ภาพปกโดย capondesign จากเว็บไซต์ Pixabay เนื่องจากสถานการณ์วิกฤตที่เราเผชิญอยู่ทุกวันนี้ ทำให้ผู้คนต่างกักตัวอยู่แต่ในห้อง ขาดกิจกรรมกีฬาและอารมณ์เชิงบวกที่จะช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับร่างกายและจิตใจ แต่ด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง (Virtual Reality) นั้น ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงและนี่คือการพลิกโฉมวงการกีฬาอย่างแท้จริง เทคโนโลยีเสมือนจริงที่เรามีอยู่ในขณะนี้ยังคงเป็นอุตสาหกรรมแนวใหม่ที่ยังถูกพัฒนาได้ไม่เต็มที่ แต่อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจในขณะนี้ คือ การนำเทคโนโลยีเสมือนจริงมาใช้ในวงการกีฬา นี่อาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เลยก็ว่าได้ จากเดิมที่เราต้องพบปะกันในสนามเพื่อให้โค้ชวางแผนและฝึกซ้อม เพื่อเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันที่จะมาถึง อาจจะเปลี่ยนเป็นการพบปะกันในโลกจำลองของ VR เพื่อช่วยให้ชีวิตของผู้เล่นและโค้ชจัดการวางแผนง่ายมากขึ้น ภาพโดย StockSnap จากเว็บไซต์ Pixabay ในโลกจำลองของ VR นั้นผู้เล่นสามารถสวมชุดอุปกรณ์ VR และสามารถตั้งค่าการเล่นเหมือนการแข่งขันในสนามได้จริง อย่างเช่น เมื่อผู้เล่นฟุตบอลจะกำหนดระยะยิงประตูตั้งแต่ 5 เมตรขึ้นไป ในโลกเสมือนจริงจะมีการคำนวณโอกาสที่จะทำประตูได้ ซึ่งสิ่งนี้ช่วยให้ผู้เล่นได้รับการฝึกฝนที่เหมาะสมกับตัวเองได้มากขึ้น เพราะผู้เล่นได้รับประสบการณ์และการวางแผนจากในโลกเสมือนจริงด้วยเช่นกัน เทคโนโลยีเสมือนจริงในวงการกีฬาสามารถทำให้การฝึกฝนของผู้เล่นมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประหยัดเวลาและทรัพยากร นอกจากนี้เทคโนโลยีเสมือนยังสามารถให้ผู้เล่นฝึกฝนนานเท่าใดก็ได้ตามที่ผู้เล่นต้องการ แถมยังมีระบบแนะนำที่เปรียบเสมือนโค้ชส่วนตัวอีกด้วย ภาพโดย Hammer & Tusk จากเว็บไซต์ Unsplash ข้อดีที่ได้จากการฝึกกีฬาเสมือนจริง ได้แก่ 1. สามารถวิเคราะห์การเล่นกีฬาได้ดียิ่งขึ้น 2. สามารถดูมุมมองการเล่นได้อย่างอิสระ 3. ผู้เล่นมีความปลอดภัย ลดอาการบาดเจ็บที่เกิดจากการซ้อม 4. สร้างความเป็นไปได้ที่จะลองเล่นกีฬากลยุทธ์ใหม่ ๆ โดยไม่มีความเสี่ยง 5. อนุญาตให้แฟนคลับนักกีฬามีส่วนร่วมในโลกเสมือนจริง ข้อเสียของการเล่นกีฬาในโลกเสมือนจริง ได้แก่ 1. ต้องมีการลงทุนเงินจำนวนมากไปกับการพัฒนาอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่จำเป็นต่อการเล่นกีฬา 2. การเล่นกีฬาที่อยู่แต่ในโลกเสมือนจริงนั้น อาจจะทำให้ตัดขาดจากโลกภายนอกได้ 3. ประสบการณ์ในสนามของจริงนั้นไม่มีอะไรมาแทนที่ได้ ภาพโดย Santiago Pagnotta จากเว็บไซต์ Pexels ตัวอย่างของการนำเทคโนโลยีเสมือนจริงมาใช้ในวงการกีฬา เทคโนโลยีเสมือนจริงได้ถูกนำมาใช้ในการฝึกฝนกีฬาของบรรดานักกีฬาทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพ โดยฝึกฝนจากมุมมองของนักกีฬาและโค้ช เทคนิคการฝึกฝนนักกีฬาที่สำคัญในปัจจุบันคือการจับการเคลื่อนไหวของผู้เล่นให้มากที่สุด อีกวิธีที่ดีอีกอย่างหนึ่งคือการใช้ VR สำหรับกีฬาในร่มอย่างบาสเกตบอล เบสบอลและเทนนิส ซึ่งนักกีฬาสามารถฝึกฝนในสถานการณ์จำลองและสามารถปรับเปลี่ยนเทคนิคตามความคิดเห็นของระบบ ยกตัวอย่าง บริษัท StriVR และ Eon Sports ได้สร้างโปรแกรมฝึกฝนจาก VR ให้กับนักกีฬาในวงการบาสเกตบอลอย่าง NBA วงการฟุตบอลอย่าง NFL และการแข่งขันบาสเกตบอลชายในระดับวิทยาลัยอย่าง NCAA