หลังจากเมื่อวันที่ 6 ก.ค.65 ได้ดูถ่ายทอดการแข่งขันชกมวยศึกเวิลด์ไฟต์ ทัวร์นาเมนต์ รายการ World Fight TOURNAMENTS (WF) KUN KHMER Series จัดที่สนามกีฬาแห่งชาติ มรดก เตโช กรุงพนมเปญ แบ่งเป็น 2 ทีมๆ ละ 5 คน เป็นศึกดวลหมัดระหว่างทีมนักชกกัมพูชากับทีมนักชกต่างชาติในกติกาคุนขแมร์ 3 ยก(เหมือนมวยไทย) มีนักชกสัญชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขันด้วย 2 คน คือ บัวขาว บัญชาเมฆ และเป็นเทพ เอกเมืองนน ที่เป็นไฮไลท์โปรโมตศึกมวยและถูกจัดให้เป็นคู่เอกของ World Fight Tournament ครั้งนี้ คือ บัวขาว บัญชาเมฆ ในวัย 40 ปี ถูกจัดให้อยู่ในทีมกัมพูชา พบกับนักชกต่างชาติ ดิมิทรี วารัตส์ นักชกจากเบลารุส วัย 33 ปี รูปร่างสูงใหญ่กว่าบัวขาวเล็กน้อย มีอายุห่างจากกัน 7 ปี รุ่นพิกัดน้ำหนัก 71 กิโลกรัม เป็นคู่ที่ 4 ของรายการ ก่อนขึ้นชกผลการชั่งน้ำหนักวันที่ 5 ก.ค. 65 บัวขาวชั่งน้ำหนักได้ 70.1 กิโลกรัม ต่ำกว่าพิกัด ก่อนหน้านี้ 6 สัปดาห์หลังจากได้รับติดต่อให้ร่วมศึกดวลกำปั้นครั้งนี้ บัวขาวเข้าโปรแกรมจัดแผนการซ้อมและลดน้ำหนักลงจาก 79 กิโลกรัม ให้เหลืออยู่ในพิกัดน้ำหนักที่ขึ้นชกได้สำเร็จ นับว่าเป็นนักกีฬาที่มีวินัยและความมุ่งมั่นในอาชีพมาก ในยกที่ 1 ช่วงแรกทั้งคู่ออกอาวุธหมัดและเตะหยั่งเชิงทักทาย ดิมิทรีเชิงทรงมวยไทยดูดีใช้ได้ ถีบสกัดบัวขาวไม่ให้เข้าถึงออกหมัดเล่นวงใน จังหวะหนึ่งดิมิทรีถีบเข้าหน้าบัวขาว นักชกไทยเดินเข้าหาเตะสูงถึงโค่นแขนคู่ต่อสู้แล้วสะบัดศอกเข้าที่ใบหน้าบริเวณสันจมูกของดิมิทรีมีเลือดไหลออกมา บัวขาวเป็นฝ่ายออกอาวุธเดินเข้าหาคู่ต่อสู้เป็นส่วนใหญ่ ดิมิทรีแม้จมูกแตกก็ยังออกอาวุธป้องกันตัวไว้ได้จนครบยก ยกที่ 2 เริ่มมีสายฝนโปรยลงมาเล็กน้อย ทำให้พื้นเวทีค่อนข้างลื่น ทั้งคู่เดินเข้าหาต่อสู้ปล่อยอาวุธกันเต็มที่กว่าในยกแรก กำลังของบัวขาวดูจะแรงขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีแผ่ว จนลืมไปว่าทั้งคู่มีอายุต่างกันถึง 7 ปี ทั้งแรงฟาดแข้งเข้าที่ชายโครง ตีเข่าเข้าหน้าท้องของดิมิทรีหลายดอก ปะทะกำลังกันได้อย่างสูสีไม่มีตก นักชกเบลารุสโยนศอกหลังเข้าใส่บัวขาว พื้นลื่นทำให้ทรงตัวไม่นิ่ง ตั้งหลักได้บัวขาวชกเข้าที่หน้าของคู่ต่อสู้ทำให้แผลที่แตกมีเลือดกระฉูดออกมาอีก ยกสุดท้าย บัวขาวยังเป็นฝ่ายเดินเข้าหาคู่ต่อสู้ ดิมิทรีก็ชกแลกหมัดกับนักชกขวัญใจคนไทยและกัมพูชาได้อย่างสูสี อุปสรรคจากฝนตกพื้นเวทีลื่นทำให้การทรงตัวและปล่อยอาวุธของทั้งคู่ขาดจังหวะทุลักทุเลพอสมควร บัวขาวเดินปะทะเข้าวงในแทงเข่าเข้าท้องคู่ต่อสู้แรงไม่มีตก ไม่เห็นอาการอ่อนล้าหรือเหนื่อยหอบใดๆ มีจังหวะเตะเข้าเป้าออกหมัดเข่าขัดแจ้งกว่านักชกจากเบลารุส ครบยกที่ 3 โดยรวมเป็น Tournament ที่ทั้งคู่ชกกันได้สนุกเร้าใจผู้ชม ท่ามกลางสายฝนที่เป็นอุปสรรคทำให้ออกอาวุธกันได้ไม่ถนัดบ้าง จนจบครบทั้ง 3 ยก สรุปผลการแข่งขันกรรมการยกมือให้บัวขาว ชนะคะแนนนักชกจากเบลารุส ดิมิทรี วารัตส์ ผู้เขียนเป็นคนหนึ่งที่ชอบดูการแข่งขันกีฬา ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอล วอลเลย์บอล ยกน้ำหนัก ชกมวย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแข่งขันใน Tournament ระหว่างทีมชาติไทยกับต่างชาติ สำหรับกีฬาชกมวยส่วนใหญ่จะดูชิงแชมป์มวยสากลระดับโลก ก็จะเฝ้าติดตามและคอยเชียร์นักกีฬาไทยแทบจะทุกรายการ สำหรับมวยไทยก็เช่นกันจะดูการแข่งและเชียร์เฉพาะที่มีนักชกไทยชกกับต่างชาติ ย้อนกลับไปเมื่อแรกๆ ที่เริ่มรู้จักนักชกไทยผิวเข้มบัวขาว เมื่อประมาณปี 2549 จากข่าวสารกีฬานักชกไทยชนะเลิศรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ ติดต่อกัน 3 ปีซ้อน และเขายังเป็นนักชกคนไทยที่มีแฟนคลับคนญี่ปุ่นติดตาม เมื่อเริ่มมีโอกาสได้ดูถ่ายทอดสดการชกมวยจากรายการทีวีในสมัยนั้น ก็รู้สึกว่าบัวขาวมีสไตล์การชกที่เป็นของตัวเอง มีหมัดหน้าที่ชกเข้าหน้าคู่ต่อสู้ได้แม่นยำ เตะหนักหน่วงเข้าลำตัวหรือก้านคอ!! น๊อคแทบทุกราย มีศอกที่อันตรายคู่ต่อสู้โดนเข้าไปแตกเกือบ 70-80% การเข้ากระชากคอตีเข่าคลุกวงใน ลีลาเหลี่ยมมวยฉลาด สายตาที่จ้องคู่ต่อสู้ดุดันเพิ่มลีลาและสีสรรสะใจให้คนดู ที่ขาดไม่ได้เลยคือการไหว้ครู ที่มีท่วงทีที่มีศิลปะและลีลาสวยงาม อีกหนึ่งความประทับใจที่ทำให้บัวขาวเป็นที่รู้จักของแฟนมวยมากขึ้น นอกจากจะเป็นเวที K-ONE แล้วใน Tournament มวยไทยระดับโลกที่เริ่มมีคือ THAI FIGHT ทุกที่ผู้จัดจัดแข่ง มีชื่อบัวขาวขึ้นชก ผู้เขียนก็จะติดตามดูทุกครั้ง และทุกครั้งที่ดูก็ไม่เคยผิดหวัง ตื่นเต้นตั้งแต่เปิดตัวนักชก การเปิดเพลงเร้าใจและลีลาไหว้ครูก่อนชก ในการชกก็ออกหมัดศอกเข่าครบเครื่องเข้าใส่คู่ต่อสู้จนเลือดแทบอาบแทบทุกครั้ง อีกหนึ่งเวทีที่ดูสนุกดีคือเวที Kunlun Fight เป็นรายการมวยออกอากาศทีวีของจีน ที่เชิญบัวขาวและนักมวยไทยฝีมือดีๆ เข้าร่วมแข่งขัน จัดคู่ชกกับกับนักมวยของจีนเก่งๆ ที่จัดคู่แข่งได้อย่างสนุกเร้าใจทั้งคนไทยคนจีน มีอยู่ครั้งหนึ่งจับคู่ชกพิเศษระหว่างนักมวยจีนสไตล์ศิลปะต่อสู้แบบเส้าหลินขึ้นชกกับบัวขาวที่ใช้ศิลปะการต่อสู้แบบมวยไทย ซึ่งทำให้คนจีนรู้จักบัวขาวและมีแฟนคลับชาวจีนติดตามผลงาน รวมถึงหันมาสนใจและเรียนศิลปะมวยไทยมากขึ้นด้วย บัวขาว ในวันนี้เขาคือนักกีฬาที่เป็นตำนานของนักต่อสู่รุ่นหลังให้ยึดถือเป็นแบบอย่าง รวมถึงรูปแบบการใช้ชีวิตในด้านอื่นๆ เขาก็ประสบความสำเร็จแทบในทุกๆ ด้าน ซึ่งเป็นผลมาจากจุดเริ่มต้นในอาชีพนักมวยตั้งแต่วัยเด็กในอายุ 8 ขวบที่อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ ก่อนเข้ามาเป็นนักมวยในสังกัดค่ายมวย ป.ประมุข และถึงจุดรุ่งโรจน์เป็นแชมป์ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ก่อนชีวิตจะหักมุมอีกครั้งในปี 2555 ทำให้บัวขาวหรือชื่อจริงสมบัติ บัญชาเมฆ ได้มีโอกาสใช้ชีวิตได้โลดโผนเป็นตัวของตัวเองมากยิ่งขึ้น รูปแบบการใช้ชีวิตที่ประสบความสำเร็จในด้านอื่นๆ นอกเหนือจากแวดวงนักมวย ของบัวขาว ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปี 2556 ปริญญาบัตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ปริญญาโท) สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา และมหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์ ปี 2557 ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ปริญญาเอก) สาขาวิชายุทธศาสตร์ การพัฒนาภูมิภาค (กลุ่มการศึกษาและจัดการภูมิปัญญา) เคยเล่นฟุตบอลอาชีพในไทยลีก ดิวิชั่น 2 ให้กับสโมสรฟุตบอลอาร์แบค ฤดูกาล 2014(ปี 2557) ในตำแหน่งศูนย์หน้ารับราชการทหารที่โรงเรียนนายสิบทหารบก ค่ายธนะรัชต์ ศูนย์การทหารราบ ปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่ปี 2557 ยศในปัจจุบัน ร้อยโทสมบัติ บัญชาเมฆ ด้านอื่นๆ เช่น วงการบันเทิง เคยมีผลงานภาพยนตร์ ละคร และเป็นพิธีกรทีวี และรายการออนไลน์ ด้านครอบครัวชีวิตรัก มีลูกสาว 1 คน บัวขาว บัญชาเมฆ ลูกผู้ชายผิวเข้มจากจังหวัดสุรินทร์ ในวัยเด็กถึงวัยหนุ่มอดทนและทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจให้กับอาชีพนักมวยของเขา จนประสบความสำเร็จถึงที่สุดเป็นแชมป์ในเวทีมวยไทย เวทีมวยโลก เช่น K-1 World MAX champion, Shoot Boxing S-Cup World champion ผู้ซึ่งมีลีลาการชกมวยที่ประทับใจผู้ชื่นชอบกีฬามวยไทย จนมีแฟนคลับทั้งชาวไทยและต่างชาติติดตามทั้งผลงานและชีวิตส่วนตัว มีสถิติผลงานการชกมวยมากกว่า 250 ครั้ง ปัจจุบันผันตัวเองไปเปิดค่ายมวย และเป็นโค๊ชมวยไทย เขาแสดงให้เห็นว่าการมีวินัยและมีความมุ่งมั่นทุ่มเทให้กับอาชีพที่ตัวเองรัก แล้วชีวิตก็จะพบกับความสำเร็จอันยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน ในวันนี้แม้อายุจะมากขึ้นในวัย 40 ปี มีโอกาสได้รับเชิญให้ไปร่วมแข่งขันชกมวยกับนักชกรุ่นน้องอายุต่างกันถึง 7 ปี เขาก็ไม่ทำให้แฟนคลับผิดหวัง ยังคงรักษามาตรฐานและสไตล์การชกที่เป็นเอกลักษณ์อย่างสม่ำเสมอ ต่อไปไม่อาจทราบได้ว่านักชกขวัญใจมหาชนคนไทยคนนี้ จะขึ้นชกอีกหรือไม่? หรือควรพอแค่นี้ พวกเราก็คงต้องติตตามชมผลงานของเขาต่อไป เพราะคุณคือตำนานและเป็นฮีโร่นักชกมวยไทยไปแล้ว ที่มาของข้อมูลข่าวสารการแข่งขัน : Facebook World Fight Tournament และ Facebook แฟนเพจ Banchamek Gym (Buakaw Banchamek, บัวขาว บัญชาเมฆ)ที่มาของภาพที่ 1 - 2 เครดิต Facebook World Fight Tournament : ภาพที่ 1 , ภาพที่ 2 ที่มาของภาพที่ 3 - 5 เครดิต Facebook Banchamek Gym (Buakaw Banchamek, บัวขาว บัญชาเมฆ) : ภาพที่ 3 , ภาพที่ 4 , ภาพที่ 5ข้อมูลและดูการชกรายการ World Fight Tournament ที่ Youtube : ช่อง มวย JKN18ที่มาของข้อมูลประวัติบัวขาว : วิกิพีเดีย โปรแกรมทำหน้าปก : https://www.canva.com/ และต้นฉบับ file ภาพหน้าปกทั้งหมดจำนวน 3 ภาพ เครดิต : facebook แฟนเพจ Banchamek Gym(Buakaw Banchamek,บัวขาว บัญชาเมฆ) ได้แก่ ภาพที่ 1 , ภาพที่ 2 , ภาพที่ 3 *STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี` คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565