังจากถูกเปลี่ยนตัวลงมาได้ไม่นานอเลฮานโดร การ์นาโช (19 ปี, แมนเชสตอร์ ยูไนเต็ด)มาถึงคนสุดท้ายที่นำมาปิดท้ายของบทความ เป็นใครไม่ได้นอกจาก "เจ้าหนูการ์นาโช" ที่ฤดูกาลที่แล้วคือซีซั่นที่แจ้งเกิดสำหรับเจ้าตัวเลย ภายใต้การคุมทัพของเอริก เทน ฮากในช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงที่เขาสร้างความประทับใจได้เป็นอย่างมาก เขาทำ 2 แอสซิสต์ในเกมลีก คัพที่พบกับแอสตัน วิลลา ต่อมาก็ทำประตูชัยให้กับทีมในเกมพรีเมียร์ลีกที่พบฟูแลม หลังจากเกมลีก คัพไม่กี่วัน นอกจากนี้เขายังมีแอสซิสต์ในเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บีได้อีกด้วยซึ่งในเกมนั้นแมนยูก็สามารถเอาแมนซิตี้ไปได้อีกต่างหาก หลังจากนั้นก็ทำประตูได้เรื่อยๆ ในเกมที่พบกับลีดส์, เวสต์แฮม และวูล์ฟ และถึงแม้ในเกมรอบชิงของเอฟเอ คัพเขาถูกจับเป็นตัวสำรอง แต่พอถูกเปลี่ยนตัวลงมา กลับกลายเป็นว่าเขาคือคนที่สร้างอันตรายให้กับแมนซิตี้ได้มากที่สุดในเกมพรีเมียร์ลีกเขาลงเล่นไป 19 นัด มีสถิติบ่งบอกว่าเขามีส่วนสำคัญในการทำประตูของแมนยูก็คือ ทุกครั้งที่เขาลงสนาม แมนยูนั้นจะสามารถยิงประตูได้ 34 ประตู แต่หากเขาไม่ได้ลงสนาม แมนยูจะยิงได้ 24 ประตูในฤดูกาลที่แล้วการ์นาโชมีหลายสถิติที่เป็น "อันดับ 1" ของแมนยูเลย (สถิติต่อ 90 นาที) เขายิงเข้ากรอบมากที่สุด (1.6), ยิงในกรอบเขตโทษมากที่สุด (2.9), ถูกทำฟาล์วมากที่สุดในพื้นที่ Final Third (1), ยิงในจังหวะสวนกลับมากที่สุด (0.5), เลี้ยงจี้ใส่คู่แข่งมากที่สุด (2.1) เหนือกว่าซานโชและแรชฟอร์ด (1.9 และ 1.8 ตามลำดับ) แถมอีกหนึ่งสถิติคือ เขามีค่าเฉลี่ยในจังหวะการยิงประตูอยู่ที่ 3.9 ครั้งต่อเกม เป็นรองเพียงคริสเตียโน โรนัลโดในช่วงที่ CR7 ยังอยู่กับทีม (4.3)เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับ 5 ดาวรุ่งที่น่าจับตาดูในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลใหม่นี้ที่ผมนำมาให้คุณผู้อ่านเห็นหน้าเห็นตากัน ผมเชื่อว่าบางคนก็เคยเห็นฟอร์มมาบ้างมาแล้วในฤดูกาลที่แล้ว คงจะมีเพียงฮอยลุนด์ที่อาจจะยังไม่ได้ชมฟอร์มกันเท่าไหร่มากนัก เพราะเจ้าตัวเพิ่งย้ายมา แต่ที่เหลืออีก 4 คนนั้นก็โชว์ฟอร์มให้เห็นกันแล้ว คิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ หรือมีดาวรุ่งคนไหนที่คิดว่าจะเฉิดฉาย น่าจับตามองบ้าง สามารถคอมเมนต์บอกได้เลยนะครับขอบคุณภาพประกอบจากOfficial Instagram ของราสมุส ฮอยลุนด์ (@rasmus.hoejlund), ลีวาย โควิลล์ (@levicolwill), อีวาน เฟอร์กูสัน (@evan.ferguson.9), โคล พาล์มเมอร์ (@colepalmer10), การ์นาโช (@garnacho7)ภาพประกอบ 1, ภาพประกอบ 2, ภาพประกอบ 3, ภาพประกอบ 4 และภาพประกอบ 5ภาพปก 1, ภาพปก 2 และภาพปก 3ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !