ก็จบไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับศึกพรีเมียร์ลีกนัดที่ 38และบทสรุปอันดับและตารางคะแนนของแต่ละทีม เรียกได้ว่าฤดูกาลนี้ก็เป็นฤดูกาลที่ดุเดือดมากจริงๆส่วนทีมที่ถือว่าเจ็บช้ำที่สุดคงหนีไม่พ้น ไอปืนใหญ่อาเซนอล ที่พลาดท่าสะดุดและเสียแชมป์ให้กับ แมนฯซิตี้ ที่เร่งเครื่องและพลิกแซงคว้าแชมป์ไปแบบน่าเจ็บใจสำหรับแฟนปืนมาที่พื้นที่ท็อปโฟว์ก็ตามมาด้วย แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของเอริค เทนฮาก ในฤดูกาลแรกจบไปด้วยอันดับ 3 ถือว่าเป็นผลงานที่ถูกใจแฟนผีเอามากๆตามมาด้วยอันดับ 4 คือ สาลิกาดง (นิวคาสเซิลยูไนเต็ด) ที่ปีนี้ฟอร์มดีมากๆ และสามารถกลับไปเล่นถ้วยยุโรปอย่าง ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก (Uefa Champions League) ได้ในรอบ 20 ปีส่วนถ้วยยูโรป้าลีก (Uefa Europa League) อันดับ 5 และ 6 ก็เป็นของลิเวอร์พูลกับไบร์ทตัน ส่วนที่น่าเสียใจสำหรับแฟนบอลชาวไทยหลายคนคงหนีไม่พ้นการตกชั้นของ จิ้งจอกสยาม (เลสเตอร์ ซิตี้) ที่ไม่สามารถยืนหยัดต้านทานความทรหดของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ไปได้ ยังไงก็เอาใจช่วยให้กลับมาโลดแล่นบนเวที พรีเมียร์ลีกให้ได้อีกครั้งนะ เกริ่นกันซะยาว ในฐานะที่ผมเป็นแฟนแมนยู เรามาพูดคุยกันเกี่ยวกับฟอร์มการเล่นของยูไนเต็ดในนัดสุดท้าย ที่สามารถพลิกชนะฟูลแล่มดีกว่าเกมนี้ยูไนเต็ดเล่นเพื่อลุ้นที่ 3 เท่านั้น ส่วนพื้นที่ไปเล่นยูฟ่านั้นการันตีเรียบร้อยแล้ว เลยมีการโรเตชั่นนักเตะมากพอสมควรโดยในเกมนี้ยูไนเต็ดมาด้วย 11 ตัวจริงผู้รักษาประตู De Gea กองหลัง : ลินเดอเลิฟ , แมคไกร์ว , มาลาเซีย , ดาโลต์กองกลาง : เฟร็ด , บรูโนแฟรนันเดส , คาเซมิโร่กองหน้า : การ์นาโช่ , แรชฟอร์ด , ซานโช่ตัวสำรองอย่าง : บัตแลนด์ , ลุคชอว์ , วาราน , วานบิสซาก้า , อิริคเซ่น , แมคโทมีเนย์ , มาร์กซิยาล , เปริสทรี , เวกฮอร์ตเริ่มเกมมาไม่นานฟูลแล่มก็ทำประตูขึ้นนำยูไนเต็ดไปได้ในนาทีที่ 19' จากลูกโหม่งของเคนนี่ เตเต้ หลังจากนั้นยูไนเต็ดก็พลาดเสียจุดโทษจากจังหวะทำฟาล์วของคาเซมิโร่ แต่ดูเหมือนว่าวันนี้เดเคอาจะฮึดมาจากไหนไม่รู้ สามารถพุ่งปัดเซฟลูกจุดโทษได้สำเร็จ ซึ่งเป็นภาพที่แฟนผีอย่างผมต้องเซฟเอาไปปริ้นใส่กรอบเลี่ยมทองไว้เลย 55555555555 หลังจากฟูลแล่มพลาดการสังหารจุดโทษ โมเมนตัมเกมก็เปลี่ยนไปอยู่กับยูไนเต็ด โดยยูไนเต็ดขึ้นเกมและบุกกระหน่ำใส่ฟูลแล่มไม่มียั้ง มีจังหวะได้ประตูเยอะมากแล้วในที่สุดก็ได้ประตูจนได้ จากจังหวะตะลุยขึ้นมาของเฟร็ดส่งบอลไปถึงซานโช่ และจบสกอร์ได้สำเร็จ ยูไนเต็ดตามตีเสมอเป็น 1-1 หลังจากนั้นยูไนเต็ดก็พยายามบุกเอาประตูอย่างต่อเนื่องแต่ยังไม่สามารถขึ้นนำได้ จนจบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 1-1 เริ่มเกมมาครึ่งหลังยูไนเต็ดบุกเข้าทำอย่างต่อเนื่องจนฟูลแล่มต้านไว้ไม่ไหว ยูไนเต็ดได้ประตูขึ้นนำจากบรูโน่ แฟร์นันเดส และเป็นแอสซิสต์ของมหาเทพเฟร็ดอีกแล้วววหลังจากยูไนเต็ดขึ้นนำก็ผ่อนเกมลงเล็กน้อย และหาจังหวะทำประตูอย่างต่อเนื่อง ฟูลแล่มก็มีจังหวะพอให้ลุ้นบ้าง แต่ยังไม่ได้ดีพอที่จะตีเสมอได้ ช็อตที่ผมลุ้นสุดช่วงท้ายเกมคือ ช็อตทำประตูของ เวาท์ เวกฮอร์ต ที่ยืนรอลูกเปิดของซานโช่ที่เปิดบอลเข้าไปแบบน้ำหนักดีมาก แต่น่าเสียดายมากที่เขาไม่สามารถจบสกอร์ได้สำเร็จ ถือเป็นช็อตที่น่าผิดหวังสำหรับตัวเขาจริงๆ พอมีโอกาสก็ดันไม่มีโชค และนี่อาจเป็นการทำประตูปิดท้ายอาชีพการค้าแข้งของเขากับยูไนเต็ดแต่เขาพลาดมันไปอย่างน่าเสียดายจบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลิกเอาชนะ ฟูลแล่มไปได้ 2 ประตูต่อ 1 ปิดท้ายฤดูกาลด้วย 75 แต้มและจบอันดับที่ 3 เหนือนิวคาสเซิล 4 แต้มถ้าพูดถึงประสิทธิภาพการคุมทีมของ เอริค เทนฮาก กับยูไนเต็ดฤดูกาลนี้ โดยส่วนตัวเลยนะผมให้คะแนนอยู่ที่ 8 เต็ม 10 บวก 2 คะแนนพิเศษ อะงงอะดิ มาดูกันคืออะไร ถ้าย้อนไปก่อนที่เทนฮากจะเข้ามาทำหน้าที่คุมทีม แฟนผีอย่างผมยังไม่มีภาพในหัวเลยนะว่าในเร็วๆนี้ ยูไนเต็ดทีมรักของผมจะกลับมาโอกาสลุ้นแชมป์ได้เมื่อไหร่ ด้วยสภาพทีมที่โรยราทั้งภายในและภายนอกสภาพนักเตะแต่ละคนที่เล่นไม่เอาอะไรเลย หรือไม่มีจุดยึดเหนี่ยวใจของทีม ต่างคนต่างเล่นเพื่อตัวเอง หรือจะในด้านของโครงสร้างการบริหารทีมที่ดูเหมือนบอร์ดบริหารทำไว้ไม่ดีเท่าที่ควร จนเกิดประเด็นโรนัลโด้ปรี้ดแตก และแตกหักกับทีม ด้วยเหตุผลเหล่านี้เองแฟนผีหลายๆคน ก็เผื่อใจเอาไว้แล้วว่า ถึงใครจะเข้ามาคุมทีม มันก็ต้องให้เวลาปรับโครงสร้างทีม ปรับระบบ รื้อทีมใหม่ อย่างน้อยก็คงประมาณ 2-3 ปีขึ้นไปอะ แต่ไม่น่าเชื่อว่าการเข้ามาของเทนฮากนั้น มันจะทำให้ทีมปรับตัวได้เร็วขนาดนี้ ด้วยความเด็ดขาดของเขา และไม่มีการเลือกปฏิบัติกับนักเตะคนไหนเป็นพิเศษ เขาเข้ามารื้อโครงสร้างทีมใหม่หมด แล้วทีมมันเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นจริงๆ แฟนผีได้เห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นของทีม ทั้งด้านแทคติค ด้านการแสดงออกทางอารมณ์ของนักเตะในสนาม ความเป็นหนึ่งเดียว ความเป็นทีมมากขึ้น เทนฮากสามารถพานักเตะชุดที่ไม่มีใครคิดว่าจะมาได้ไกลขนาดนี้ ลุ้นแชมป์ถึง 4 แชมป์ คือ ยูโรป้าที่คว่ำบาร์เซโลน่าไปได้ , พรีเมียร์ลีกช่วงนึงที่มีโอกาสได้ลุ้นบนหัวตาราง , เอฟเอคัพที่รอชิงกับแมนฯซิตี้ และคว้าแชมป์ลีกคัพมาได้สำเร็จแต่ในฟอร์มที่ดีนี้ มันก็ยังมีข้อให้ติอยู่บ้าง ที่บางนัดที่ควรชนะ กลับพลาดแพ้หรือเสมอไปซะอย่างงั้น โดยเฉพาะเกมที่ออกไปเล่นนอกบ้านก็จะเล่นแบบเนือยๆ และมักจะเก็บแต้มกลับบ้านมาไม่ค่อยได้ นี่เลยเป็นเหตุผลที่ผมหักคะแนนไป 2 คะแนนแต่เหตุการณ์เหล่านี้ก็ยังพอเข้าใจได้บ้าง ดว้ายอาการบาดเจ็บของหนักเตะหลักของทีมอย่าง คริสเตียน อิริคเซ่น , การ์นาโช่ , วาราน , มาร์ติเนซ , ซาบิทเซอร์ , มาร์กซิยาล ที่สลับผลัดกันเจ็บและโปรแกรมแข่งช่วงเดือนเมษายน ที่ยูไนเต็ดนั้นลงเตะเยอะจริงๆ เตะไปทั้งหมด 9 นัดในเดือนเดียว บางนัดพักแค่ 2 วันเตะอีกแล้วทำให้นักเตะตัวหลักที่ลงสนามประจำก็ดูอ้อนล้าอย่างเห็นได้ชัด แต่เทนฮากก็ยังสามารถพาทีมฝ่าฟันอุปสรรค์เหล่านี้ไปได้และพาทีมจบอันดับ 3 และลุ้นเอฟเอคัพอีกถ้วย ยังไม่นับรวมเรื่องที่เขาจัดการปัญหาระหว่าง คริสเตียโน โรนัลโด้ กับทีมได้อย่างเด็ดขาดอีก เหตุนี้เองผมเลยบวกให้ 2 คะแนนไปเลย สำหรับการคุมทีมในฤดูกาลนี้ของเอริค เทนฮากขอบคุณที่รับชมบทความจนจบครับ และกราบขออภัยหากข้อมูลผิดพลาดประการใด โดยบทความนี้เขียนจากความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ บวกกับข้อมูลแบบพื้นๆตามประสาคนดูบอลครับ ขอบคุณภาพทั้งหมดจาก เครดิตภาพ :( 1. premier league / Twitter) ( 2. Manutd / Twitter)( 3 Manutd / Twitter)( 4. Manutd / Twitter)( 5. Manutd / Twitter)(ภาพหน้าปก Manutd / Twitter) เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !