TRUE OPINIONS : เกมทรงประสิทธิภาพ ... by "ต็อกตั้ม พรรษิษฐ์"

ต็อกตั้ม พรรษิษฐ์ : กลับมาเข้าที่เข้าทางตามอันดับคาดการณ์ก่อนเริ่มลีก นั่นคือภาพที่เราเห็นจากอันดับตาราคะแนน ณ ปัจจันหลังจากไทยลีกเดินทางผ่านแมตช์เดย์ที่ 11 ไม่มีแล้วทีมไร้ชัย โดยเป็น แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล เอฟซี คือทีมสุดท้ายที่เก็บชัยชนะนัดแรก เช่นกันกับทีมไร้พ่ายเมื่อในที่สุด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าก็พบเจอกับความปราชัยเป็นที่เรียบร้อย

คู่กรณีที่อัดทัพ “ปราสาทสายฟ้า” คว่ำนับสิบ ไม่ใช่ใครที่ไหนนั่นคือทีมใหญ่จากแดนเหนือ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่มีกุนซือคนหน้าคุ้นของเหล่าเซาะกราว อเล็กซานเดร “กาม่า” ที่เคยพา บุรีรัมย์ คว้า 8 แชมป์ ครั้งนี้ “กว่างโซ้ง”ก็ทำได้สำเร็จอีกครั้งถือเป็นเรื่องน่าสนใจมากๆ

ปัจจุบัน “เชียงราย” กลายเป็นทีมฟอร์มดีเหลือหลายในช่วงเมษายน พวกเขาชนะ 4 เกมรวด เก็บเต็ม 12 แต้ม ร้ายเหลือกำลังนั่นคือไม่เสียประตูเลย หากนับจำนวนเวลาอย่างเป็นทางการตั้งแต่เสียประตูล่าสุดให้กับ ดิยุฟ บีรัม ในเกมพ่ายชัยนาท สิงห์ เชียงราย ไม่เสียประตูในไทยลีกมาแล้วอย่างเป็นทางการ 368 นาที

เจาะวงที่การประจัญบานกับบุรีรัมย์ 3 เกมหลังสุดนั้นหรือ

สิงห์ เชียงราย เก็บไป 6 แต้มกับอีก 1 แชมป์…
ฟอร์มดีแบบนี้ กาม่า คงเป็นอีกตัวเต็งสำหรับกุนซือยอดเยี่ยมเดือนเมษายนแน่ๆ

การเปลี่ยนแปลงที่เห็นชัดไม่ต้องสังเกตอะไรมากจากช่วงรับยาวผลงานดีรอบนี้ของ สิงห์ เชียงราย นั่นคือการปรับรูปแบบการเล่น หากเทียบกับฤดูกาลที่ผ่านมาถือว่าต่างกันเยอะทั้งสปีดบอล หรือรูปแบบการเข้าทำจากเดิมเน้นความเร็ววูบวาบตามประสาบราซิเลียนความเร็วสูงทักษะดีกล้าได้กล้าเสีย วานเดอร์ หลุยส์, ราฟาเอล โคเอลโญ่ มาวันนี้กลายกองหน้าตัวใหญ่อย่าง บายรัม เบบีฮี (อ่านแบบนี้นะครับท่านผู้อ่าน) ตัวเก๋าอย่าง เคลตัน ซิลวา ประกอบร่างกับตัวหลักผู้เล่นไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นอายุน้อยพวกต่ำกว่า 25 เพิ่งหลุดจากชุดไม่เกิน 23 แถมบางคนยังเล่นยู 21 ไม่ก็ทีมชาติรุ่นละอ่อน 19 ปี ถือเป็นกำลังหลักทั้งนั้น โดยเฉพาะแก๊งซีเกมส์เมื่อปีก่อนถือว่าเกาะกลุ่มกันเหนียวแน่น

ทว่าในช่วงออกสตาร์ท สิงห์ เชียงราย ในฐานะแชมป์เอฟเอ คัพ และเต็งสามของปีนี้ ทำได้ไม่ร้อนแรงตามกระแสคาดหวัง ทั้งหน้าที่เปลี่ยนตัวจบสกอร์ ยังไม่สามารถไว้ใจได้ จนนานเข้าหลังที่ทำงานหนักอยู่แล้วก็พลาดหลายเกมจนเป็นที่มาของความพ่ายแพ้ เพราะต้านแรงกดดันจากคู่แข่งไม่ไหว แม้จะไม่ได้พลาดอะไรบ่อยนักในแต่ละเกม แต่เมื่อภาวะเกมรุกไม่ได้ข่มคู่แข่งจนหงอ Turn Over ถือเป็นเรื่องต้องห้าม และเมื่อเกิดขึ้นการปรับเปลี่ยนก็ตามมาแน่นอนงานนี้มีคนเดือดร้อน

ฤดูกาลนี้ เชียงราย ยังใช้หลัง 3 คนเป็นประจำ สลับกันเล่นตัวหลักใช้ วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ ยืนเป็นตัวชนทางฝั่งขวา ธนศักดิ์ ศรีใส และ ชินภัทร ลีเอาะ สลับมาเป็นอีก 1 สตอปเปอร์ ขณะที่ตัวสุดท้ายนายใหญ่ในเกมรับเป็นบทบาทของ อาทิตย์ ดาวสว่าง ด้วยสไตล์เข้าปะทะหนักชิงจังหวะเน้นความแม่นยำ

ซึ่งมันก็ได้อย่างเสียอย่าง…

หากแม่นเข้าเป้าตลอด อาทิตย์ ถือเป็นโคตรกองหลังที่ไม่มีใครสู้ แต่ด้วยสไตลการเล่นแบบนี้มันเสี่ยงเพียงแค่ความผิดพลาดครั้งเดียวอาจเรียกภัยมหันต์ได้จากโทษใบเหลือง หรือแดง หลายครั้งที่ อาทิตย์ เล่นขณะมีใบเหลืองติดหลังศักยภาพหายไปกว่าครึ่ง เพราะสไตล์ที่เน้นปะทะหนักทำให้ไม่สามารถเล่นเสี่ยงได้อีก พอต้องมาเล่นบอลบุ๋นก็ดูไม่ใช่ทาง

สุดท้ายทีมเปลี่ยนชุดกองหลังใหม่ ชัดเจนที่สุด วิคเตอร์ เข้ามาเล่นในตำแหน่งถนัดนั่นคือกองหลังตัวกลางยืนมันคนสุดท้ายนี่แหละคอยประคองออกซ้ายขวาตามถนัดเหมอนเมื่อครั้งเป็นกัปตันทีมอยู่ อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด ที่แปลกไปคือคู่ขนาบจากเดิมที่เน้นทรงพลังทั้ง 3 คน กลับเปลี่ยนเป็นเน้นคล่องตัวสูงนิ่งมากพอจะรอเล่นจังหวะสอง แต่พร้อมจะพุ่งปะทะแม้เสียเปรียบรูปร่าง ตัวเลือกจึงออกที่ ชินภัทร และสุริยา สิงห์มุ้ย ซึ่งรายหลังฮืฮฮากันทีเดียวกับตำแหน่งนี้

โอเคละ สุริยา ถือเป็นแบ็กซ้ายที่ครบเครื่องมากอีกคนหนึ่งของบ้านเรานาทีนี้ ผมจำได้ว่าครั้งแรกที่มีคนการันตีว่าเด็กคนนี้เก่งจริงเขาคือ วินนี่ เชฟเฟอร์ โค้ชทีมชาติไทยในขณะนั้นย้ำนักย้ำหนาว่าเด็กไทยที่เราต้องส่งออกนอกประเทศให้เร็วที่สุดเท่าจะเป็นไปได้อย่างน้อยคือญี่ปุ่น 3 ชื่อที่ยังจำแม่นในตอนนั้นก็คือ ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ซึ่งไม่แปลกใจอะไรเวลานั้นทั้งคู่เริ่มเด่นในสีเสื้อ บีอีซี เทโร

ชื่อของ สุริยา นี่แหละที่ผมแปลกใจ “วินนี่” ยืนยันว่าเด็กคนนี้มีคุณสมบัติดีมากขึ้นมาชุดใหญ่ทั้งทีมชาติ และสโมสรได้แน่หากมีสมาธิ และโฟกัสที่ดีตลอดทางไปได้ไกลกว่าไทยลีก นี่คือนักเตะที่เล่นแถวหน้าของเอเชียได้

มองด้วยตาก็รู้ว่าหาก สุริยา มาเล่น 1 ใน 3 เซนเตอร์แบ็ก ปัญหาแรกที่ต้องเจอก็คือรูปร่างที่เล็กกว่ากองหน้าแทบทุกคนในลีก ยิ่งไปชนต่างชาติไม่นับ อ่อง ธู นึกไม่ออกว่าใครจะเสียเปรียบรูปร่างให้เขา ทางแก้ของ เชียงราย เมื่อ สุริยา ลงประจำการตำแหน่งดังกล่าวนอกจาก วิคเตอร์ จะยืนกลางคอยควบคุมไลน์หลัก

บัดดี้ทางซ้ายจะเป็น “เจ้าบอล” ชัยวัฒน์ บุราณ ที่เล่นได้ทั้งแบ็กซ้าย และปีกซ้าย ลงมาช่วยสอดซ้อนอยู่เสมอ ทั้งคู่เล่นร่วมกันในตำแหน่งนี้มานานหลายทัวร์นาเม้นต์ ทั้งทีมชาติ และสโมสรความเข้าใจมีเป็นทุนเดิมแถมสไตล์ใกล้กัน ซ้ายเหมือนกัน เร็วเหมือนกัน ได้ความเชื่อมั่นจากโค้ชประกอบกับมีก๊วนอย่าง พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล ยิ่งลงตัว

อ้อ มาถึงตรงนี้มีอีกหนึ่งคนที่มองข้ามไม่ได้เลยคือกลางปิดทองหลังพระมากประสบการณ์ อี ยอง แร ทุกครั้งที่ดูเกมเชียงราย ผมแทบไม่เห็นเขาโดดเด่นเท่าไหร่ แต่ดูละเอียดทีไรโผล่ไปอยู่ในช่วงเวลาสำคัญอยู่เสมอ เอาง่ายๆ 30 นาทีสุดท้ายในเกมหยุด บุรีรัมย์ ไปดูได้เลยว่าทุกครั้งที่ แชมป์เก่าจะตั้งเกมสวน “อี” จะวิ่งไปป่วนอยู่เสมอ ทำให้เกมมันช้าลง ทำให้คลาดเคลื่อนบ้างสุดท้ายเพื่อนข้างหลังเล่นง่ายเอาตัวรอดไปได้

ในจุดนี้ขอชื่นชมไปที่คนทำทีมทั้งตัว กาม่า โค้ชประสบการณ์สูง เรื่องแบบนี้เขามองออกแน่ๆ ทว่าบางครั้งเรื่องการเปลี่ยนแปลงมันก็ไม่สามารถทำแล้วออกมาดีหากไม่มีผู้สนับสนุนชั้นยอด ในบริบทของ สิงห์ เชียงราย แน่นอนว่าผู้บริหารหนุ่มอย่าง มิตติ ติยะไพรัตน์ เป็นกำลังสำคัญ และเป็นตัวแปรของสมการนี้ เหตุผลง่ายมากคือ…

พวกเขายอมเปลี่ยนให้เข้ากับสิ่งที่มี ณ ตอนนี้

สิ่งที่ต้องแลกมาคือเสน่ห์ที่หายไป ความสวยงามในเกมรุกที่ขายได้ กลเม็ดเด็ดพรายที่หลากหลายเปลี่ยนมาเป็นแทคติก ความแน่นอนเป็นที่ตั้ง ไม่แปลกเลยที่เราจะเห็นพวกเขาปิดเกมสกอร์น้อย เก็บแต้มเข้ากระเป๋า ซึ่งเรื่องงเหล่านั้นก็แสดงให้เห็นว่าไม่ได้ผิดอะไร ออกจะถูกต้องเสียด้วยซ้ำ

ย้อนกลับไปช่วงสะดุด 5 เกมก่อน ตัวเลขผู้ชม หรือบรรยากาศในสนามไม่ได้หวือหวาขนาดนี้ แต่ชัยชนะที่ดูอึดอัด สามเกมก่อนหน้า 1-0, 1-0, 2-0 นี่แหละ เรียกคนเข้าสนาม เรียกความเชื่อให้กลับได้เป็นรูปธรรมที่สุดแล้ว ถามว่าวิธีนี้จะเป็นวิธีที่เหมาะต่อการลุ้นแชมป์ไหม เหมาะเลยดูดีๆ ช่วงรันคลีนชีต 3 เกมรวมของ ทรู แบงค็อก ก็เล่นด้วยแนวคิดแบบนี้ ต่างไปเพียงวิธีเท่านั้น

เกมเหนียวลุ้นแชมป์ได้ไม่แปลกมีตัวอย่างมากมายในโลกฟุตบอล ทีมที่เล่นเกมรับดี เล่นแน่นอนเต็มไปด้วยวินัย ยั่วยุคู่แข่งหมายให้ธาตุไฟแตก ยิงไม่ถล่มทลาย ลูกนึง สองเม็ด หากยิงสามเม็ดเป็นสิ่งหายาก ทีมแบบนี้เต็มไปหมด มีแชมป์ติดมือด้วย อันดับดีด้วย โชเช่ มูรินโญ่ ไง โห่ไล่กันนักหนา ลองประกาศไล่ออกนาทีนี้สิ รับรองไม่เกินสามเดือนงานใหม่มีมาประเคนให้เลือกแน่ สุดแท้แต่เจ้าตัวจะรับไหม

ถามต่อว่าวิธีที่ใช้แล้ผลแบบนี้ทาง “สิงห์ เชียงราย” จะเลือกใช้เป็น “ธีม” ของฤดูกาลไหม แวบแรกที่ถามเองตอบเองผมเชื่อว่าไม่เพราะด้วยสไตล์ของทีมที่เล่นมาตลอดความเร้าใจอันเป็นจุดขายมาเสมอตั้งเริ่มสร้างทีมท้องถิ่นนิยมแห่งนี้ เช่นกันกับรสนิยมของแฟนฟุตบอลไทย

นึกภาพไม่ออกเหมือนกันว่าหากทีมปรัชญาแบบที่ว่า ตีหัวเข้าบ้าน เล่นชัวร์เน้นแน่นอน ตรึงพื้นที่ให้เต็มเกมรับเล่นให้อดทน เกมอึดอัดใครพลาดก่อนเสร็จก่อน ขอเปรี้ยงเดียวเก็บแต้มเก็บชัยชนะ อย่านำนะ นำปุ๊ปปิดบ้านชนะเลย หากเล่นแบบนี้จริงๆ ได้ลุ้นได้แชมป์จริงคอบอลบันเทิงไม่นิยมความซับซ้อนแบบบ้านเราจะรับได้ไหม เออ น่าคิด…

…

….

…..

Next TPL Record

ด้วยความลงตัวประจวบเหมาะกับโปรแกรมที่ถี่ยิบบวกกับนักเตะชุดใหญ่ไม่พอใช้นักทำให้เกม สิงห์ เชียงราย พบ บุรีรัมย์ วานนี้ (22 เมษายน) ทางทีมเยือน และแชมป์เก่าใส่รายชื่อของ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา เด็กหนุ่มวัย 15 ปี 8 เดือน 21 วัน รวมอายุได้ 5,742 วัน นั่งประจำการเป็น 1 ใน 6 ผู้เล่นสำรองด้วยเสื้อหมายเลข 54

หากเขาได้รับโอกาสลงสนามแม้แต่นาทีเดียว สถิติผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ได้รับโอกาสบนลีกสูงสุดของบ้านเราจะเกิดขึ้น

ทำลายสถิติเดิมของ เอกนิษฐ์ ปัญญา (ปัจจุบัน ถูกยืมตัวไปอยู่กับ เชียงใหม่ เอฟซี) ทำเอาไว้เมื่อวันนี้ 21 กันยายน 2016 เกมที่ เชียงราย ชนะ ศรีสะเกษ เอฟซี 3-0

วันนั้น เอกนิษฐ์ อายุ 15 ปี 11 เดือน 5 วัน ก่อนที่ 23 วันให้หลังเขาจะทำประตูได้ และครองสถิติผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ยิงได้ เท่ากับว่าจากวันนี้ไป ศุภณัฏฐ์ มีเวลาราวสองเดือนนิดในการพาตัวเองลงสนามให้ได้

ลุ้นกันว่าสถิติจะเกิดขึ้นไหม

…

….

“ต็อกตั้ม พรรษิษฐ์”

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/2HtYS2N
ดูสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/TrueIDSportsLive

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports