เรื่องราววุ่น ๆ ของ ลิเวอร์พูล เกี่ยวกับนักเตะอย่าง โมฮาเหม็ด ซาร์ลา ที่ได้รับความสนใจจาก อัล อิติฮัดสโมสรจากลีกซาอุดิอาระเบีย ยังคงไม่จบลงง่าย ๆ แม้ว่าตลาดพรีเมียร์ลีกจะปิดลงอย่างเป็นทางการ แต่ทางฝั่งซาอุดิอาราเบียยังเหลือเวลาอีกกว่าหนึ่งสัปดาห์ อีกทั้งยังข้อเสนอของอัล อิติฮัดจาก 100 ล้านปอนด์ (126 ล้านดอลลาร์) อาจเพิ่มขึ้นเป็น 150 ล้านปอนด์ เพื่อหวังได้ดาวยิงรายนี้ไปร่วมทีม ไม่ซึ่งนั่นหมายความว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ล่าสุดยังมีข่าวว่า โมฮาเหม็ด ซาร์ลาก็เข้ารับรายงานตัวกับทีมชาติอียิปต์ล่าช้าสองวัน ซึ่งถูกจับตามองว่าอาจจะมีอะไรในกอไผ่กับเรื่องนี้หรือเปล่า แต่ที่แน่ ๆ หากในอนาคตไม่มีคิงส์โมแล้ว ลิเวอร์พูล จะเป็นอย่างไรต่อในอนาคต พอมานั่งนึก ๆ ดูมันก็มีทั้งผลร้ายและผลดีกับสโมสรรวมถึงนักเตะที่จะถูกสร้างในอนาคตไม่น้อย เผลอ ๆ อาจจะมีผลดีมากกว่าผลร้ายซะอีก จะพาไปแถลงไขกับเรื่องราวที่ว่า “หากลิเวอร์พูล ไร้ซึ่ง โมฮาเหม็ด ซาร์ลา จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง”ผลร้ายโดยตรงเมื่อไม่มี คิงส์โมอันดับแรกที่จะส่งผลกระทบโดยตรงคือเรื่องเกมรุกฝั่งขวาที่เป็นตำแหน่งประจำของดาวยิงรายนี้ หลายคนคงเห็นความสามารถของ โมฮาเหม็ด ซาร์ลา ในการไปกับบอลได้ดี ความเร็ว การผ่านบอลเพื่อทำประจำ การเลี้ยงกินตัว ด้วยคุณสมบัติที่ว่ามาจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่านี่คือคีย์แมนเกมรุกที่จะขาดไม่ได้ ด้วยผลงานยิงไป 30 ประตู 16 แอสซิสต์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว อีกทั้งยังกลายเป็นดาวยิงตลอดการของทีมตลอด 4 ฤดูกาลล่าสุดเป็นไปได้ยากที่ลิเวอร์พูลนั่นจะหานักเตะที่มีคุณสมบัติครบถ้วนแบบนี้มาทดแทนได้ หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ โมฮาเหม็ด ซาร์ลา ยังอยู่กับทีมก็คือเรื่องของเวลาที่กระชั้นชิดนี่แหละ ทำให้หานักเตะมาทดแทนได้ไม่ทันในตำแหน่งนี้ ไม่อย่างนั้นคงได้ไปตาม จอร์แดน แฮนเดอร์สัน และ ฟาบิญโญ่แน่นอน อย่าลืมว่าด้วยค่าตัวกว่า ร้อยล้าน หรือมากกว่านั้นมันเป็นราคาที่คุ้มค่ากับนักเตะวัย 31 ปีหากนำเหตุการณ์นี้ไปเที่ยวกับตอนที่ไม่มี ซาดิโอ มาเน่ อาจจะไม่ร้ายแรงเท่า เพราะอย่างน้อยตอนนั้นก็ยังไม่ หลุยส์ ดิอาซ มาร่วมทัพและผลงานก็ไม่ได้แย่ แต่มันก็ไม่ถึงกลับเปรี้ยงปร้างเหมือนตอนที่มี ซึ่งหากในอนาคตไม่มี โมฮาเหม็ด ซาร์ลา ลิเวอร์พูลอาจจะเผชิญกับเหตุการณ์ที่หนักกว่านั้นมาก สาเหตุก็เพราะดาวยิงที่มีในมือไม่มีใครเล่นตำแหน่งหน้าขวาโดยธรรมชาติได้สักคน อีกทั้งคุณสมบัติไปกับบอลได้ดียังไม่มีให้เห็น แต่เรื่องความเร็วยังมีมีคนที่ไว้ใจได้พลิกวิกฤติเป็นโอกาส กำเนิด DDLแน่นอนว่าหากในอนาคตไม่มีศูนย์หน้าชาวอียิปต์ อาจจะมีต้องเล่นด้วยไพ่ในมือที่มีแบบไม่มีทางเลี่ยงได้ โดยสี่ จตุรเทพหน้าใหม่ของหงส์แดงที่ประกอบไปด้วย หลุยส์ ดิอาซ , โคดี กัคโป ,ดิเอโก โชวตา และ ดาร์วิณ นูเนซ ก็ต้องหาสูตรที่ลงตัวและหากคาดการ์ด้วยฟอร์มการเล่นนาทีสามแดนหน้าตัวจริงคงหนีไม่พ้น หลุยส์ ดิอาซ ฝั่งซ้าย ดิเอโก โชวตา ตรงกลาง ดาร์วิณ นูเนซ ฝั่งขวา ซึ่งอาจะได้ตำนานใหม่ที่ชื่อ DDL ขึ้นมาใหม่ก็เป็นไปได้นับตั้งแต่เริ่มปรีซีซั่นหากเทียบสองดาวยิงใหม่ระหว่าง โคดี กัคโป และ ดาร์วิณ นูเนซ รายหลังดูจะมีคุณสมบัติครบครันและปรับตัวเข้ากับระบบได้ดีกว่า ยิ่งในสองเกมล่าสุดหากจะบอกว่าเป็นสองเกมที่พิสูจน์ฝีเท้าของเจ้าตัว พร้อมทั้งยกระดับขึ้นมาอีกขั้นก็คงไม่ผิดอะไร อาจจะด้วยเหตุผลที่ว่าได้เล่นหน้าซ้ายสลับกับโมฮาเหม็ด ซาร์ลา เป็นครั้งคราว ไม่ได้โดยจับให้เล่นเป็นหน้าเป้าเหมือนกับตอนที่ย้ายเข้าใหม่ ๆ ก็เป็นได้ทางฝั่งของ โคดี กัคโป ที่ถูกจับมาเล่นเป็นกองกลางผลงานกลับไม่ได้สวยหรูอย่างที่ตั้งใจ อีกทั้งยังดูสับสนกับตำแหน่งที่ถนัดอีกด้วย จึงถูกจับสำรองในเกมล่าสุด หากมองแบบไม่มีอคติใด ๆ ก็ถือว่าทำในสิ่งที่ถูกต้องในเมื่อเล่นไม้ได้หรือไม่ใช่ตำแหน่งที่ตัวเองถนัด ก็ต้องยอมสำรองเพื่อรอโอกาสที่จะได้ลงในตำแหน่งที่ใช่สำหรับตนเพื่อผลงานที่ออกมา ดีกว่าที่จะดันทุรังและก็พังไปซะอย่างนั้นปัญหาที่ต้องเจอและหลีกเลี่ยงไม่ได้ในแดนหน้าปัญหาที่จะต้องเจอแน่ ๆ ก็คืออาการบาดเจ็บของ ดิเอโก โชวตา และ หลุยส์ ดิอาซ สองแนวรุกสำคัญ เพราะจะเห็นได้ว่าตั้งแต่ที่ย้ายมาร่วมทีมนี่คือสองนักเตะแนวหน้าที่เจ็บบ่อยและนานที่สุด สาเหตุก็อาจจะด้วยสไตล์การเล่นของทั้งสองราย ที่เป็นตัวคอนโทรลบอลแดนหน้า ลากเลื้อยและเข้าทำ นั่นจุงไม่อาจะเลี่ยงได้กับการตัดฟลาว์ที่หนักหน่วง จนนำมาสู่อาการบาดเจ็บได้ หากเกิดปัญหาว่าเจ็บขึ้นมาพร้อมกันของทั้งสองราย ก็ไม่ใช่ว่าลิเวอร์พูลจะไม่มีทางออกเพราะตัวของ เจอร์เกน คลอปป์ เองก็ได้เตรียมนักเตะมากความสามารถที่มีทั้งความเร็ว ความแข็งแกร่ง อายุน้อยไว้อยู่แล้วนั่นก็คือเจ้าหนู เบน โด๊ก เด็กเทพที่ซื้อตัวมาตอนอายุ 15 ปี ด้วยค่าตัว 600,000 ปอร์น แต่มาเพียงแค่สองฤดูกาลกลับได้ประเดิมตัวจริงซะอย่างนั้น แถมยังได้รับคำชื่นชมรวมถึงคำวิจารณ์ไปในทางบวกอย่างมากมาย ได้โอกาสลงเล่นในพรีเมียร์ลีกครั้งแรกในเกมเยือนแอสตันวิลล่าในวันบ็อกซิ่งเดย์ และลงเล่นทั้งหมด 5 เกมภายใต้การคุมทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ ระหว่างฤดูกาล 2022-2023 ซึ่งตำแหน่งของเจ้าหนูรายนี้คือหน้าขวา ใช่แล้วมันคือตำแหน่งเดียวกับคิงส์โมนี่แหละ ฉะนั้นหากจะแก้ปัญหา เมื่อดิเอโก โชวตา และ หลุยส์ ดิอาซ เจ็บพร้อมกันก็ยังสามารถปรับเป็น ให้ โคดี กัคโป ยืนฝั่ง ขวา ดาร์วิณ นูเนซ ยืนกลาง แล้วให้ เบน โด๊ก ยืนฝั่งซ้าย แม้ว่าอาจจะไม่เเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขนาดนั้น แต่ในเกมบอลถ้วยที่เจอคู่แข่งไม่ได้แข็งมาก สูตรนี้ก็ควรอย่างยิ่งที่จะนำมาใช้ เพื่อขัดเกลาดาวรุ่งเพื่อไว้ใช้งานในอนาคตแม้ว่าเหตุการณ์ย้ายทีมของ ลิเวอร์พูล ยังไม่มีอะไรแน่นอนจนกว่าจะผ่านสัปดาห์นี้ไป มาถึงตรงนี้เชื่อว่าถึงไม่มี โมฮาเหม็ด ซาร์ลา หงส์แดงก็ยังคงความน่ากลัวได้เสมอ เพราะด้วยขุมกำลังสำรองที่ได้ตระเตรียมไว้ตั้งแต่ช่วงตลาดหน้าหนาวเมื่อต้นปี และเหล่านักเตะที่ได้มาร่วมทีมก็เริ่มปรับตัวได้บ่างแล้ว รวมถึงดาวรุ่งที่มีในมือที่ไม่ใช่แค่เอามาเพื่อนั่งสำรอง แต่เอามาเพื่อใช้งานจริง ๆ ก็ยังสามารถทดแทนกันได้ ฉะนั้นหากปล่อยคิงส์โมไปจริง ได้ค่าตัวสัก 150 ล้านปอร์นตามที่มีรายงวานออกมา มันก็คุ้มที่จะใช้เงินนี้สรรหานักเตะตลาดหน้านาวในอีกสี่เดือนข้างหน้าก็ได้ข่าวที่เกี่ยวข้องเจาะ 4 ประเด็นหลังเกม ลิเวอร์พูล เก็บสามแต้มส่องแผน ลิเวอร์พูล ก่อนปะทะ แอสตันวิลล่า ในวันที่แผงหลังเดี้ยงส่องสถิติ ลิเวอร์พูล ดับ สเปอร์ส หลังเกมพรีเมียร์ลีกที่สุดจะเหลือเชื่อรุ่งหรือร่วง? โคดี้ กัคโป กับตำแหน่งใหม่ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2023-2024มัดรวม 5 นักเตะเป้าหมายลิเวอร์พูล ไล่ล่าความสำเร็จในพรีเมียร์ลีกสิ่งที่ ลิเวอร์พูล ต้องรีบแก้ไข หากอยากไปถึงแชมป์พรีเมียร์ลีกhttps://sport.trueid.net/detail/08PvwKNEwVqyเครดิตภาพปก premierleague.com:: ภาพปกเครดิตภาพประกอบ premierleague.com:: ภาพที่1 , ภาพที่ 2 , ภาพที่ 4 , ภาพที่ 5 , ภาพที่ 6 , ภาพที่ 7 , ภาพที่ 8 , ภาพที่ 9 , twitter.com/LFC :: ภาพที่ 3 ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !