"เดิมพันแชมป์ยุโรป! เรอัล เบติส ดวล เชลซี ในศึกยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก 2024/25 นัดชิงชนะเลิศ" คืนวันพุธที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ณ สนามวรอคลอว์ สเตเดี้ยม ประเทศโปแลนด์ เตรียมพบกับบทสรุปของศึกฟุตบอลยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก ฤดูกาล 2024/25 เมื่อสองทีมชั้นนำจากคนละลีกอย่าง "โลสเบร์ดิบลังโกส" เรอัล เบติส ตัวแทนจากลา ลีกา สเปน โคจรมาพบกับ "สิงห์บลูส์" เชลซี จากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในนัดชิงชนะเลิศ เกมสำคัญที่เดิมพันด้วยถ้วยแชมป์ยุโรป ถ่ายทอดสดทาง beIN SPORTS 3 แฟนบอลตัวจริงห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง! ความพร้อมล่าสุดของ เรอัล เบติส (ลา ลีกา สเปน) ทัพ "โลสเบร์ดิบลังโกส" ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้อย่างน่าประทับใจด้วยการเฉือนชนะ ฟิออเรนตินา ในรอบรองชนะเลิศด้วยสกอร์รวม 4-3 อย่างไรก็ตาม ความกังวลหลักของมานูเอล เปเยกรินี่ในเกมนี้คือปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายราย ไม่ว่าจะเป็น เฮคเตอร์ เบเยริน, ดิเอโก้ โยเรนเต้, มาร์ก โรคา และ ชิมี่ อาบีลา ที่จะหมดสิทธิ์ลงสนามแน่นอน ขณะที่ จิโอวานนี่ โล เซลโซ และ ฟราน วิเอเตส ต้องรอเช็คความฟิตอีกครั้งก่อนเกม คาดการณ์ 11 ตัวจริง เรอัล เบติส (ระบบ 4-2-3-1) เอเดรียน (GK) ยูซุฟ ซาบาลี, มาร์ค บาร์ตรา, นาธาน, ริคาร์โด้ โรดริเกซ - จอห์นนี่ คาร์โดโซ, ปาโบล ฟอร์นัลส์ - แอนโธนี่, อิสโก้, อับเด้ เอซซัลซูลี - เซดริก บากัมบู ความพร้อมล่าสุดของ เชลซี (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ) "สิงห์บลูส์" ทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศตามความคาดหมายด้วยการถล่ม เยอร์การ์เดน ด้วยสกอร์รวม 5-1 ในรอบรองชนะเลิศ เชลซีมีขุมกำลังที่ค่อนข้างสมบูรณ์พร้อมสำหรับเกมนัดชิงชนะเลิศนี้ แม้จะยังขาด เวสลีย์ โฟฟานา ปราการหลังชาวฝรั่งเศสที่เจ็บยาว แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดทัพมากนัก ขณะที่ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู และ มาร์ก กิอู เป็นสองผู้เล่นที่ต้องทดสอบความฟิตอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ข่าวดีคือ นิโคลัส แจ็คสัน ที่ได้พักมา 2 เกมในลีกเนื่องจากติดโทษแบน พร้อมกลับมาประจำการเป็นหัวหอกตัวเป้าล่าตาข่ายให้กับทีม คาดการณ์ 11 ตัวจริง เชลซี (ระบบ 4-2-3-1) โรเบิร์ต ซานเชซ (GK) มาร์ก กูกูเรญ่า, ลีวาย โคลวิลล์, เทรโวห์ ชาโลบาห์, รีซ เจมส์ - มอยเซส ไคเซโด้, เอ็นโซ่ เฟร์นานันเดซ - เปโดร เนโต้, โคล พาลเมอร์, โนนี่ มาดูเอเก้ - นิโคลัส แจ็คสัน สถิติการพบกันของทั้งสองทีม (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก) 2 พฤศจิกายน 2005 : เรอัล เบติส 1-0 เชลซี 20 ตุลาคม 2005 : เชลซี 4-0 เรอัล เบติส ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด (รวมทุกรายการ) เรอัล เบติส : ฟอร์มไม่สู้ดีนัก โดยเฉพาะในลา ลีกา ที่ไม่ชนะใครเลยใน 4 นัดหลังสุด มีเพียงผลเสมอเป็นส่วนใหญ่ และแพ้ 1 นัด อย่างไรก็ตาม พวกเขาแสดงให้เห็นถึงความเหนียวแน่นในยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก รอบรองชนะเลิศที่บุกไปเสมอฟิออเรนติน่าได้ถึง 2-2 24 พฤษภาคม 2568 : เสมอ บาเลนเซีย 1-1 (เหย้า) ลา ลีกา 19 พฤษภาคม 2568 : แพ้ แอต.มาดริด 1-4 (เยือน) ลา ลีกา 16 พฤษภาคม 2568 : เสมอ บาเยกาโน่ 2-2 (เยือน) ลา ลีกา 12 พฤษภาคม 2568 : เสมอ โอซาซูน่า 1-1 (เหย้า) ลา ลีกา 8 พฤษภาคม 2568 : เสมอ ฟิออเรนติน่า 2-2 (เยือน) ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก เชลซี : กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มดี เก็บชัยชนะได้ถึง 4 จาก 5 นัดหลังสุด โดยเฉพาะชัยชนะเหนือทีมใหญ่อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะแพ้เพียงนิวคาสเซิ่ลไป 0-2 ก็ตาม 25 พฤษภาคม 2568 : ชนะ ฟอเรสต์ 1-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก 17 พฤษภาคม 2568 : ชนะ แมนยูไนเต็ด 1-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก 11 พฤษภาคม 2568 : แพ้ นิวคาสเซิ่ล 0-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก 8 พฤษภาคม 2568 : ชนะ เยอร์การ์เดน 1-0 (เหย้า) ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก 4 พฤษภาคม 2568 : ชนะ ลิเวอร์พูล 3-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก บทวิเคราะห์ นี่คือคู่ชิงในฝันของรายการยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก เพราะทั้งสองทีมต่างเป็นตัวเต็งที่มีภาษีดีกว่าทีมอื่น ๆ ตลอดเส้นทาง แม้ว่าเชลซีอาจมีเส้นทางที่ดูง่ายกว่าเล็กน้อยในช่วงที่ผ่านมา แต่การพบกับเรอัล เบติส ในรอบชิงชนะเลิศนี้จะเป็นบททดสอบที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย เกมนี้คาดว่าจะเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดและไม่มีใครยอมใคร เรอัล เบติส ภายใต้การคุมทีมของมานูเอล เปเยกรินี่ เน้นการต่อบอลบนพื้นอย่างแม่นยำ และใช้ความสามารถเฉพาะตัวของปีกทั้งสองข้างอย่าง แอนโธนี่ และ อับเด้ เอซซัลซูลี ในการโจมตีจากด้านข้าง รวมถึงการสร้างสรรค์เกมจากแนวรุกที่มี อิสโก้ เป็นหัวใจสำคัญ ขณะที่ เชลซี ของเอ็นโซ มาเรสก้า มีจุดเด่นอยู่ที่การเล่นเกมสวนกลับที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยใช้ความเร็วของปีกอย่าง เปโดร เนโต้ และ โนนี่ มาดูเอเก้ เป็นตัวขับเคลื่อนเกมรุก และมี โคล พาลเมอร์ เป็นเพลย์เมกเกอร์คอยสร้างสรรค์โอกาสเข้าทำให้กับกองหน้าตัวเป้าอย่าง นิโคลัส แจ็คสัน ที่กำลังฟิตเต็มที่และกระหายการทำประตู แม้ว่าเชลซีจะดูมีภาษีเหนือกว่าเล็กน้อยในแง่ของขุมกำลังและฟอร์มการเล่นในปัจจุบัน แต่เรอัล เบติสก็เป็นทีมที่มีประสบการณ์และวินัยสูง การที่พวกเขาเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ แสดงให้เห็นถึงคุณภาพที่ไม่ธรรมดา เกมนี้จึงมีโอกาสสูงที่จะเป็นไปอย่างสูสี และอาจจะจบลงด้วยผลเสมอในเวลา 90 นาที ก่อนที่จะไปตัดสินกันในช่วงต่อเวลาพิเศษ หรือแม้กระทั่งการดวลจุดโทษ คาดเดาสกอร์: เรอัล เบติส 1-1 เชลซี (เสมอในเวลา 90 นาที) เครดิตรูปภาพ x.com/UEFA Conference League พื้นหลัง รูป5 x.com/Real Betis Balompie รูปปก1 รูป1 รูป4 x.com/Chelsea FC รูปปก2 รูป2 รูป3 ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !