สิ้นเสียงนกหวีด ที่ มิวนิค ฟุตบอล อารีน่าในเกมที่ สเปน พบ ฝรั่งเศส ปรากฎว่าสเปนเป็นฝ่ายคว้าชัย เหนือทัพตราไก่ ฝรั่งเศสไปด้วย ผลสกอร์ 2 ประตูต่อ 1 และเข้าไปชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโร 2024 เป็นทีมแรกได้สำเร็จ และรอพบผู้ชนะระหว่างขวัญใจมหาชนชาวไทย สิงโตคำราม อังกฤษ กับ กังหันลมสีส้ม ฮอลแลนด์ ในเกมนี้ มีอะไรให้พูดถึงบ้างเราลองไปดูกันครับ1.รูปเกมที่แปลกไปของฝรั่งเศส และ ความสม่ำเสมอ ของ สปน เริ่มต้นไลน์อัพเกมนี้ ผมเชื่อว่า แฟนบอลหลายคนจะต้องแปลกใจที่เห็น ฝรั่งเศส ขนผู้เล่นมาลงเล่น ในระบบ 4-3-3 โดย เลือก เอ็มบับเป้ ,มูอานี่ และ เดมเบเล่ มาเป็นตัวรุกในแดนหน้า ในขณะที่แดนหลัง และแดนกลางไม่เปลี่ยนไปมากนัก นอกจากถอดแค่กรีซมันออกไป และใส่ราบิโอ มาแทนคามาวิงก้า ในขณะที่สเปน มีการปรับหมากเนื่องจาก มีนักเตะติดโทษแบน ในแดนหลังจึงต้องส่ง ลาปอร์ต และ นาบาส มาประจำการ และแดนกลางปรับโอโม่ ลงมาแทน เปดรี้ ที่จบทัวร์นาเมนต์นี้ไปเพราะอาการบาดเจ็บ ในขณะที่แนวรุก ยังคงเป็น ลามาล โมราต้า และ วิลเลี่ยมส์ เขี่ยลูกเริ่มเกมมา เป็นทัพตราไก่ ที่ดาหน้าบุกหวังเผด็จศึก แล้วก็มาทำได้สำเร็จจริง ๆ ในนาที 8 จาก แอสซิสต์ฝั่งซ้ายของ เอ็มบัปเป้ ที่บรรจงหยอดให้ มูอานี่ โขกเข้าเสาสองไปอย่างสวยงาม แต่สุดท้ายแล้ว กลับเป็นสเปนที่กลับมารัวแซงได้ ด้วย 2 ประตูจาก เจ้าหนูวัย 16 ยามาล และประตูความสามารถเฉพาะตัวของ โอลโม่ ถีบฝรั่งเศสตกรอบไปว่ากันแล้ว ถ้าตามหน้าเสื่อ เกมนี้ทุกคนคาดว่า น่าจะเป็นสเปนที่น่าจะกดใส่ ตราไก่ แต่แรก แล้วตราไก่อาจจะใช้ ความเหนียวความเก๋าเบียดเอาชนะไปได้ แต่กลับกลายเป็นว่า เมื่อเริ่ม ทัพตราไก่ กดใส่ สเปนตั้งแต่ช่วงแรก จนได้ประตูขึ้นนำ และหลังจากนั้น ก็มีโอกาสหลายครั้งที่จะขึ้นนำสเปนด้วยซ้ำ แต่เมื่อทำไม่ได้ และถูกสเปนแซงรัว นั่นทำให้ตราไก่ ของเดสชองก์ ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ ลำบากทันที เนื่องจาก รูปแบบการเล่นของฝรั่งเศส ในทัวร์นาเมนต์นี้ มักจะเน้น การต่อบอลที่แน่นอน และจะบุก เมื่อจำเป็นต้องบุกเท่าน้ัน เรียกว่า บางครั้งเน้นความแน่นอน แล้วอาศัยจังหวะโต้ จนน่าเบื่อ เหมือนกับที่เราดูอังกฤษ ยังไงอย่างนั้น เมื่อต้องกลับมาถูกนำ ด้วยทีมอย่างสเปน ที่มีความสมดุลทั้งเกมรุกและรับ ก็ลำบากไม่น้อย เมื่อต้องทำในสิ่งที่ไม่ถนัด คือดาหน้าบุก เพื่อหวังประตู ผมไม่รู้ว่า เดสชองก์ เห็นอะไร ในทีมชุดนี้ ถึงเลือกกลยุทธ์ การเล่นแบบนี้ เมื่อต้องเล่น ในรูปแบบที่ไม่คุ้นเคย ฝรั่งเศส จึงต้องพ่ายแพ้ไปในที่สุดในเกมนี้ ฝรั่งเศสไม่ดีพอ หรือ ถึงจุดอิ่มตัว เป็นเรื่องที่ เดสชองก์ต้องครุ่นคิดต่อไปดู EURO 2024 ฟรีที่ทรูไอดี และเชียร์สนุกกว่า เมื่อดูผ่าน TVS Now package รับทรูพอยท์ และพบกับนักพากย์ชั้นนำระดับประเทศ ที่ชาวบอลคุ้นเคย2.ฟอร์มนักเตะ และ Teamwork ถ้าจะพูดถึง ความเป็นทีม ใครๆคงต้องยอมรับว่า นาทีสเปน น่าจะมาเป็นที่ 1 ของทัวร์นาเมนต์เลยก็ว่าได้ เด ลา ฟูเอนเต้ เข้ามาไขทีม กระทิงดุชุดนี้ ให้มีทั้งความดุดัน ในเกมรุก ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ปล่อยให้เกมรับที่เคยเสียประตุง่ายเป็นปัญหา และที่สำคัญ ยังคงคอนเซปต์ ของสเปน ให้เป็นมีฟุตบอลทีมี ระบบทีมเวิร์ค ได้เหมือนที่ผ่านๆมา ซึ่งเมื่อเทียบกับ ทัพตราไก่ แล้ว ก็ต้องบอกว่า แตกต่างกันค่อนข้างมาก ทีมของเดสชองก์ทีมนี้ เหมือนจะเล่นแบบไม่รู้ใจกัน หลายครั้งที่ผมเห็น ต้องหวังพึ่งเอ็มบัปเป้ หลายครั้งที่เห็นกรีซมัน จ่ายบอลแบบเพื่อนหลังหักไปหลายครั้ง ทำให้รู้สึกว่า ทัพตราไก่ครั้งนี้ มีปัญหาเรื่องระบบทีม แต่จะว่าไปจะบอกว่าเป็นแค่ เพราะทีมเวิร์คอย่างเดียวก็คงไม่ถูกซะทีเดียว เพราะความจริงอีกหนึ่งอย่างคือฟอร์มผู้เล่นก็มีส่วนสำคัญมากๆ เพราะนักเตะกระทิงดุ หลายคน ที่ดูแล้ว ไม่น่ามีพิษสง กลับโชว์ฟอร์มได้ดี ในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น โรดรี้ เปดรี้ โมราต้า ที่ทำได้ตามมาตรฐาน ไหนจะมี ฟาเบียน รุยส์ ยามาล วิลเลี่ยมส์ และโอลโม่ ที่จี๊ดจ๊าดเกินห้ามใจ รวมถึงแผงหลังก็อยู่ในมาตรฐานดี แม้กระทั่งคูคูเรย่า แต่เมื่อหันกลับมามองที่ ฝรั่งเศส หลายคน ฟอร์มตก จนเงียบไป น่าหายใจ ที่เห็นชัดที่สุด ก็คงจะเป็น กรีซมัน ที่หายไปดื้อๆ เอ็มบัปเป้ ไม่ถึงกับแย่ แต่ก็ยังห่าง มาตรฐานตอนบอลโลกอีกมาก แม้แต่ ชูอาเมนนี่ ที่มีโอกาสสับไกล นับสิบครั้ง แต่ไม่เคยเปลี่ยนเป็นประตูได้ เทียบกันแล้วสเปนก็ดีกว่าเห็น ๆ3.เอ็มบัปเป้ ถ้าก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มต้นขึ้น ใครก็คิดว่า พี่เป้ของเรา ว่าที่ นักเตะรีลมาดริด น่าจะเฉิดฉายแสง และอันตราย ในยูโรหนนี้ ได้ไม่ยาก ไม่แตกต่างกับฟุตบอลโลก ครั้งที่ผ่านมาเลยใช่ไหมครับ แต่เรื่องนี้มันน่าจะเกิดการผิดคิว ตั้งแต่นัดแรกที่ พี่เป้ ดั้งจมูกหัก นั่นทำให้เกิดอาการบาดเจ็บ แม้ว่าจะยังสามารถ กลับมาเล่นต่อได้ ในเกมถัดๆไป แต่ผมเชื่อว่า มันอาจเกิดความกังวลในใจบ้างที่ต้องเคลื่อนไหว และอาจจะรู้สึกไม่ถนัดเมื่อต้องสวมใส่อุปกรณ์ ตามที่พี่เป้ว่า ไหนจะต้องแบกรับ ความเป็นกัปตันที่ เดสชองก์มอบให้ และกลยุทธ์ที่หวังพิงพาเขามากไป องค์ประกอบเหล่านี้ ทำให้เขาเล่นผิดฟอร์มในบางนัด ในขณะที่บางนัด ก็ตะบี้ตะบัน เหมือนจะต้องการทำประตูให้ได้ เล่นด้วยความไม่ผ่อนคลาย จนส่งผลต่อผลงานของเจ้าตัว4.ยามาล คงจะไม่ต้องอวยกันมาก ถึงความเก่งกาจของ เจ้าหนู ลามีน ยามาล น้องเขาก็มีความสามารถมาก และเป็นหนึ่งในนักเตะมหัศจรรย์ ที่เราได้เห็นเขาโลดแล่นมาเป็นประจำทุกสัปดาห์ในลาลีก้า อยู่แล้ว แต่เรา ต้องไม่ลืมว่า นี่คือทัวร์นาเมนต์ ระดับทวีป ที่เด็กวัย 16 ปี ได้ไปโลดแล่น ติดทีม แค่นั้นยังไม่พอ ยังมีโอกาสได้ลงตัวจริง มีส่วนร่วมกับเกม จนถึงขนาด แอสซิสต์ ได้ ยิงประตูได้ ท่ามกลาง นักเตะที่เรียกได้ว่า สุดเขี้ยวของโลกเลยทีเดียว แต่น้องยังทำได้ขนาดนี้ ต้องขอชื่นชม จริงๆครับ ว่าน้องเก่งจริงๆ ขอแค่รักษามาตรฐานไว้ บัลลงก์ดอร์ ในอนาคต น้องต้องได้ ถ้ายังไม่รู้ว่าน้องเก่งแค่ไหน ทุกท่านลองนึกดูครับว่า ตอนเราอายุ 16 ปี เราทำอะไรกันอยู่ครับ ถ้าถามผม ก็ต้องบอกเลยว่า ยังโดดเรียนไปเตะบอล หนึ่งหลังออกอยู่เลย พูดแล้วก็ขำนะครับเอาละครับ เรียกว่าหอมปากหอมคอ วันนี้ขอจบเพียงเท่านี้ ถ้าชอบบทความนี้ ช่วยกันกดไลค์ กดแชร์เป็นกำลังใจให้หน่อยครับ ผมจะได้มาเขียน บทความที่สนุกสนานแบบนี้อีก#TrueID #ทรูไอดี #ยูโร2024 #TrueVisionsNow #Euro2024 #UefaEuro2024 #ถ่ายทอดสดยูโร2024#Football #ไฮไลท์ฟุตบอล #ดูบอลสด #วิเคราะห์บอล#รองเจแนะนำสิ่งดีๆภาพประกอบโดย Selección Española Masculina de Fútbol(สหพันธ์ฟุตบอลสเปน) : ภาพปก / UEFA EURO 2024 - Official : ภาพที่ 2,ภาพที่ 3 คิลิยาน เอ็มบัปเป้,ภาพที่ 4 ลามีน ยามาล แมนออฟเดอะแมตช์ / FFF (สหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศส) : ภาพที่ 1 𝑫𝑬𝑴𝑰-𝑭𝑰𝑵𝑨𝑳𝑬 de l’Euro 2024 👊 Ce soir, à 21h00 sur TF1 📺 ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !