ถ้าใครติดตามข่าวเมื่อวันที่ 21 มี.ค. 65 มีภาพข่าวกีฬาที่สร้างความสนใจข่าวหนึ่ง เป็นภาพพิธีการมอบเหรียญรางวัล โดยนักกีฬาว่ายน้ำคนหนึ่งขึ้นรับเหรียญทอง แต่บรรดานักกีฬาคนอื่น ๆ ต่างพร้อมใจกันยืนออกห่างจากเธอไปเบียดกันที่โพเดียมอันดับ 3 ซึ่งเป็นการแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับการที่ “ลีอา โธมัส” ซึ่งเป็นนักกีฬาว่ายน้ำข้ามเพศ ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการแข่งขัน เนื่องจากมองว่ามันไม่เป็นธรรมกับนักกีฬาเพศหญิง เพราะความได้เปรียบในเรื่องของสรีระและความแข็งแกร่ง จึงทำให้ผลการแข่งขันออกมาเป็นแบบนี้ โดย ลีอา โธมัส สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาข้ามเพศคนแรก ที่ชนะการแข่งขันในรายการ เอ็นซีเอเอ ดิวิชัน 1 การแข่งขันว่ายน้ำชิงแชมป์ระดับประเทศของสหรัฐอเมริกา ซึ่ง โธมัส เป็นตัวแทนนักว่ายน้ำจากมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนียได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันในรายการนี้ ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมอย่างหนักความจริงแล้วการมีนักกีฬาข้ามเพศลงแข่งขันในรายการต่าง ๆไม่ใช่ปรากฏการณ์ใหม่ มีการกล่าวถึงนักกีฬาข้ามเพศมานานแล้ว แต่หากพูดถึงประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของนักกีฬาข้ามเพศที่มีชื่อเสียง มีอยู่หลายคนที่น่าจะเป็นที่รู้จักดี บทความนี้รวบรวมนักกีฬาข้ามเพศที่มีผลต่อประวัติศาสตร์กีฬา โดยเริ่มต้นตั้งแต่ปี 1970Renée RichardsRichards เป็นจักษุแพทย์และนักเทนนิสอาชีพได้แข่งขันกับผู้ชายในระดับสูงมาเป็นเวลานาน หลังจากได้รับการแปลงเพศเธอมีความต้องการเล่นเทนนิสต่อ คราวนี้เป็นการลงแข่งกับผู้หญิง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ปฏิเสธไม่ให้เธอเข้าร่วมการแข่งขัน U.S. Open ปี 1976 Richards ฟ้องและชนะ โดยได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันในปี 1977เช่นเดียวกับนักกีฬาข้ามเพศในทุกวันนี้ มีทั้งผู้สนับสนุนและผู้ที่คัดค้านอย่างมาก หลายคนเห็นการเลือกปฏิบัติที่เธอเผชิญและช่วยเธอต่อสู้กับการเลือกปฏิบัติ ยังมีอีกหลายคนพยายามห้ามเธอจากการแข่งขันของผู้หญิง พวกเขากล่าวหาว่าเธอมีความได้เปรียบทางกายภาพและทำให้เธอได้รับการทดสอบอย่างเข้มข้นเพื่อตัดสินว่าเธอเป็น “ผู้หญิงเพียงพอ” ที่จะแข่งขันหรือไม่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความท้าทายที่นักกีฬาทรานส์ต้องเผชิญได้เปลี่ยนไป มีการให้ความสำคัญกับการเท่าเทียมทางเพศมากขึ้น แต่ก็ยังมีความเห็นต่างอยู่ มีการกำหนดกฎเกณฑ์ที่ยุติธรรมสำหรับเวลาที่นักกีฬาข้ามเพศสามารถแข่งขันได้ โดยมีข้อกำหนดตั้งแต่การรักษาระดับฮอร์โมนบางอย่างไปจนถึงการผ่าตัดที่อวัยวะเพศ จากข้อมูลของคณะกรรมการโอลิมปิกสากลหรือ IOC มีการเปิดโอกาสให้นักกีฬาข้ามเพศสามารถลงแข่งขันกีฬาโอลิมปิกได้ตั้งแต่ปี 2015 โดยต้องมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนน้อยกว่า 10 นาโนโมลต่อลิตร อย่างน้อย 12 เดือนก่อนแข่งสำหรับนักกีฬาข้ามเพศที่น่าจับตามองในปัจจุบัน เช่นLaurel Hubbardนักกีฬายกน้ำหนักจากนิวซีแลนด์ก็เป็นนักกีฬาข้ามเพศคนแรกที่ได้รับสิทธิ์นั้นในการแข่งขันโอลิมปิกโดยเธอได้เข้าร่วมการแข่งขันยกน้ำหนักในโตเกียว โอลิมปิก 2020 รุ่นน้ำหนักเกิน 87 กิโลกรัม ในฐานะนักกีฬาเพศหญิง นอกจากนี้ ฮับบาร์ดยังเป็นนักยกน้ำหนักที่อายุมากที่สุดในการแข่งขันด้วยวัย 43 ปี ก่อนหน้านี้เธอลงแข่งในฐานะนักกีฬาชายมาก่อนในรุ่น 105 กิโลกรัม และทำลายสถิติตอนเป็นนักกีฬาเยาวชนทีมชาติ ซึ่งถ้าพิจารณาจากประวัติแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าด้วยประสบการณ์ และความแข็งแกร่งของร่างกายจะส่งผลให้ได้เปรียบกว่านักกีฬาหญิงแท้หรือไม่ แม้ว่าจะผ่านการแปลงเพศไปแล้วก็ตาม แต่ถ้าดูจากผลงานก็จะเห็นว่าน้ำหนักรวมสูงสุดที่เธอทำได้ คือ 270 กิโลกรัม ก็ยังแพ้นักกีฬาหญิงแท้อย่างนักกีฬาชาวจีน ซึ่งนั่นก็อาจจะแสดงให้เห็นว่า นักกีฬาข้ามเพศน่าจะมีข้อจำกัดเหมือนกันQuinnข้ามจากนักกีฬายกน้ำหนักมาดูที่กีฬายอดฮิต คือ ฟุตบอลกันบ้าง Quinn เป็นนักฟุตบอลทีมชาติแคนาดาเล่นทั้งกองหลังตัวกลางและกองกลาง เคยเล่นฟุตบอลโลกปี 2019 และคว้าเหรียญทองแดงในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 2016 และในปี 2020 มีส่วนร่วมในการพาทีมฟุตบอลหญิงแคนาดาคว้าเหรียญทองโอลิมปิกได้ ประวัติของ Quinn เป็นชาวโตรอนโต Quinn เป็นคนที่เคยมีประวัติเล่นให้กับทีมฟุตบอลสโมสรหลายทีมในหลายประเทศไม่ว่าจะเป็นปารีสเอฟซี หรือวอชิงตันสปิริต เมื่อปี 2563 เขาเปิดตัวว่าเป็นนอนไบนารีและคนข้ามเพศเป็นครั้งแรก รวมถึงเปลี่ยนชื่อจาก Rebecca Quinn เป็น Quinn ที่เป็นแบบชื่อเดี่ยวไม่มีนามสกุลหรือชื่อกลางLia Thomasนักกีฬาว่ายน้ำที่เป็นประเด็นให้ต้องมาเขียนเรื่องนี้ Lia Thomas โด่งดังมากจากการแข่งขันของ Ivy league โดยทาง Ivy League ก็เพิ่งออกแถลงการณ์สนับสนุนการแข่งขันของ Thomas โดยระบุว่า ทั้งThomasและ ม.เพนซิลเวเนีย ได้ปฏิบัติตามกฎของสมาคมกีฬาระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ (NCAA) อย่างเคร่งครัด Ivy League ยังระบุในแถลงการณ์ฉบับเดียวกัน ประณามการเหยียดและการเลือกปฏิบัติคนข้ามเพศทุกรูปแบบChris MosierChris Mosier เป็นนักกีฬาไตรกีฬาชายข้ามเพศที่มีชื่อเสียง และเป็นนักกีฬาข้ามเพศคนแรกที่เป็นตัวแทนของสหรัฐอเมริกาในการแข่งขันระดับนานาชาติหลังจากได้รับตำแหน่งในการแข่งขันทวิกีฬาประเภทสปรินต์ชายในปี 2558 Mosier ยังเป็นผู้สนับสนุนสำหรับนักกีฬาข้ามเพศอีกด้วย เขามีส่วนผลักดันให้คณะกรรมการโอลิมปิกสากลเปลี่ยนกฎของพวกเขาในปี 2559 เพื่อให้ครอบคลุมคู่แข่งข้ามเพศมากขึ้น โดยไม่มีข้อจำกัดสำหรับผู้ชายข้ามเพศที่จะแข่งขันกับผู้ชายคนอื่น ๆ และลดข้อกำหนดที่ผู้หญิงข้ามเพศต้องเข้ารับการผ่าตัดอวัยวะเพศ นอกจากนี้ Chris Mosier ก็มีส่วนร่วมกับ Nike ในแคมเปญ “Unlimited Courage” อีกด้วยอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะมีการโต้แย้งกันมากเพียงใด การได้มีโอกาสเข้าร่วมในการแข่งขันฬาระดับโลกก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญในการยอมรับความเท่าเทียมและความหลากหลายทางเพศ ซึ่งยิ่งใหญ่มากกว่าเรื่องของกีฬาเพียงอย่างเดียวด้วยขอบคุณข้อมูล Sport.yahoo.com, Healthline.com, Inquirer.comภาพ 1 Raphael Renter / ภาพ 2 Alora Griffiths / ภาพ 3 Jeffrey F Linภาพ 4 Michele Wales /ภาพปก Sharon McCutcheonอัปเดตความรู้ใหม่ ๆ อีกมากมาย โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !