สโมสรฟุตบอลน็อตแท่ม ฮอตสเปอร์สแห่งพรีเมียลีกอังกฤษ ทีมนี้ยังมีฉายาที่ถูกเรียกในไทยว่า “ไก่เดือยทอง” วันนี้รายการ Stadium จะพาทุกคนไปทำความรู้จัก ประวัติสุดคลาสสิคของสโมสร หนึ่งในตำนานของเมืองผู้ดีกัน กำเนิดทีมมือสมัครเล่น ย้อนกลับไปยังปี 1882 เป็น 138 ปีแล้วที่สโมสรฟุตบอลน็อตแท่มฮอตสเปอร์ได้ถูกก่อตั้งมา โดยในเวลานั้นใช้ชื่อว่า “ฮอตสเปอร์ เอฟซี” มี Stadium ประจำคือ “ทอตนัม มาร์เชส” แต่เมื่อเกิดวิกฤติสงครามโลกขึ้น ทีมจำต้องเปลี่ยนเป็นการเช่าสนามในการฝึกซ้อม สนามนอททัมเบอร์แลนด์ ปาร์ค ที่ต้องเช่าใช้งานมานานกว่า 8 ปี ก่อนที่จะย้ายเข้าสู่บ้านหลังใหม่ “ไวต์ฮาร์ตเลน” สนามเหย้าที่ใช้มาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน เริ่มแรก ฮอตสเปอร์ เอฟซี เล่นเพียงแค่ลีกทางตอนใต้ของอังกฤษเท่านั้น ภายหลังในปี 1901 ทีมได้แชมป์เอฟเอคัพ จึงได้มีโอกาสเข้าสู่ดิวิชั่น 2 แม้จะเป็นทีมมือสมัครเล่น แต่กลับทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในปี 1908 พวกเขาคว้ารองแชมป์ดิวิชั่น 2 ได้สำเร็จ อีกทั้ง ในสมัยนั้น ชื่อของกัปตันทีม ยังได้ถูกจารึกไว้เป็นเกียรติประวัติอีกด้วย นั่นก็คือ “อาเทอร์ กริมส์เดล” Credit Picture: Link ยุคทองของไก่เดือยทอง ต่อมา ในยุคทองของสเปอร์ ทีมได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “ทอตนัมฮอตสเปอร์” ในปี 1949 นั้นจึงถือเป็นก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์ของทีม เพราะชื่อนี้ ถูกใช้มาเป็นเวลากว่า 7 ทศวรรษเข้าไปแล้ว ด้วยความทะเยอทะยานของทีม จากทีมมือสมัครเล่น กลายเป็นทีมมืออาชีพประจำเมืองสเปอร์จริง ๆ เมื่อผู้จัดการทีมมากความสามารถ “อาเทอร์ โรเวย์” พาสเปอร์ขึ้นสู่ดิวิชั่น 1 ได้สำเร็จ และทีมก็ทำผลงานได้อย่างเกินความคาดหมาย เพราะทีมสามารถคว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 ได้สำเร็จ ในฤดูกาล 1950-51 และในทศวรรษต่อมา สเปอร์ก็คว้าแชมป์อย่างถล่มทลาย ทั้งบอลถ้วยและบอลดิวิชั่นลีก จนกระทั่งถึงต้นทศวรรษที่ 1980 สเปอร์สามารถต่อกรกับทีมใหญ่ได้อย่างสมศักดิ์ศรี ในปี 1981-1982 สโมสรคว้าแชมป์เอฟเอคัพ 2 สมัยติดต่อกัน แถมยังคว้าถ้วยยูฟ่ามาครองเป็นสมัยที่สองอีกด้วย Credit Picture: Link ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ มาถึงยุคใหม่ เริ่มต้นคริสต์ศักราช 2000 รายการดิวิชั่น 1 ซึ่งก่อนหน้านั้น ถูกเปลี่ยนเป็น “พรีเมียร์ลีก” ไปแล้ว และสเปอร์เองก็ยังคงความเป็นตำนานในลีกอยู่ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ในอันดับต้น ๆ ของตาราง แต่ในยุคใหม่นี้ ฟุตบอลไม่ได้เป็นเพียงกีฬายอดนิยมอีกต่อไป แต่มันได้กลายเป็นธุรกิจใหญ่ของทั้งโลกและสเปอร์เอง ในหลายฤดูกาลพวกเขาทุ่มทุนลงไปกันอย่างมาก จนหลาย ๆ ครั้ง มีข่าวมากมายที่ว่ากุนซือทำผลงานในช่วงเริ่มฤดูกาลไม่ดีพอ จำต้องปลดออกและแต่งตั้งกุนซือใหม่ขึ้นมาแทน อย่างเช่นในช่วงที่ผ่านมาเช่นกัน เมื่อกุนซือคนเดิมไม่สามารถพาทีมทำผลงานให้ดีได้อย่างเดิม หลายต่อหลายครั้งที่ทีมมีโอกาสลุ้นแชมป์ และพร้อมที่จะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับทีม แต่ทีมก็จบฤดูกาลด้วยการเป็น Top Rank ของตารางเช่นเดิม Credit Picture: Link ทั้งหมดนี้เป็นเพียงที่มาอย่างคร่าว ๆ ของสเปอร์ สโมสรหนึ่งในตำนานของพรีเมียร์ลีก แห่งเกาะผู้ดีอังกฤษ และรายการ Stadium ขอปิดท้ายกันด้วย ที่มาของตราสโมสร ที่ได้ฉายาว่า “ไก่เดือยทอง” นั้นมาจากนัดชิงเอฟเอคัพของทีมในปี 1901 เชื่อกันว่า “แฮร์รี เพอร์ซี ฮอตสเปอร์” บุคคลนี้ตั้งชื่อทีมตามชื่อตนเอง ทั้งยังได้ใส่ไก่ตัวผู้เข้าไปในตราสัญลักษณ์ของทีม และยังมีความเชื่อกันอีกว่า ไก่ตัวผู้คือสิ่งที่จะทำให้ผู้เล่นในทีมมีความฮึกเหิม กระทั่ง 8 ปีต่อมา “วิลเลียมเจมส์ สก๊อต” อดีตผู้เล่นของทีม ได้สร้างรูปปั้นไก่ตัวผู้เหยียบลูกฟุตบอล ทั้งหมดนั้นจึงเป็นที่มาของตราสโมสร ตั้งแต่บัดนั้น… เป็นต้นมา _____________________ Swivel คอนเทนท์ยุคใหม่เชิงสร้างสรรค์ ที่นำเสนอในทุกแรงบันดาลใจ ไม่ว่าจะเป็น Science&Tech • Inspiration • Passion • Community • Sport Follow Us On “Facebook” Follow Us On “Blockdit”