F1 หรือ Formula1 การแข่งรถลีคสูงสุดบนโลก มีแค่ 10 ทีมทีมละ 2 คน รวม 20 คนเท่านั้นที่จะได้แข่งต่อฤดูกาล แน่นอนว่าการแข่งขันนั้นสูงยิ่งกว่าตะกายดาว ความฝัน ความสามารถ เงินทุน และความอดทนที่จะพานักแข่งมาถึงจุดนี้ได้ เราจะพาไปดูเส้นทางของนักแข่ง F1 ว่ากว่าจะได้แข่งต้องผ่านอะไรกันมาบ้างSandor Foszto จาก Pixabay" />ต้องรวยหรือไม่ถึงจะได้ขับ F1?กว่าที่จะมาถึง F1 นักแข่งเกือบทั้งหมดเริ่มต้นอาชีพนี้ตั้งแต่ 5-7 ขวบ ผ่านการแข่งขันระดับล่างจากโกคาร์ท F4 F3 F2 F1 ตามลำดับ ในแต่ละระดับต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก หรือถ้าเป็นคนที่มีความสามารถมากอาจจะมีทีม Academy รับเข้าทีมหรือมีสปอนเซอร์เข้ามาซึ่งจะช่วยในด้านค่าใช้จ่ายได้บ้างเริ่มที่โกคาร์ท Ralf Schumacher นักแข่งในวงการนี้ได้ออกมาพูดถึงการแข่งคาร์ทว่าต้องใช้เงิน 9 ล้านบาทต่อปี ส่วน Toto Wolff (Team Principal & CEO of the Mercedes) ได้บอกไว้ว่าในกรณีที่เป็นคนฉายแววมาตั้งแต่แรกๆต้องใช้เงินรวมเกือบ 40 ล้านบาทเพียงแค่ในระดับคาร์ท ต่อมาถ้าเก่งจนเข้าไปที่ระดับ F4 ต้องจ่ายประมาณ 14 ล้านบาทต่อปี ขึ้นอยู่กับความสามารถว่าจะใช้เวลานานกี่ปี และเมื่อก้าวสู่ F3 ต้องจ่ายอีก 25 ล้านบาทต่อปี ก็แล้วแต่เช่นกันว่าแต่ละคนจะใช้เวลากี่ปีAndreas จาก Pixabay" />โดยส่วนใหญ่นักแข่งจะมีทีมหรือสปอนเซอร์ก็เสียไปไม่ต่ำกว่า 115 ล้านบาท และไม่ใช่ทุกคนที่จะมาถึงจุดนี้ ต่อมาที่ F2 ค่าใช้จ่ายประมาณ 60-80 ล้านบาทและถ้าจะไปยัง F1 ต้องจ่ายอีก 80-115 ล้านบาท รวมๆแล้วต้องมีเงินไม่ต่ำกว่า 300-550 ล้านบาทเพื่อที่จะขับ F1แล้วต้องทุ่มเทขนาดไหนถึงจะได้ขับ F1?นักแข่งแทบทุกคนใช้เวลากว่า 10 ปีเพื่อการแข่งรถตั้งแต่เด็กจนโต หมดเวลาส่วนใหญ่ไปกับการซ้อมและแข่งขัน คนที่จะมาแข่ง F1 ได้จะต้องเก็บ FIA Super Licence ระหว่างการแข่งในระดับล่างๆมาด้วยเพื่อให้ถึงเกณฑ์การแข่ง และถ้าพูดถึงการฝึกฝน นักแข่งทุกคนต้องมีรีแอคชั่นรวดเร็วเพราะต้องขับที่ความเร็ว 300 km/hr การชนหนึ่งครั้งอันตรายถึงชีวิตได้ อุณหภูมิระหว่างแข่งที่ร้อนยิ่งกว่าสภาพอากาศของประเทศไทยไปมาก อุณหภูมิเฉลี่ยเกิน 50 องศาเซลเซียสตลอดการแข่งขัน รวมถึงขณะแข่งขันนักแข่งยังต้องรับแรง G ที่มากกว่าทั่วไปถึง 5 เท่า หลายคนอาจสงสัยว่าแรง G คืออะไร? มันก็คือแรงโน้มถ่วงของโลกที่ยึดทุกสิ่งไว้กับพื้นผิวโลก โดยปกติหากเราจอดรถอยู่กับที่หรือขับรถด้วยความเร็วทั่วไป แรง G จะเท่ากับหนึ่งหรือ 1G ซึ่งมีค่าเท่ากับน้ำหนักของวัตถุนั้น แต่เมื่อเบรคแรง G จะเพิ่มขึ้น นักแข่ง F1 ซึ่งแข่งรถที่มีความเร็วสูงขณะเบรคเพื่อเข้าโค้งหรือเบรคในกรณีต่างๆ จะมีแรง G ถึง 5-6 เท่า หากเปรียบเทียบง่ายๆ บนเครื่องเล่นรถไฟเหาะตีลังกาจุดที่พีคสุดที่บันทึกได้คือ 4 เท่า ขณะที่นักแข่งจะเกิดแรง G 5-6 เท่าแทบจะตลอดเวลาเนื่องจากสนามหนึ่งๆมีโค้งเกือบ 20 โค้ง ขับวนเกือบ 60 รอบ รวมแล้วต้องเข้าโค้งเกือบๆ 1,200 รอบ https://youtu.be/CE-r2dY2OlE?si=RLj82nccQTZgI9UWเครดิตภาพภาพปก Pexels ภาพถ่ายโดย PRAT clementภาพที่1 Pixabay Image by Sandor Fosztoภาพที่2 Pixabay Image by Andreasภาพที่3 Pexels ภาพถ่ายโดย Charles-Emmanuel LambertเครดิตVDOVDOที่1 ช่อง Pit Stop ชื่อคลิป F1 Drivers Reveals EXHAUSTING Formula 1 Workout Routines ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !