ครั้งเริ่มแรกที่มีคนถามว่าทำไมถึงได้ชอบ “แมนยู” ซึ่งตอนนั้นผมเองก็อายุเพียงแค่ 12 ขวบ บอกตรง ๆ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงชอบทีมนี้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่จำไม่ลืม ณ ตอนนั้นคือชื่อเพลงที่ชื่อ “เด็กผี” เป็นเพลงแร็ปเพลงแรกและเพลงเดียวเท่าที่จำได้ที่มีชื่อนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดที่ประสบความสำเร็จในยุคนั้นอยู่ในเพลงแทบทุกคน และผมเองก็ร้องได้จนขึ้นใจ จนคุณครูได้บอกให้ไปร้องหน้าชั้นเรียนตอน ม.1 มันเป็นอะไรที่ดูเท่มาก นี่คงเป็นจุดเริ่มต้นของการชอบสโมสรแห่งนี้จนเริ่มติดตามนักเตะ ความสำเร็จ และอิ่มเอมกับเกมการแข่งขันเรื่อยมา จนนึกภาพที่สโมสรแห่งนี้จะถึงวันที่จะจมสู่ก้นเหวไม่ออกแม้แต่วินาทีเดียว ในเวลา 90 นาทีที่แข่งขัน แต่แล้วภาพฝันร้ายที่ไม่เคยนึกถึงกลับเลวร้ายกว่าหลายเท่าที่เหนือกว่าจินตนาการกับสิ่งที่เป็นอยู่ ณ เวลานี้ ย้อนกลับไปครั้งสุดท้ายที่ได้เห็นปีศาจแดงชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกคือฤดูกาล 2012-2013 ณ ตอนนั้นแชมป์ได้ถูกตัดสินไปตั้งแต่เกมที่ 34 และนั่นเป็นแชมป์สมัยที่ 13 ของปีศาจแดง ในช่วงเวลาแห่งความรุ่งโรจน์ หนึ่งในชายที่จดจำก็คงหนึ่งไม่พ้นชายที่ชื่อ คริส เตียโน โรนัลโด พร้อมกับเครื่องหมาย CR7 แม้ว่าในแชมป์ครั้งสุดท้ายของปีศาจแดงจะไม่มีชายคนนี้อยู่ในเฟรมความสำเร็จ แต่การจากไปหลังชูถ้วยแชมป์ในปีฤดูกาล2008-2009 ก็เป็นภาพจำที่แฟนปีศาจแดงเฝ้าฝันว่าอาจจะได้เห็นชายคนนี้หวนคืนสู่โอทราฟฟอร์ดอีกครั้งหลังจากที่ชูถ้วยแชมป์ครั้งสุดท้ายฉายาปีศาจแดงที่เคยเขย่าขวัญพรีเมียร์ลีกนับวัน ความขลัง ความน่ากลัว ก็เริ่มจะเลือนหายไปตามกาลเวลา แต่การกลับมาของ คริสเตียโน โรนัลโด เมื่อต้นฤดูกาลปลุกไฟฝันของเหล่าสาวกปีศาจที่จะได้เห็นควาสำเร็จไปพร้อมกันแข้งที่เคยก่อเกิด ณ ผืนดินแห่งนี้อีกครั้ง แต่แล้วไฟทีุ่กโชนก็ดับลงราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะยิ่งนับวันผ่านไป เกมหนึ่ง เกมสอง ค่อย ๆ ผ่านไป สิ่งที่วาดหวังก็พังทลายอีกครั้ง แม้ว่าปีศาจแดงจะอุดมไปด้วยนักเตะระดับแนวหน้าไม่ว่าจะเป็น ราฟาเอล วาราน จาดอน ซานโชว บรูโน่ เฟรอ์นันเดส แฮรี่ แมคไกว ดาบิด เดเคอา เอดิสัน คาวานี่ พอล ป๊อกบา และ กุนซือสายเลือกปีศาจแดง โอเลกุนน่า โซลซา แต่จบฤดูกาลก็ต้องก้มหน้ารับกับผลที่ออกมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นอีกครั้งที่หัวใจที่ลุกโชนแห่งความหวังถูกพัดปลิวมอดดับด้วยสายลมแห่งความผิดหวังท้ายที่สุดก็เกิดคถามว่าอะไรที่ทำให้ปีศาจแดงที่ได้ศูนย์หน้าซุปเปอร์สตาร์คืนถิ่น แต่ผลงานกลับไม่ได้ดีอย่างที่ตั้งใจ คำตอบของคำถามนี้ก็คงเป็นเพราะโครงสร้างรังปีศาจที่ไม่ได้แข็งแรงเหมือนแต่ก่อนแล้วกระมัง แม้ว่าจะได้เสาเอกมาค้ำยัน แต่เมื่อโดนลมพายุหลายครั้งต่อให้เสาเอกแข็งแรงแค่ไหน ถ้าส่วนอื่นของรังไม่ได้ช่วยแบ่งเบาสุดท้ายก็พังอยู่ดี เช่นเดียวกับสถานการณ์ของปีศาจแดง ที่แม้ว่าจะได้ คริสเตียโน โรนัลโด มาช่วยในแดนหน้าเพื่อจบสกอร์ แต่ส่วนอื่นกลับไม่ได้ส่งเสริมกัน เกื้อหนุน สุดท้ายก็พังอยูดี สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดก็คือเรื่องของตัวสำรองที่ไม่สามารถทดแทนกันได้ด้วยคุณภาพของนักเตะ อีกทั้งยังไม่มีระบบการเล่นที่ชัดเจนพอที่จะให้นักเตะได้จดจำวิธีการเล่นที่ตายตัว เมื่อแผนไม่มีตายตัวความสับสนของนักเตะจึงบังเกิด ตามมาด้วยความพ่ายแพ้ที่บางนัดเรียกว่าหาทางกลับบ้านไม่ถูก็มีมาแล้วการฝากความหวังไว้ที่นักเตะเพียงคนเดียวมันก็เหมือนเอาเป้าไปวางให้เหล่านักแม่นปืนเล็งได้ง่ายว่าจะยิงตรงไหน เช่นกันเมื่อบอลในแดนหน้าฝากความหวังไว้กับนักเตะเพียงคนเดียวมันก็ง่ายที่เหล่ากองหลังจะประกบได้ ฉะนั้นแล้วเมื่อบอลไม่สามารถไปถึงในจุดที่จะสามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้ ต่อให้นักเตะระดับจักรวาลเมื่อไม่มีบอลแล้วจะยิงประตูยังไง จนเริ่มคิดว่าการไม่มี ชื่อ คริสเตียโน โรนัลโด อาจจะเป็นผลดีกว่าหรือไม่เพราะเมื่อไม่มีเป้าให้เหล่านักแม่นปีนเล็ง แล้วจะยิงยังไง ว่าไหม?หลังจากฤดูกาล2021-2022 สิ้นสุดลง ก็ยังคาดหวังว่าจะได้เห็น CR7 อยู่กับทีมต่อไปเพื่อไล่ล่าแชมป์ แต่มาถึงตรงนี้ก็คงต้องทำใจกับโอกาสที่จะเสียแข้งรายนี้ แม้ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรแต่การจากไปของแข้งรายนี้อาจจะส่งผลดีกับบรรดานักเตะ อาจจะถึงยุคใหม่ของปีศาจแดงหรือที่เรียกว่า “ล้างกระดาน” ภายใต้การทำทีมของผู้จัดการทีมจอมปั้นเด็ก เอริค เทนฮาก สาเหตุสำคัญก็คงเป็นเพราะว่าผู้จัดการทีมรายนี้มักจะใช้แผนการเล่นที่ไม่มีตัวใดสำคัญหรือเป็นตัวหลักในแผงเกมรุกแบบตายตัว แม้ว่าจะมีศูนย์หน้าก็จริง แต่เมื่อถึงคราวที่จะต้องบุก การดันทั้งแผงตรงกลางเข้าไปซัพพอร์ในบริเวณแถวสอง เพื่อเพิ่มผู้เล่นพื้นที่ในเขตอันตราย ทำให้สามารถเลือกได้ว่าจะจ่ายบอลไปที่ใคร ซึ่งเป็นสิ่งที่มักใช้อยู่บ่อยครั้งกับอาแจกซ์ การที่ไม่มีหน้าเป้าที่เป็นเป้าหมายหรือไม่มีความเกรงใจจากพี่ใหญ่ จะส่งผลให้ความกล้า ความมั่นใจ ของนักเตะเต็มเปี่ยม จะส่งผลให้ผลงานส่วนตัวออกมาดีตามไปด้วยนั่นเองสิ่งต่อมาเหล่าสาวกปีศาจคาดหวังว่าจะเกิดขึ้นกับปีศาจแดงยุคใหม่ก็คือเรื่องของการสรรหานักเตะที่แก้ปัญหาได้ตรงจุด รวมถึงนักเตะอายุน้อยมากควาสามารถหรือแม้แต่การใช้นักเตะในอคาเดมี่ขึ้นชุดใหญ่ นี่คือการวางรากฐานที่วัดหวังที่จะเกิดขึ้นในยุคใหม่นี้ จริงอยู่อาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ความสำเร็จอย่างที่คาดหวังในทันทีทันใด แต่หากมองในระยะยาวการสร้างนักเตะที่เข้าใจระบบการเล่น ภายใต้การทำงานของผู้จัดการทีม จะส่งผลให้นักเตะเข้าใจระบบมากขึ้นไม่ว่าใครจะลงไปแทน ก็สามารถเข้าใจแผน เข้าใจระบบตามไปด้วย และเมื่อไม่มีพี่ใหญ่ในทีมที่เป็นอาวุโสในทีมความมั่นใจ กล้าเลี้ยง กล้าลุย กล้าเล่น จะส่งผลต่อผลงานของนักเตะตามไปด้วยเช่นกันสุดท้ายแม้ว่าจะเสียดายกับการที่ฤดูกาลหน้าอาจจะไม่มีซุปเปอร์สตาร์ของทีมที่คาดหวังว่าจะได้เห็นการชูถ้วยแชมป์อีกครั้ง แต่การจากลาครั้งนี้อาจจะส่งผลดีต่อสภาพแวดล้อมภายในทีมก็เป็นได้ เพราะหากไม่ลืมอดีตและยังยึดติดแต่สิ่งเดิม ก็ไม่มีทางไปข้างหน้าได้อย่างที่ฝันเอาไว้ นี่น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นยุคใหม่ของปีศาจแดงอีกครั้ง แม้ว่าจะเริ่มด้วยสภาพทารกเริ่มหัดเดิน แต่มันก็ดีกว่าตัวโตแล้วล้มล้มเพราะอย่าลืมว่ายิ่งตัวใหญ่ เสียงล้มยิ่งดัง และลุกยากกว่าทากรที่เพิ่งหัดเดินหลายเท่านัก มิใช่หรือ?ข่าวที่เกี่ยวข้องส่อง 4 มิดฟิลด์ตัวเลือกหาก แมนยู พลาดคว้า "แฟรงกี้ เดอ ยอง" ร่วมทัพทำความรู้จัก ไทเรล มาลาเซีย (ว่าที่)แบ็คซ้ายคนใหม่ "แมนยู"การมาของ "เอริค เทน ฮาก" จะพา "แมนยู" สู่ยุคใหม่หรือถอยลงคลองอีกกี่ปีถึงจะมีแชมป์ !! แผลใหญ่ของ "แมนยู" ที่ไม่ใช่เปลี่ยนแค่ผู้จัดการทีมแล้วจบถูกใจไหม?? จัดอันดับ 5 นักเตะแมนยูผลงานดีที่สุดประจำปี 2021เครดิตภาพปก twitter.com/ManUtd :: ภาพปก เครดิตภาพประกอบ twitter.com/ManUtd :: ภาพที่ 1 , ภาพที่ 2 , ภาพที่ 5 , ภาพที่ 6 , ภาพที่ 7 , twitter.com/championsleague :: ภาพที่ 3 , twitter.com/premierleague :: ภาพที่ 4 *STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดีคลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565