หลังจากนัดเมื่อคืนที่ผ่านมา ไบรท์ตันสามารถเปิดบ้านเอาชนะ เซาท์แธมป์ตัน ไปได้ 3-1 ทำให้พวกเขาสามารถคว้า 3 คะแนนล้ำค่ามาได้สำเร็จ ทำให้พวกเขาการันตี 100% ในการคว้าอันดับที่ 6 ซึ่งอันดับนี้สามารถพาพวกเขาไปเล่นในฟุตบอลถ้วยยุโรปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จบฤดูกาลนี้ยังไงพวกเขาจบอันดับที่ 6 แล้วได้ไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า ยูโรป้า ลีก อย่างแน่นอนแล้ว และอีก 2 นัดที่เหลือของพวกเขาก็แทบไม่มีผลอะไรที่จะทำให้ไบรท์ตันกังวลอีกต่อไป นี่เป็นฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมที่สุดของไบรท์ตันตั้งแต่เลื่อนชั้นขึ้นมาในพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2017 พวกเขาก็เป็นทีมจอมแสบที่คอยแย่งแต้มจากทีมใหญ่ๆได้มาตลอดแม้ฤดูกาลนี้พวกเขาจะต้องเสียทั้งกุนซืออย่างแกรห์ม พอตเตอร์ที่โยกไปอยู่เชลซี แม้จะเสียนักเตะตัวหลักไปหลายคน ไม่ว่าจะเป็น มาร์ค คูคูเรล่า ยีฟ บิซซูม่า เลอันโดร ทรอสซาร์ นีล โมเปย์ เป็นต้น แต่ไบรท์ตันก็ยังคงมีนักเตะที่มีคุณภาพคับทีมเหมือนเดิม พ่วงด้วยการแปรสภาพรายได้จากการขายนักเตะของทีมออกไป เอาไปซื้อนักเตะที่มีคุณภาพมาเสริมให้ทีมได้อย่างดีเยี่ยมเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เพอร์วิซ เอสตูปิยาน จูลิโอ เอ็นซิโซ่ บิลลี่ กิลมอร์ ฟากุนโด้ บัวนาน็อตเต้ เลวี่ โคลวิลล์ เป็นต้น รวมไปถึงการดันนักเตะชุด U21 ขึ้นมาโชว์ฝีเท้าในชุดใหญ่ ที่โดดเด่นอย่างมากก็คือ อีแวน เฟอร์กูสัน กองหน้าดาวรุ่งวัย 17 ปีที่ลงสนามไปทั้งหมด 17 นัด ยิงไปได้ถึง 6 ประตู ซึ่งด้วยอายุเพียงเท่านี้ก็ถือว่าสุดยอดมากๆความสำเร็จของไบรท์ตันนั้นก็ต้องชื่นชมความคงเส้นคงวาและการรักษาฟอร์มของนักเตะหลายๆคน โดนแกนหลักที่โดดเด่นอย่างมากในชุดนี้ ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตู แม้โรเบิร์ต ซานเชสจะโชว์ฟอร์มไม่ค่อยดีในช่วงหลังๆ แต่ทีมก็ยังมีเจสัน สตีล ที่ช่วยซัพพอร์ตในบางนัดทำให้ทีมรอดมาได้ แถมยังเก็บคลีนชีตได้อีกด้วย กองหลังก็มีทั้ง ลูอิส ดังก์ที่เป็นตัวเก๋าคอยแบกแนวรับให้กับทีม โดยเล่นคู่กับทั้ง อดัม เว็บสเตอร์ และเลวี่ โคลวิลล์ แถมยังเล่นกันได้อย่างลงตัวอีกต่างหาก ฝั่งแบ็คซ้าย เพอร์วิส เอสตูปิยาน ที่สามารถเล่นแทนมาร์ค คูคูเรล่า ได้อย่างลงตัว แถมยังฟอร์มดูดีกว่าคูคูเรล่าในฤดูกาลนี้กับเชลซีอย่างเห็นได้ชัดมากๆ ทางฝั่งแบ็คขวา หลังจากที่ไทริค แลมป์ตี้เจ็บไป ก็ยังมีโจเอล เวลท์แมน ที่ยังทดแทนได้ อีกทั้งยังมี มอยเซส ไกเซโด้ที่ก็เล่นได้ในตำแหน่งนี้เช่นกันมาถึงกองกลางที่เป็นหัวใจหลักของทีมกันบ้าง ที่ผสมผสานทั้งตัวเก๋าอย่างปาสกาล กรอส และวัยเลือดร้อนอย่าง อเล็กซิส แมคอลิสเตอร์ กองกลางตัวรับคอยตัดเกมเก่งๆอย่างมอยเซส ไกเซโด้ เสริมด้วยบิลลี่ กิลมอร์ ที่โดดเด่นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงหลังๆนี้ แถมด้วย ยาคุบ โมเดอร์ และยาซิม อายารี่ ที่สลับช่วยกันลงสนาม และมาถึงสุดยอดแนวรุกหลายๆคนที่ช่วยให้ไบรท์ตันคว้า 3 คะแนนได้ในหลายๆนัด ตัวหลักทั้งคาโอรุ มิโตมะ ซอลลี่ มาร์ช แดนนี่ เวลเบ็ค ที่ก่อนหน้านี้ดูจะไปไม่รอดกับทีม แต่มาในปีนี้เขากลายเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยทีมให้เล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสริมด้วยดาวรุ่งพุ่งไกลหลายๆคน ทั้งอีแวน เฟอร์กูสัน จูลิโอ เอ็นซิโซ่ ฟากุนโด้ บัวนาน็อตเต้ และ เดนิส อุนดาฟ นอกจากความสุดยอดของนักเตะแล้ว คนที่จะไม่ชื่นชมไม่ได้เลยก็ต้องคนนี้ โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ ที่สามารถสร้างทีมที่กำลังร้าว หลังจากที่เสียทั้งนักเตะตัวหลักและโค้ชไป เขาจึงต้องพยายามก่อร่างสร้างทีมด้วยศักยภาพทั้งหมดที่เขามี ด้วยแท็คติกการเล่นที่เน้นการบุกที่หลากหลาย เน้นความแกร่งในการครองบอลและเล่นเกมรับแบบระมัดระวังมีระเบียบวินัย และการงัดความสามารถที่มีของนักเตะ รวมไปถึงการให้โอกาสนักเตะอายุน้อยได้โชว์ฝีเท้าสู้กับนักเตะระดับทวีปได้ แถมด้วยการตัดสินใจที่เด็ดขาดในช่วงก่อนหน้านี้ที่เลือกจะลงโทษ มอยเซส ไกเซโด้ ที่งอแงอยากย้ายทีม จนเป็นที่มาของการจับเข่าคุยกันก่อนที่ไกเซโด้จะยอมออกมาขอโทษในพฤติกรรมที่ไม่ดี และทำให้เขากลับมาเป็นส่วนหนึ่งกับทีมได้อีกครั้ง เป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งว่า ในฤดูกาลหน้าของไบรท์ตัน ที่ได้ไปโชว์ฝีไม้ลายมือในถ้วยยุโรป จะสามารถแสดงศักยภาพจนไปไกลได้แบบหลายๆทีมที่เคยเข้าไปรอบลึกๆได้หรือไม่ การเสริมทัพในฤดูกาลหน้า การรั้งนักเตะตัวหลักไว้ เขาจะสามารถทำได้มากน้อยเพียงใด เพราะตอนนี้ นักเตะของไบรท์ตัน ถูกจับตามองจากทีมใหญ่ๆหลายทีมทั้งนั้นขอแสดงความยินดีกับแฟนบอลไบรท์ตันด้วยนะครับ ทำสำเร็จแล้วขอขอบคุณภาพประกอบบทความภาพที่ 1 จาก Facebook Brighton & Hove Albion FCภาพที่ 2 จาก Facebook Brighton & Hove Albion FCภาพที่ 3 จาก Facebook Brighton & Hove Albion FCภาพที่ 4 จาก Facebook Brighton & Hove Albion FCภาพปกบทความ จาก Facebook Brighton & Hove Albion FCส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !