ทีมชาติไทย พบ ไชนีส ไทเป วิเคราะห์ฟุตบอลเอเชียน คัพ รอบคัดเลือก กลุ่ม D นัดที่ 3 วันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม 2568 เวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสด : True Sports 2 สนาม : ราชมังคลากีฬาสถาน ศึกฟุตบอล เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก รอบสาม กลุ่ม D นัดที่ 3 เกมนี้เป็นการพบกันระหว่างเจ้าบ้าน "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ทีมอันดับ 101 ของโลก เปิดรังเหย้า ราชมังคลากีฬาสถาน, ประเทศไทย ต้อนรับ ไชนีส ไทเป ทีมอันดับ 173 ของโลก สำหรับเกมนี้เป็น นัดที่สามของรอบสามนี้ ทั้งคู่อยู่ในกลุ่ม D ร่วมกันกับ เติร์กเมนิสถาน และ ศรีลังกา หลังจากเปิดบ้านเฉือนชนะ ศรีลังกา ไปด้วยสกอร์ 1-0 ในนัดแรก ทีมชาติไทยต้องพบกับความผิดหวังในเกมเยือน เติร์กเมนิสถาน โดยพ่ายไป 3-1 ส่งผลให้ทีมจากตะวันออกกลางเก็บ 6 คะแนนเต็ม ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มทันที ขณะที่ “ช้างศึก” มี 3 คะแนน รั้งอันดับ 2 ทางด้าน ไชนีส ไทเป ยังไม่สามารถเก็บแต้มได้เลยจาก 2 นัดที่ผ่านมา และยังคงอยู่ในอันดับสุดท้ายของกลุ่ม แม้จะเป็นทีมที่มีผลงานแย่ที่สุดในกลุ่ม แต่เกมที่ไทยจะพบกับไชนีส ไทเปนั้น ไม่ใช่แค่การคว้าชัยชนะเท่านั้น การยิงประตูให้ได้มากที่สุดก็เป็นภารกิจสำคัญ เนื่องจาก “จำนวนประตูได้” เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการจัดอันดับในตารางคะแนน หากมีแต้มเท่ากัน ดังนั้น เกมนี้จึงไม่ใช่แค่การเก็บ 3 แต้ม แต่ยังเป็นโอกาสในการเพิ่มความได้เปรียบในด้านสถิติ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันในนัดต่อไป ความพร้อมก่อนเกม ทีมชาติไทย ทีมชาติไทยภายใต้การคุมทีมของ มาซาทาดะ อิชิอิ กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญ หลังจากพ่ายแพ้ต่อ เติร์กเมนิสถาน ด้วยสกอร์ 3-1 ในเกมเยือน ผลงานของทีมชาติไทยในทัวร์นาเมนต์นี้ยังไม่เป็นที่น่าพอใจนัก โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงการจัดตัวผู้เล่นในรอบล่าสุด ซึ่งยังไม่มีชื่อของสองแข้งมากประสบการณ์อย่าง ธีราธร บุญมาทัน และ ธีรศิลป์ แดงดา ที่แฟนบอลจำนวนมากเรียกร้องให้กลับมาติดทีมเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ทีมยังต้องเผชิญกับปัญหาอาการบาดเจ็บของผู้เล่นหลักหลายราย ได้แก่ ศุภชัย ใจเด็ด (กองหน้า – บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) ปรเมศย์ อาจวิไล (กองหน้า – จูบิโล่ อิวาตะ) ศศลักษณ์ ไหประโคน (แบ็กซ้าย – บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) เพื่อทดแทนการขาดหายไปของผู้เล่นเหล่านี้ โค้ชอิชิอิได้เรียกนักเตะหน้าใหม่เข้ามาเสริมทีม ได้แก่ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว (กองกลางตัวรุก – ชลบุรี เอฟซี) อนันต์ ยอดสังวาลย์ (ปีก – ลำพูน วอริเออร์) วันชัย จารุนงคราญ (แบ็กซ้าย – แบงค็อก ยูไนเต็ด) ส่งผลให้กองหน้าตัวเป้าเหลือเพียง ธีรศักดิ์ เผยพิมาย คนเดียวที่เหลืออยู่ในชุดนี้ ส่วนแบ็กซ้ายก็น่าจะจำเป็นต้องโยก นิโคลัส มิเกลสัน ไปยืนเป็นตัวหลักอีกครั้ง ในแดนกลางรอบนี้ค่อนข้างแน่น ไม่มีขาประจำอย่าง พีรดน ฉ่ำรัศมี แต่ตัวที่มีอยู่ก็ไม่เป็นรอง แถมอาจจะมีการต้องนำผู้เล่นแดนกลางไปทดแทนตำแหน่งอื่นด้วย ที่เป็นกระแสมากในช่วงนี้คือมีโอกาสที่ อิชิอิ จะส่ง เบนจามิน เดวิส ยืนกองหน้าตัวเป้า ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามในระบบ 4 - 2 - 3 - 1 : ปฏิวัติ คำไหม – ศุภนันท์ บุรีรัตน์, โจนาธาร เข็มดี, ณัฐพงษ์ สายริยา, นิโคลัส มิเกลสัน – วีระเทพ ป้อมพันธุ์, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล - เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์, ชนาธิป สรงกระสินธุ์, สุภโชค สารชาติ - เบนจามิน เดวิส ทีมชาติไชนีส ไทเป ทีมชาติไชนีส ไทเป ชุดนี้ ของ หวง ซี หมิง สำหรับการแข่งขันในรอบนี้ ไชนีส ไทเปเรียกนักเตะเข้าร่วมทีมเพียง 20 คน โดยมีการเปิดโอกาสให้ ผู้เล่นหน้าใหม่ติดทีมชาติชุดใหญ่ถึง 4 ราย ได้แก่: โอโด จาคอบ ซู่ โป เชี๊ยะ หวง ชุน หลิน หยวน ยุง เชง แม้จะมีการเสริมทัพด้วยนักเตะหน้าใหม่ แต่ทีมยังคงนำโดย จอห์น เบนชี่ กองหน้าชาวเฮติวัย 31 ปี ซึ่งเป็นแข้งโอนสัญชาติที่ค้าแข้งอยู่กับสโมสร ไทหนาน และมีบทบาทสำคัญในแนวรุกของทีม การจัดทีมในครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของไชนีส ไทเปในการปรับโครงสร้างและเติมพลังใหม่ให้กับทีม แม้จะยังไม่มีแต้มจากสองนัดแรก แต่ก็ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะเมื่อมีผู้เล่นต่างชาติที่มีประสบการณ์อย่างเบนชี่เป็นแกนหลัก ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามในระบบ 4 - 3 - 3 : หวง เชี่ย หลิน - ฟ่ง เส่า ชิ, เว่ย เปีย หลุน, หวง ซู่ หมิง, คริสโตเฟอร์ ทิ เอ๋า - เจ้า หมิง ซื่อ, ตู เชา เชี๊ยะ, ยู๋ เชี๊ยะ หวง - เชน เชา อัน, จอห์น เบนซี่, หวง เว่ย เชี๊ยะ ฟอร์มการเล่น 5 นัดหลังสุดของแต่ละทีม ไทย แพ้ : ไทย 0 - 1 อิรัก (คิงส์คัพ) ชนะ : ไทย 3 - 0 ฟิจิ (คิงส์คัพ) แพ้ : เติร์กเมนิสถาน 3 - 1 ไทย (เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก) ชนะ : ไทย 2 - 0 อินเดีย (อุ่นเครื่อง) ชนะ : ไทย 1 - 0 ศรีลังกา (เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก) ไชนีส ไทเป แพ้ : อินโดนีเซีย 6 - 0 ไชนีส ไทเป (อุ่นเครื่อง) แพ้ : ศรีลังกา 3 - 1 ไชนีส ไทเป (เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก) แพ้ : ไชนีส ไทเป 1 - 2 เติร์กเมนิสถาน (เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก) แพ้ : ฮ่องกง 2 - 1 ไชนีส ไทเป (EAFF) ชนะ : ไชนีส ไทเป 4 - 0 มองโกเลีย (EAFF) การพบกันของ 2 ทีม 2023 : ไชนีส ไทเป 2 - 2 ไทย (อุ่นเครื่อง) 2022 : ไทย 0 - 1 ไชนีส ไทเป (อุ่นเครื่อง) 2015 : ไทย 4 - 2 ไชนีส ไทเป (ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก) 2015 : ไชนีส ไทเป 0 - 2 ไทย (ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก) วิเคราะห์เกม เกมนี้ถือเป็นอีกหนึ่งแมตช์สำคัญของ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ที่ต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของ ไชนีส ไทเป ซึ่งแม้จะเป็นทีมที่ผลงานในกลุ่มยังไม่ดีนัก แต่ก็ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากสถิติการพบกันในอดีต สถิติผลงานล่าสุด ทีมชาติไทย: ชนะ 3 แพ้ 2 จาก 5 นัดหลังสุด ไชนีส ไทเป: ชนะ 1 แพ้ 4 จาก 5 นัดหลังสุด เฮดทูเฮด: พบกันมา 4 ครั้ง ไทยชนะ 2 ไชนีส ไทเปชนะ 1 เสมอ 1 2 ครั้งหลังสุด ไทยไม่สามารถเอาชนะได้ ความกดดันของ “อิชิอิ” มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือทีมชาติไทย กำลังอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก หลังผลงานในคิงส์คัพและเกมล่าสุดที่พ่ายต่อเติร์กเมนิสถาน ทำให้เกมนี้กลายเป็นบทพิสูจน์สำคัญ หากพลาดอีกครั้ง อาจส่งผลต่ออนาคตในการคุมทีมของเขา จุดแข็งของทีมชาติไทย ขุมกำลังโดยรวมเหนือกว่า ทั้งในด้านคุณภาพและความฟิต ได้เล่นในบ้านต่อหน้าแฟนบอล ซึ่งเป็นแรงกระตุ้นสำคัญ หากปลดล็อกประตูแรกได้เร็ว เกมจะเปิดมากขึ้น และมีโอกาสบวกสกอร์เพิ่ม เป้าหมายสำคัญ นอกจากชัยชนะแล้ว “จำนวนประตูได้” ก็เป็นอีกหนึ่งเงื่อนไขสำคัญในการจัดอันดับในกลุ่ม ดังนั้นเกมนี้ไม่ใช่แค่ต้องชนะ แต่ต้องยิงให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทีมชาติไทย 2 - 0 ไชนีส ไทเป #ดูบอลสด #วิเคราะห์ #เอเชียนคัพ #ทีมชาติไทย #ช้างศึก #ไชนีสไทเป #บอลไทย #ดูฟรี #ดูสด BY SILVER_SHARK ภาพปกที่ 1 : เพจ ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทย ภาพปกที่ 2 : เพจ TrueVisions ภาพปกที่ 3 : ธงชาติไชนีส ไทเป ภาพปกที่ 4 : ธงชาติไทย ภาพปกที่ 5 : ฺBackground ภาพปกที่ 6 : ฺLOGO การแข่งขัน ภาพปกที่ 7 : เพจ ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทย ภาพปกที่ 8 : เพจ 中華民國足球協會CTFA ภาพประกอบที่ 1 : เพจ TrueVisions ภาพประกอบที่ 2 : เพจ ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทย ภาพประกอบที่ 3 : เพจ FA Thailand ภาพประกอบที่ 4 : เพจ FA Thailand ภาพประกอบที่ 5 : เพจ 中華民國足球協會CTFA ภาพประกอบที่ 6 : เพจ 中華民國足球協會CTFA ภาพประกอบที่ 7 : เพจ TrueVisions ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !