ฟุตบอลบิ๊กแมทซ์ประจำสัปดาห์ที่ 21 ของพรีเมียร์ลีกมาถึงแล้วครับ เป็นการฟาดแข้งกันระหว่างทัพผีแดงผู้ยังคงเมาหมัดอยู่กับการตามหาความคงเส้นคงวาของตัวเอง กับทัพไก่กระต๊ากผู้ที่สูญเสียทหารกล้าในการกลับไปรบช่วยชาติไปหลายอัตราศึก ดูจากชื่อชั้นตามประวัติศาสตร์แล้ว สถิติแมนยูเมื่อเล่นในบ้านดีกว่าเยอะครับ แต่ ณ ปัจจุบันก็อย่างที่ทุกคนทราบกัน ว่าบอลมันพลิกได้ทุกเมื่อ จะหาความแน่นอนแบบเชือดขนมกินนิ่มแบบเมื่อก่อนไม่มีอีกแล้ว แมทซ์นี้แมนยูมีข่าวดีคือเราได้เห็นเซ็นเตอร์ตัวเก่งอย่าง ลิซานโด มาติเนช ผู้ที่ต้องผ่าเข่าเข้าโรงหมอไปกว่า 4 เดือนได้กลับคืนสู่สนามอีกครัง มิดฟิลด์ตัวความหวังผู้มอบสมดุลให้แก่เแดนกลางอย่าง คาเซมิโร่ ก็ได้ข่าวว่าใกล้คืนสู่ทีมเต็มที แมนยูกำลังค่อยๆฟื้นกลับคืนมา สวนทางกับฝั่งทีมยืนอย่างสเปอร์ส ที่นับวันก็มีแต่จะสูญเสียผู้เล่นไปจากเหตุผลต่างๆ แมดดิสันยังคงเจ็บ ส่วน ซง เฮน มิน , ปาร์บ ซาร์ , อีฟ มิตซูม่า เหล่านี้ต่างติดภารกิจช่วยชาติด้วยศักดิ์ศรีของนักฟุตบอล รูปเกมแมทซ์นี้ออกมาเป็นยังไงบ้าง มาครับ! เรามาคุยหลังเกมกัน! 1. ความมั่นใจของฮอยลุนด์สำหรับผมนี่คือกองหน้าที่น่าสงสารที่สุดของพรีเมียร์ลีก เขามาพร้อมกับค่าตัวมหาศาลแต่ผลงานกลับจับต้องไม่ได้ กว่าประตูแรกในลีกจะมาล่อไปเกือบ 20 นัด กูรูหลายสำนักบอกว่าฮอยลุนด์ได้บอลจากการเปิดป้อนน้อยเกินไป ซึ่งผมก็เห็นด้วย เขามีทั้งความเร็วพละกำลังและความขยัน แต่ก็นั่นล่ะครับในเมื่อเพื่อนมีแต่พ่อเลี้ยงและจ้องจะยิงเอง กองหน้าก็ไม่ต่างจากฝาบ้านที่เอาไว้ชิ่งบอลเรียกจังหวะ แต่วันนี้มันต่างออกไป ฮอยลุนด์มีโอกาสตั้งแต่ต้นเกมและแทบจะเป็นโอกาสเดียวในเกมของเขาเลย เขารับบอลที่ถูกส่งต่อกันมาเป็นทอดๆ และกดเต็มหลอดใส่เต็มข้อ บอลพุ่งเสยตาข่ายราวกับหยดเสปิร์มที่แหวกว่ายหาอิสระภาพ เรียบร้อยโรงเรียนแมนยู! โอล์แทรฟฟอร์ดแทบแตก เซอร์จิมกับป๋าเฟอร์กี้น่าจะชอบใจในสิ่งนี้ กองหน้าต้องแบบนี้มีโอกาสแล้วต้องเอาให้ได้ 2. ลิชาลิซอนของสเปอร์ส ก็หาได้น้อยหน้า!ถ้าข้อแรกพูดถึงฮอยลุนด์ ข้อนี้ก็ต้องพูดถึงศูนย์หน้าของอีกฝั่งด้วย ลิชาลิซอนเองก็เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่ผมแอบให้กำลังใจ เพราะด้วยฟอร์มของเจ้าตัวในระยะหลัง ปัญหาครอบครัวและเรื่องส่วนตัวที่ทำให้ผลงานดร็อปลงไปอย่างน่าใจหาย ภาพของหัวหอกบราซิลนั่งร้องไห้บนม้านั่งสำรอง ตอนเล่นทีมชาติยังคงติดตาตรึงใจ ข่าวว่าเขาถึงกับต้องปรึกษาแพทย์เรื่องสภาวะจิตใจ และตอนนี้ทุกอย่างก็เริ่มกลับมาเข้าที่เข้าทาง ลิชาลิซอนเริ่มกลับมาทำประตูได้แบบต่อเนื่อง ความมั่นใจของเขาค่อยๆกลับมาเหมือนกับฮอยลุนด์ และวันนี้ก็จบสกอร์ได้เฉียบคมใช้โอกาสไม่เปลืองพอๆกัน แฟนบอลสเปอร์สน่าจะพอใจกับผลงานของเขานะครับ 2 - 2 แม้ไม่ได้สามแต้มแต่ก็ยังมีอะไรให้หยิบจับไปต่อยอดได้อยู่ 3. ทำไมวาบิซซาก้าต้องไปยืนแบ็คซ้ายวะ?ผมเองก็ดูแมนยูบ่อยนะครับคุณผู้อ่าน แต่ผมแทบนึกไม่ออกว่าเคยเห็นวาบิซซาก้าแบ็คขวาฉายาไอ้แมงมุมยืนฝั่งซ้ายไหม? อาจจะมีบ้างเป็นครั้งคราว แต่ก็ไม่ใช่ยืนซ้ายแช่ทั้งเกมเหมือนแมทซ์นี้ เอริค เทนฮาร์ค คิดอะไรอยู่? ถ้ายืนตำแหน่งถนัดผมบอกเลยครับว่าไม่มีใครเลี้ยงผ่านเขาได้แน่ แต่พอมายืนซ้ายไอ้หยา! จอร์นสัน กับ เปรโดปอลโล่ ของสเปอร์สนี่คอมโบเติมสูงกันอย่างเมามันส์! เป็นไปได้ไหมครับว่าดาโลท์อาจจะเอาไม่อยู่ เอริค เทนฮาร์คจึงสลับวาบิซซาก้ามายืนฝั่งนี้แทน อันนี้ผมไม่รู้จริงๆครับ คุณผู้อ่านท่านใดทราบ ช่วยเมนท์บอกผมหน่อยนะครับ? 4. ฟอร์มไม่ดีแต่แมนยูมีลูกเฉียบคมวันนี้ตัวรุกแมนยูน่าจะขัดสตั๊ดกันมาอย่างดี โดยเฉพาะลูกที่แรชฟอร์ดยิงขึ้นนำ 2 - 1 จากเพลย์การเล่นจะเห็นว่าเป็นฮอยลุนด์อีกคร้งที่ทำหน้าที่กองหน้าผู้ใจดีชิ่งบอลคืนกลับมาให้ และแม้แรชฟอร์ดจะอยู่ในท่วงท่าที่ทุลักทุเลแต่ด้วยความเฉียบคมของเขาในวันนี้ ทำให้ลูกยิงที่ไม่แรงมากพุ่งเข้ามุมไปได้ ชนิดที่มือประตูอย่างวิคาลิโอ้เหยียดแขนแตะไม่โดนบอลเลยด้วยซ้ำ ยิงคมจริงครับคุณผู้อ่าน แต่อย่างอื่นก็ยังเข้าขั้นจังหวะนรกอยู่ดี แรชฟอร์ดยังคงมุ่งมั่นในการเลี้ยงกินตัวต่อไป ยิ่งยิงได้ยิ่งมั่นใจ แต่ผมว่าด้วยผลการแข่งที่ทีมไม่ชนะ ศูนย์หน้าพรสวรรค์สูงลูกหม้อสโมสรรายนี้ ก็คงจะไม่แคล้วโดนแฟนบอลโห่ใส่อยู่ดีนั่นล่ะครับ 5. การรักษาสกอร์ยังเป็นสิ่งที่แมนยูต้องแก้ถ้าตามแมนยูมาตั้งแต่นัดแรกๆของฤดูกาลจะรู้ครับ ว่าพวกเขามักจะเป็นทีมที่ยิงนำแล้วรักษาสกอร์ไม่ได้ แมทซ์นี้ยังดีหน่อยที่กว่าจะโดนตีเสมอก็ยังมีระยะห่าง แต่ถ้าเป็นแมทซ์ก่อนๆนะครับไม่เกิน 3 นาทีพวกเขาก็โดนทวงประตูคืนแล้ว เหมือนสมาธินักเตะไม่ค่อยดี เกมรับน่าจะขาดผู้นำที่ตะโกนสั่งหรือแหกปากกระตุ้นเพื่อนไม่ให้เหม่อ เพราะเพียงแค่ 58 วินาทีของครึ่งหลัง เบทันคัวร์ของสเปอร์สก็ลากบอลเข้าไปยิงตีเสมอ 2 - 2 มันซะดื้อๆ แก้ไม่หายสักที ยังคงผิดซ้ำผิดซาก ไอ้เราก็ได้แต่หวังล่ะครับว่าการกลับมาของลิซานโดร มาติเนซ จะแก้ตรงจุดนี้ได้ สรุปสุดท้าย ผลการแข่ง 2 - 2 ดูจะไม่เป็นผลดีของทั้งสองฝั่ง เพราะต่างฝั่งก็น่าจะเบียดเอาชัยได้ สเปอร์สที่บุกมากกว่าสร้างโอกาสได้มากกว่าก็น่าจะได้รับผลตอบแทนบ้าง ในขณะที่แมนยูที่โดดเด่นและเก่งในการเล่นลูกสวนกลับของพวกเขา ก็น่าจะเบียดเอาชับแบบดราม่าท้ายเกมได้อยู่ แต่ก็นั่นล่ะครับ! ในเมื่อมันไม่เกิดขึ้นก็ต้องยอมรับความจริงว่า "ทีมยังไม่ดีพอ" ไม่ใช่โชคหรือดวงอะไรทั้งนั้น ผล "เสมอ" แต่เป็นเสมอที่ยัดเยียดความ "เสียใจ" ให้แก่ทั้งสองทีมได้อย่างเจ็บแสบครับเครดิตรูปภาพภาพหน้าปก 1 จาก FB : Manchester Unitedภาพหน้าปก 2 จาก FB : Manchester Unitedรูปที่ 1 จาก FB : Manchester Unitedรูปที่ 2 จาก FB : Manchester Unitedรูปที่ 3 จาก FB : Manchester Unitedรูปที่ 4 จาก FB : Manchester Unitedรูปที่ 5 จาก FB : Manchester United Community ฟุตบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์
