รีเซต
กฎเว็บสเตอร์ทำให้คุณบินได้ ? : การพยายามหนีจาก บาเยิร์น ของ เลวานดอฟสกี | Main Stand

กฎเว็บสเตอร์ทำให้คุณบินได้ ? : การพยายามหนีจาก บาเยิร์น ของ เลวานดอฟสกี | Main Stand

กฎเว็บสเตอร์ทำให้คุณบินได้ ? : การพยายามหนีจาก บาเยิร์น ของ เลวานดอฟสกี | Main Stand
เมนสแตนด์
10 มิถุนายน 2565 ( 14:15 )
449

สัญญาที่ตกลงกันไปแล้ว ถือเป็นสิ่งที่ทั้งสองฝ่ายต้องปฏิบัติตาม ไม่ว่าจะตัวของนักฟุตบอลหรือต้นสังกัด ... นี่คือเรื่องง่าย ๆ ที่หลายคนเข้าใจ 

 


สัญญาคือการตีกรอบอันเกิดจากตกลงปลงใจกันของทั้งสองฝ่าย แต่ถ้าเวลาผ่านไปเกิดมีฝ่ายไหนคิดว่าพวกเขาไม่ได้แค่ถูกริดรอนสิทธิ์ในการเป็นนักฟุตบอลคนหนึ่งเท่านั้น แต่ยังถูกกีดกันและถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรมสำหรับมนุษย์คนหนึ่งด้วยล่ะจะทำอย่างไร ?

นี่คือเรื่องราวของ "กฎเว็บสเตอร์" ที่มีที่มาจากการต่อสู้อันยาวนานบนชั้นศาล สู่กฎที่กำลังจะเป็นช่องโหว่ซึ่ง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ต้องการใช้เป็นกุญแจไขประตูสู่ทางออกจาก บาเยิร์น มิวนิค ต้นสังกัดที่ยืนยันว่า "เขาจะไปไหนไม่ได้"   

ทำไม เลวานดอสฟกี จึงอยากย้ายจนถึงขั้นมีข่าวงัดกฎนี้ออกมาใช้ ? ติดตามได้ที่ Main Stand 

 

กฎต้องเป็นกฎ ไม่มีใครใหญ่กว่าสโมสร 

สถานการณ์ของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี กับ บาเยิร์น มิวนิค ในตอนนี้ชัดเจนว่าตัวของนักเตะต้องการย้ายออกจากต้นสังกัด และพยายามกดดันทีมผ่านสื่อเพื่อบอกว่าช่วงเวลาอันหอมหวานตลอด 8 ปีที่ผ่านมาควรอยู่ในสถานะ "ความทรงจำ" เท่านั้นหลังจากนี้

"สิ่งที่เราทุกคนรู้คือช่วงเวลาของผมกับ บาเยิร์น มิวนิค จบลงแล้ว" ดาวยิงชาวโปแลนด์ ยืนยันด้วยตัวเอง 

เบื้องหลังการแตกหักของ เลวานดอฟสกี และ บาเยิร์น เกิดขึ้นจากการที่ตัวนักเตะในวัย 33 ปีเหลือสัญญาอยู่อีก 1 ปี ตัวนักเตะเองก็อยากจะได้สัญญาสวย ๆ ตัวเลขงาม ๆ ให้สมกับที่เขาพยายามทำหน้าที่อย่างหนักเพื่อทีมมาตลอดนับตั้งแต่ย้ายมาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แบบไม่มีค่าตัวเมื่อปี 2014 

โดยสื่อเยอรมันอย่าง Bild คาดการณ์ว่า เลวานดอฟสกี ที่รับค่าเหนื่อยอยู่ที่ 369,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ณ ปัจจุบัน ต้องการค่าเหนื่อยมากกว่าเดิมอีกจำนวนหนึ่ง ส่วนระยะสัญญาฉบับใหม่จะอยู่ที่ 2 ปี โดยจะต่อสัญญาไปจนถึงปี 2025 

ปัญหาคือตลอดช่วงเวลาของฤดูกาล 2021-22 ที่ผ่านมา ต้นสังกัดกลับไม่มีสัญญาณตอบรับถึงสิ่งที่เขาต้องการ และไม่มีการคุยกันเลยสำหรับสัญญาฉบับใหม่ ... นั่นทำให้ เลวานดอฟสกี เกิดความไม่พอใจและต้องการจะย้ายออกจากทีมในซัมเมอร์นี้ทันที และคำถามหลังจากนี้คือทำไมบาเยิร์นจึงไม่ให้ในสิ่งที่เขาต้องการ เพราะดูแล้วมันไม่ได้มากมายอะไรเลยหากดูจากที่เลวาดอฟสกีเคยทำให้กับสโมสรตลอดช่วงสัญญาทั้งหมดของเขา 

บาเยิร์น มิวนิค เป็นสโมสรที่มีนโยบายการทำทีมชัดเจนมาก แม้พวกเขาจะต้องการความสำเร็จทุกปีที่ลงเล่น แต่สิ่งสำคัญอีกอย่างคือบาเยิร์นนั้นมีนโยบายการบริหารในแบบที่แตกต่างจากสโมสรอื่น ๆ ที่อยู่ในระดับโลก นั่นคือพวกเขาจะไม่ยอมขาดทุนแม้แต่ปีเดียว และการใช้เงินเสริมทัพหรือต่อสัญญาจะต้องเกิดจากการเอาเงินจากกำไรในแต่ละปีมาใช้เท่านั้น 

ยกตัวอย่างเช่นในฤดูกาล 2020-21 ที่วิกฤต COVID-19 ส่งผลประทบไปทั่วโลกและทุกสโมสรในวงการฟุตบอลต่างได้รับผลกระทบนี้ บาเยิร์น เหลือกำไรจากฤดูกาลก่อนหน้าเพียง 9 ล้านยูโรเท่านั้น ทั้งที่กวาด 3 แชมป์อย่าง บุนเดสลีกา, เดเอฟเบ โพคาล และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในซีซั่นนั้นอย่างยิ่งใหญ่ ขณะที่ทีมระดับท็อปทั่วโลกต่างประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนัก 

จากข้อจำกัดดังกล่าวทำให้พวกเขาใช้จ่ายเท่าที่มีโดยทุ่มเงินซื้อแค่ เลรอย ซาเน่ จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาด้วยค่าตัว 50 ล้านยูโรเพียงคนเดียวเท่านั้น นอกนั้นก็ไม่มีใครมีค่าตัวเกิน 15 ล้านยูโรหรือบางคนเซ็นฟรีมาด้วยซ้ำ เมื่อหักลบกับที่ปล่อย ติอาโก้ อัลคันทาร่า ให้ ลิเวอร์พูล 30 ล้านยูโรแล้วก็เข้าเนื้อไม่มากนัก และจนถึง ณ เวลานี้ในฟุตบอลลีกพวกเขาก็คว้าแชมป์มา 10 สมัยติดต่อกันแล้ว 

"ผมเชื่อว่าการบริหารด้านการเงินที่ดีของเราในหลายปีที่ผ่านมา ทั้งการสร้างรายได้และทำกำไรส่งผลดีต่อเราในเวลานี้" โอลิเวอร์ คาห์น CEO คนปัจจุบันของ บาเยิร์น มิวนิค กล่าว  

การยืนยันของ คาห์น เกี่ยวกับนโยบายของสโมสรชัดเจนว่าขัดกับสิ่งที่เลวานดอฟสกีต้องการ ตัวนักเตะในวัย 33 ปีกับสัญญาฉบับใหม่ที่ต้องทำให้สโมสรจ่ายเงินเยอะกว่าเดิม นอกจากนี้โดยปกติแล้ว "เสือใต้" จะต่อสัญญากับนักเตะอายุเกิน 30 ปีเพียงแค่ครั้งละ 12 เดือนหรือปีต่อปี ยกตัวอย่างเช่น มานูเอล นอยเออร์ นายทวารกัปตันทีมที่เพิ่งต่อสัญญากับทีมในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาก็ได้การขยายสัญญาออกไปแค่ 1 ปีเท่านั้น 

ฝ่ายหนึ่งก็มองว่าตัวเองควรได้รับในสิ่งที่สมควรได้ ขณะที่อีกฝั่งก็มองว่าไม่มีใครใหญ่เกินสโมสร ... นอกเหนือจากนี้ยังมีเรื่องนโยบายของสโมสรที่ไม่ตรงกับวิสัยทัศน์ของเลวานดอสฟกีเพิ่มเติ่มอีกด้วย 

มีรายงานในแนว "กอสซิบ" ว่า นอกจากเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ แล้ว เลวานดอฟสกี ยังไม่ค่อยชอบใจที่ บาเยิร์น พยายามเจรจากับ เออร์ลิง ฮาลันด์ กองหน้าของ ดอร์ทมุนด์ ตลอดช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาจนมองข้ามเรื่องการต่อสัญญากับเขาไป กระทั่งถึงวันที่ ฮาลันด์ ประกาศย้ายไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรจึงค่อยกลับมามาเจรจาสัญญากับเขาอีกครั้ง ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เขาไม่พอใจที่ตัวเองกลายเป็นเหมือนกับตัวเลือกสำรองทั้ง ๆ ที่สร้างผลงานยอดเยี่ยมพาทีมประสบความสำเร็จมาโดยตลอด 

"โรเบิร์ตเป็นคนฉลาดมาก ไม่ใช่แค่เป็นกองหน้าที่เก่งที่สุดในโลก เขารู้ดีเลยล่ะว่าอะไรเกิดขึ้นรอบตัวเขาบ้าง และเขาก็รู้สิ่งที่บาเยิร์นวางแผนเอาไว้" ปินี่ ซาฮาวี่ เอเยนต์ของเลวานดอฟสกี ยืนยันเรื่องนี้กับ BILD

"ดังนั้นโรเบิร์ตรู้มาตลอดว่าบาเยิร์นต้องการแทนที่เขาด้วยฮาลันด์ แม้กระทั้งพ่อของเออร์ลิงก็ได้ยืนยันเรื่องนี้ด้วย โดยบอกกับเขาส่วนตัวก่อนหน้านี้ว่า 'การที่ลูกชายของผมจะไปบาเยิร์นมันมีโอกาสอยู่ 50 เปอร์เซ็นต์' โลกฟุตบอลมันใหญ่แต่มันไม่มีความลับหรอกนะ"

นอกจากนี้ เลวานดอฟสกี ที่มีอายุ 33 ปีก็มีความเห็นไม่ตรงกับ โอลิเวอร์ คาห์น ซีอีโอ ที่เพิ่งได้รับตำแหน่งมาเมื่อ 1 ปีก่อน โดยนโยบายของคาห์นคือ ทีมจะเน้นสร้างดาวรุ่ง ซื้อตัวนักเตะที่ราคาไม่สูงมากแต่มีศักยภาพที่จะพัฒนาได้ในอนาคต อาทิในตลาดซัมเมอร์ 2022 ก็ได้ตัว ไรอัน กราเวนเบิร์ช และ นูซาอีร์ มาซารุย จาก อาหยักซ์ อัมสเตอร์ดัม รวมถึงกำลังมีข่าวกับ คอนราด ไลเมอร์ กองกลางจาก แอร์เบ ไลป์ซิก ซึ่งเลวานดอสฟกีก็มองว่าตัวเขาไม่สามารถรอความสำเร็จไปพร้อม ๆ กับดาวรุ่งได้ เพราะอายุการใช้งานของตัวเองเหลือน้อยลงเรื่อย ๆ 

 

เกมโป๊กเกอร์ระหว่าง เลวาน และ บาเยิร์น 

ไม่มีสโมสรไหนอยากเสียจอมถล่มประตูอย่างเลวานดอสฟกีไปแน่นอน และบาเยิร์นเองก็คิดเช่นนั้น เพียงแต่ด้วยกรอบของนโยบายที่ชัดเจนทำให้สโมสรเองก็ไม่สามารถตามใจนักเตะเพียงคนเดียวได้ เพราะอาจจะเสียระบบทั้งหมดที่เคยวางไว้เป็นสิบ ๆ ปี 

รายงานจาก มาร์ก้า เสนอข่าวว่า บาเยิร์น ยอมรับความต้องการของ เลวานดอฟสกี กับการต่อสัญญา 2 ปี แต่ก็ต้องทดแทนด้วยการยอมลดค่าเหนื่อยของตัวเองลง ซึ่งทางฝั่งบาเยิร์นก็พยายามที่จะเจรจากับเลวานดอฟสกีมาตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา 

"เราจะมีโรเบิร์ตอยู่กับเราไปอีก 1 ฤดูกาลแน่นอน เรารู้ดีว่าเรามีอะไรเมื่อพูดถึงตัวเขา และเราก็ไม่ได้ตื่นตระหนกเกี่ยวกับเรื่องนั้น ตอนนี้มันดูเหมือนกับว่ากำลังมีการแข่งกันว่าข่าวลือไหนที่เกี่ยวกับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี จะงี่เง่ามากที่สุด ... การเจรจาจะยังดำเนินต่อไป เราไม่ได้เป็นคนบ้าจนถึงขนาดที่กำลังคุยเกี่ยวกับการขายนักเตะที่ทำประตูให้เรา 30-40 ลูกในทุกฤดูกาลหรอก" คาห์น กล่าว 

ซึ่งในมุมมองของเลวานดอสฟกีคือ สิ่งที่เขาได้รับการเสนอจากต้นสังกัดยังไม่มากพอ เขาและ ปินี่ ซาฮาวี่ เอเยนต์ส่วนตัวจึงรอจนจบฤดูกาล 2021-22 แล้วจึงเริ่มเปิดเผยความต้องการของตัวเองออกมาทีละน้อย จนกระทั่งมาถึงวันที่มีการกระทบกระทั่งกันผ่านสื่อระหว่างฝั่งเลวานดอฟสกีและฝั่งสโมสรที่นำโดย โอลิเวอร์ คาห์น ซึ่งฝ่ายหลังเป็นฝ่ายได้เปรียบเพราะมีสัญญานักเตะอยู่ในมือ ไม่ว่าอยากไรเลวานดอฟสกีจะต้องเล่นให้พวกเขาต่อไปอีก 1 ปีเป็นอย่างน้อยภายใต้สัญญาที่มีอยู่จนจบฤดูกาล 2022-23 (ซีซั่นหน้า) 

ดูเหมือนว่าการแตกหักจะเริ่มเกิดขึ้น เลวานดอฟสกีมีข่าวลือเรื่องการย้ายทีมสะพัดขึ้นทุกวัน จนกระทั่งไม่กี่สัปดาห์ก่อนเลวานดอสฟกีได้ออกมาให้สัมภาษณ์ในเชิงที่ว่าอยากให้สโมสรเข้าใจในมุมมองของเขา แม้เขาจะไม่ได้สัญญาแบบที่เขาต้องการแต่ก็ขอให้ปล่อยเขาไปเล่นกับทีมอื่น ซึ่งทีมที่เป็นข่าวมากที่สุด ณ เวลานี้คือ บาร์เซโลน่า 

"ผมมองไม่เห็นความเป็นไปได้ที่จะลงเล่นกับสโมสรนี้ต่อไป เมื่อดูจากสิ่งที่เราเห็นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา บาเยิร์นคือสโมสรที่ยิ่งใหญ่ ผมหวังว่าพวกเขาจะไม่รั้งผมเพียงเพราะว่าพวกเขาทำได้" เลวานดอฟสกี กล่าว 

จากประโยคด้านบนสื่อให้เห็นถึงความหมดใจและหวังอย่างยิ่งว่าจะได้ย้ายออก แต่ด้วยกรอบของข้อสัญญาที่เคยตกลงกันไว้ ทำให้เลวานดอสฟกีจึงได้แต่เปิดเผยผ่านสื่อต่าง ๆ เท่านั้น โดย ฟลอเรียน เพลตเตนเบิร์ก นักข่าวของ Sky Germany ได้เปรียบเทียบว่ามันเหมือนเป็น "เกมโป๊กเกอร์ระหว่าง เลวานดอสฟกี และ บาเยิร์น" โดยเกมไพ่โป๊กเกอร์นี้ถือเป็นเกมไพ่ที่อาศัยทั้งโชค ศาสตร์แห่งความน่าจะเป็น จิตวิทยา และความเชี่ยวชาญในการเล่นเพื่อที่จะเป็นผู้ชนะ แม้บาเยิร์นจะถือไพ่ดีกว่า แต่ใช่ว่าอีกฝ่ายอย่างเลวานดอสฟกีจะไม่มีโอกาสทำกำไรจากไพ่ที่เขามีอยู่ในมือ 

และถึงแม้โอกาสชนะจะน้อยนิด แต่ที่สุดแล้วเลวานดอสฟกีก็หาโอกาสของตัวเองเจอจนได้ มันคือกฎในตำนานที่เคยเกิดขึ้นจากกรณีศึกษาของนักเตะที่อยากจะย้ายแต่สโมสรไม่อยากจนขาย คล้าย ๆ กับเรื่องของเลวานดอสฟกี และเรื่องทั้งหมดต้องถูกตัดสินบนชั้นศาล กฎที่เป็นไพ่อีกใบของเลวานดอฟสกีมีชื่อว่า "กฎเว็บสเตอร์" 

 

ไพ่ตาย 

"วงในของสโมสรเผยว่า บาเยิร์น มิวนิค กำลังกลัวว่าเลวานดอสฟกี้จะจุดชนวนเรื่องการย้ายทีมไปยังอีกระดับ เขาอาจจะหันไปใช้วิธีการทางกฎหมายที่ไม่มีนักเตะแถวหน้าของโลกคนไหนเคยใช้มาก่อน นั่นคือกฎเว็บสเตอร์" ส่วนหนึ่งจากเนื้อหาข่าวที่ บิลด์ นำเสนอ 

รายงานเพิ่มเติมเปิดเผยว่า บาร์เซโลน่า ที่เป็นข่าวกับ เลวานดอสฟกี้ นั้นกำลังประสบปัญหาทางการเงิน ดังนั้นทีมดังจากสเปนไม่สามารถทุ่มเงินก้อนใหญ่สำหรับค่าตัวนักเตะคนไหนได้ แต่พวกเขาสามารถสู้เรื่องค่าจ้างรายสัปดาห์ได้เพราะเป็นรายจ่ายระยะยาว (ในตรงนี้เราจะขอข้ามเรื่องเพดานค่าเหนื่อยที่ ลา ลีกา ตั้งไว้ ที่หากไม่สามารถลดค่าเหนื่อยนักเตะภายในทีมให้อยู่ในกรอบที่กำหนดก็จะไม่สามารถลงทะเบียนนักเตะใหม่ได้ไว้ก่อน) ซึ่งไม่ตรงตามกับที่บาเยิร์นต้องการ หากพวกเขาจะขายเลวานดอฟสกี เงินจำนวน 20-30 ล้านยูโรถือว่าน้อยเกินกว่าที่พวกเขาคาดหวังไว้เยอะ 

"บาร์เซโลน่าไม่สามารถจ่ายค่าตัวแพง ๆ สำหรับซื้อนักเตะคนไหนได้ แต่ตรงข้ามพวกเขาสามารถให้เงินเดือนสูงได้ มีข้อมูลจากนักข่าวชาวโปแลนด์เผยแพร่ว่า เลวานดอฟสกี้ ได้พูดคุยกับ โอลิเวอร์ คาห์น แล้วเกี่ยวกับการย้ายทีมในการเข้าพบกันเป็นการส่วนตัว" มาร์ค เบห์เรนเบ็ค นักข่าวของ Sky Germany อีกคนเพิ่มเติมข้อมูล 

สัญญาเหลืออีก 1 ปี, ต้นสังกัดก็อยากจะขายในราคาสูง ๆ ขณะที่ทีมที่อยากจะซื้อก็ไม่พร้อมจะจ่ายค่าตัวระดับนั้น สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจึงเป็นเหมือนสูญญากาศที่เลวานดอสฟกีที่อยากจะย้ายออกจากทีมไม่สามารถหาทางไปต่อได้ ... ยกเว้นกฎเว็บสเตอร์กฎเดียวเท่านั้น 

กฎเว็บสเตอร์ ถูกพูดถึงครั้งแรกในช่วงปี 2005-06 จากนักเตะตำแหน่งกองหลังของทีม ฮาร์ตส์ ในลีกสกอตแลนด์ ที่ชื่อว่า แอนดี้ เว็บสเตอร์ โดยตัวของเว็บสเตอร์ได้ใช้กฎนี้เพื่อย้ายไปอยู่กับ วีแกน แอธเลติก ในลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษ ในขณะที่สัญญาที่เขาเซ็นไว้กับฮาร์ตส์เมื่อปี 2001 เข้าสู่ปีสุดท้ายพอดี และเจ้าตัวยืนยันว่าจะไม่ต่อสัญญา

จากสถานการณ์ดังกล่าวคล้าย ๆ กับเคสของเลวานดอสฟกี เนื่องจากฮาร์ตส์ที่ไม่มีทางเลือกและส่อจะเสียนักเตะฟรีในอนาคตได้ยื่นคำขาดว่าถ้าอยากจะได้ตัวเว็บสเตอร์ วีแกน ต้องจ่ายเงิน 5 ล้านปอนด์เป็นอย่างน้อย แต่ วีแกน ก็ไม่มีเงินในคลังมากขนาดนั้น 

เว็บสเตอร์และเอเยนต์ของเขาที่ไม่พอใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เขาถูกสโมสรห้ามซ้อม ถอดออกจากทีมชุดใหญ่ และโดนลงโทษปรับเงินจากการแสดงออกของเขาที่มีต่อสโมสรโดย วลาดิเมียร์ โรมานอฟ เจ้าของทีมเป็นคนที่จัดการเรื่องนี้ ทำให้เว็บสเตอร์และเอเยนต์ตัดสินใจใช้กฎดังกล่าว โดยระบุว่าเขาถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรมที่ฮาร์ตส์ตลอดระยะเวลา 18 เดือนหลังสุด เช่นเขาเคยถูกโรมานอฟสั่งให้แถลงการณ์ขอโทษผ่านสโมสรว่าตัวเองเป็นคนหัวแข็งและอยากจะย้ายทีม นอกจากนี้เขายังถูกทีมทนายความของสโมสรส่งจดหมายข่มขู่อีกหลายฉบับ 

"โรมานอฟต้องการให้ผมอ่านแถลงการณ์เพื่อบอกว่าผมยังเด็ก ไร้เดียงสา โง่เขลา และผมไม่สมควรออกจากสโมสรนี้ ซึ่งผมไม่มีทางทำแบบนั้นเพราะนั่นไม่ใช่ความจริงเลย แต่สิ่งหนึ่งที่ผมยืนยันได้เลยคือการทะเลาะกับสโมสรไม่ใช่เรื่องสนุกหรือเรื่องง่าย ๆ เลย ตลอด 18 เดือนผมรับจดหมายข่มขู่จากทนายความเยอะมาก" เว็บสเตอร์ กล่าวกับ The Scotsman

ที่สุดแล้ว FIFA หรือสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ อนุมัติให้ เว็บสเตอร์ สามารถย้ายทีมได้เมื่อเดือนกันยายน 2006 โดยอ้างกฎข้อที่ 17 ของระเบียบการย้ายทีมและสถานะของนักเตะที่บัญญัติโดย FIFA ว่านักเตะคนไหนก็ตามที่เซ็นสัญญากับทีมในช่วงก่อนอายุ 28 ปีจะสามารถซื้อสัญญาของตัวเองที่เหลือได้หากลงเล่นภายใต้สัญญาฉบับนั้นไปแล้ว 3 ปี ส่วนนักเตะที่เซ็นสัญญาในช่วงอายุ 28 ปีหรือมากกว่าสามารถซื้อสัญญาของตัวเองที่เหลือได้หากลงเล่นภายใต้สัญญาฉบับนั้นไปแล้ว 2 ปี

โดย เว็บสเตอร์ ได้เซ็นสัญญากับ ฮาร์ตส์ ไปเมื่อปี 2001 ตอนที่เขาอายุ 19 ปี และจะหมดอายุสัญญาในปี 2007 ตอนอายุ 25 ปี ซึ่งกรณีดังกล่าวสอดคล้องกับกฎข้อที่ 17 ของฟีฟ่า โดยกฎนี้ถูกใช้เป็นกุญแจดอกสำคัญที่ทำให้เว็บสเตอร์ได้ในสิ่งที่เขาต้องการเมื่อเขาอายุ 24 ปี

อย่างไรก็ตาม ฮาร์ตส์ ได้ฟ้องศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา หรือ CAS ถึงเรื่องเงินชดเชยที่สโมสรควรได้รับจากการฉีกสัญญา เพื่อความเป็นธรรมกับต้นสังกัด โดยตามกฎระบุว่านักเตะจะต้องจ่ายเงินทั้งหมดตามจำนวนสัญญาที่เหลืออยู่ ซึ่งในกรณีของ เว็บสเตอร์ ทางฮาร์ตส์เรียกร้องว่านักเตะมีมูลค่าโดยประมาณที่ 5 ล้านปอนด์ แต่เนื่องจากสัญญามีผลไปแล้วกว่า 3 ปี การขอซื้อสัญญาในระยะ 1 ปีที่เหลือสโมสรควรได้เงินทั้งหมดเท่าไหร่กันแน่

จากการสู้คดีหลังการหาข้อตกลงกันอย่างยาวนาน ในตอนแรก CAS มีคำตัดสินเมื่อเดือนเมษายน 2007 ให้ เว็บสเตอร์ ต้องจ่ายเงินให้กับ ฮาร์ตส์ เป็นค่าซื้อสัญญา 625,000 ปอนด์ ทว่าต่อมาในเดือนมกราคม 2008 CAS ได้ปรับลดจำนวนเงินที่เว็บสเตอร์ต้องจ่ายเหลือเพียง 150,000 ปอนด์

เรียกได้ว่ากว่าจะจบเรื่องนี้ได้ทั้ง 2 ฝั่งก็ยังต้องมาสู้คดีในหัวข้อที่ว่า "ต้องจ่ายเงินชดเชยเท่าไรจึงจะเหมาะสม" ซึ่งในขั้นตอนนี้เว็บสเตอร์ใช้เวลาบนชั้นศาลมากกว่า 2 ปีเลยทีเดียว 

"คดีของเว็บสเตอร์อนุญาตให้ผู้เล่นตัดสินใจได้ว่าใครจะเป็นนายจ้างของพวกเขาในอนาคตหลังจากช่วงเวลาหนึ่ง และหากพวกเขาต้องการมันมีกรณีศึกษาอยูในมือ และมันอาจจะเป็นปัญหาที่ทำให้แต่ละสโมสรต้องมาประเมินกันใหม่อีกครั้งสำหรับกลยุทธ์ในการจัดการกับผู้เล่นเรื่องสัญญาระยะยาวหากพวกเขาอยู่ในสัญญาสี่หรือห้าปีและอยู่ในกลุ่มอายุที่เกี่ยวข้อง ตอนนี้ทางสโมสรอาจต้องเจรจาสัญญาใหม่หลังจากสัญญาเดิมผ่านไปสองปี" โทนี่ ฮิกกินส์ ตัวแทนจากองค์กรนักฟุตบอลอาชีพ FIFPro กล่าว 

เรื่องราวของกฎเว็บสเตอร์อาจจะเกี่ยวพันกับเรื่องราวของ บาเยิร์น และ เลวานดอสฟกี ได้ เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้คล้าย ๆ กัน อย่างไรก็ตามมีข้อสงสัยอยู่เกี่ยวกับกฎนี้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายและสนุกแบบที่ใครหลายคนคิดตามที่เว็บสเตอร์บอก เพราะเขาต้องใช้เวลาอีก 2-3 ปีในการสู้คดีบนชั้นศาล และความยุ่งยากนี้เองอาจจะเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมจนถึงทุกวันนี้ กฎเว็บสเตอร์ จึงถูกใช้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น โดยไม่มีนักเตะอายุมากกว่า 28 ปีคนไหนงัดไม้ตายกฎนี้ออกมาใช้เลย 

โดยในปี 2020 หรือก่อนที่ บาร์เซโลน่า จะประสบกับปัญหาถังแตกก็มีข่าวว่า เนย์มาร์ อาจจะใช้กฎดังกล่าวซื้อสัญญาตัวเองจาก เปแอสเช กลับมาเล่นที่ บาร์เซโลน่า อีกครั้ง ซึ่งสุดท้ายเรื่องนี้ก็ไม่เกิดขึ้นจริงอย่างที่เราทราบกัน

กฎเว็บสเตอร์ เป็นกฎที่ทำให้นักเตะเอาชนะสโมสรได้จริงจากการอ้างอิงในเหตุการณ์เมื่อปี 2006 ทว่าในที่สุดแล้วไม่มีนักฟุตบอลคนไหนอยากใช้เวลาบนชั้นศาลมากกว่าในสนามแข่งแน่นอน พวกเขาจะสูญเสียโฟกัสและต้องรับมือกับการจัดการอะไรหลาย ๆ อย่างที่ตัวเองไม่ถนัด ซึ่งในเคสของเลวานดอฟสกีมีการระบุว่า ปินี่ ซาฮาวี่ กำลังศึกษากฎหมายข้อนี้อย่างละเอียด และแม้จะไม่ได้ยืนยัน 100% จากตัวเอเยนต์ของเลวานดอฟสกีเองว่ากฎเว็บสเตอร์จะถูกเอามาใช้สำหรับนักเตะในการดูแลของเขาครั้งนี้หรือไม่ เรื่องทั้งหมดยังเป็นเรื่องที่สื่อคาดการณ์และเป็นเรื่องของวงในเท่านั้นในตอนนี้  

อีกประการหนึ่งเรื่องราวของ เลวานดอสฟกี และ บาเยิร์น ก็ไม่ได้แตกหักถึงขั้นถูกลดชั้นจากทีมชุดใหญ่ ห้ามเข้าสนาม หรือลงโทษหนัก ๆ แบบที่เว็บสเตอร์ได้เจอกับการงัดข้อกับเจ้าของสโมสร ดังนั้นมันก็มีโอกาสที่การขึ้นศาลด้วยการเอากฎเว็บสเตอร์มาใช้อาจจะไม่ได้ทำให้เขาเป็นผู้ชนะ เพราะมันอาจมีหลักฐานอ้างอิงสำหรับการพิจารณาไม่พอ 

อย่างไรก็ตามอย่างที่ได้เคยเปรียบไว้กับเกมไพ่โป๊กเกอร์ การชิงเหลี่ยม ชิงความได้เปรียบ และทำให้ตัวเองเป็นผู้ชนะจะต้องดำเนินต่อไป อย่างน้อย เลวานดอสฟกี และ บาเยิร์น มิวนิค จะต้องคุยกันอีกยาวพอสมควรสำหรับเรื่องนี้กว่าที่ท้ายที่สุดแล้วเราจะได้รู้ว่าใครกันแน่ที่เล่นเกมโป๊กเกอร์บนโต๊ะนี้ได้เก่งที่สุด 

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.bbc.com/sport/football/61636925
https://www.skysports.com/football/news/11095/12589189/robert-lewandowski-and-bayern-munich-to-hold-talks-asap-over-strikers-future
https://www.fcbarcelonanoticias.com/en/signings/law-could-bring-closer-lewandowski-fc-barcelona_279390_102.html
https://www.theguardian.com/sport/2008/jan/31/rugbyunion
https://international.vlex.com/vid/webster-justified-panic-there-bosman-71214235
https://www.scotsman.com/sport/football/interview-andy-webster-his-hearts-bust-ups-vladimir-romanov-254585
https://www.bild.de/sport/fussball/fussball/bayern-insider-enthuellt-fall-lewandowski-jetzt-droht-vertragsbruch-80285250.bild.html
https://en.wikipedia.org/wiki/Webster_ruling
https://en.wikipedia.org/wiki/Andy_Webster_(footballer,_born_1982)

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

-------------------------------------------------

ดูสด ดูฟรี ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ... พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม
ต้อง App TrueID เท่านั้น โหลดเลย!!

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ << คลิกที่นี่

อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! หรือ กด *301*32# โทรออก

หรือ อัพเดทข่าวบอลไทยลีก กด *301*36# โทรออก

ยอดนิยมในตอนนี้