เรียกได้ว่าเหมือน "พลิกนรก" อีกครั้งนึงเลยสำหรับ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่สามารถพลิกกลับมาชนะ "สิงห์ผงาด" แอสตัน วิลลา หลังจากที่วิลลานั้นออกนำตั้งแต่ช่วงต้นของครึ่งเวลาแรก 0-2 แต่สุดท้ายในครึ่งหลังรัวแซงสามเม็ดและกลับมาชนะแบบสุดมันส์ 3-2 หลังเกมแมนยู พบ แอสตันวิลลานั้นมีเรื่องให้พูดถึงอยู่หลากหลายประเด็นพอสมควร เพราะอย่างที่เห็นๆ กันก่อนเกมครับว่าทั้งสองทีมนั้นมีฟอร์มการเล่นที่ต่างกันพอสมควร แมนยูนั้นฟอร์มอย่างต่อเนื่องมาหลายเกม แต่วิลลานั้นเพิ่งจะมาสะดุดในเกมที่เสมอกับเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ดในบ้านตัวเอง แต่โดยรวมนั้นยังดูดีกว่าแมนยูพอสมควร แต่กับการเล่นในโอลด์ แทรฟฟอร์ดนั้นวิลลาก็ไม่ได้เป็นของแสลงกับแมนยูซักเท่าไหร่ 29 เกมที่พบกันในบ้านของแมนยูในยุคพรีเมียร์ลีก วิลลาสามารถบุกมาชนะได้เพียง 2 ครั้งเท่านั้น ส่วนในฤดูกาลนี้ก็เป็นอีกปีที่วิลลาต้องอกหักกลับบ้านไป 5 ประเด็นตามชื่อบทความจะมีเรื่องใดของหลังเกมคู่นี้ ไปดูกันเลยครับ1. แค่คุณเปิด ทีมก็เปลี่ยนเรื่องนี้ผมขออนุญาตมาเป็นหัวข้อแรกหัวข้อเปิดเลย เพราะมันเกี่ยวกับ "การเปิดบอล" เพราะนี่คือเกมหนึ่งที่ผมเชื่อว่าแฟนแมนยูพอใจมากๆ กับรูปเกมในครึ่งหลัง ความจริงก็ไม่ได้แย่อะไรมากมาย เพียงแต่มาเจอทีเด็ดลูกเซ็ตพีท แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเลยว่าดีขึ้นในเกมนี้คือการเปิดบอล ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาช่วงที่ฟอร์มแย่ ยิงไม่ได้หลายเกมติดต่อกัน นั่นมาจากการเล่นบอล "ชายเดี่ยว" ของผู้เล่นริมเส้นทั้งสองฝั่งของแมนยู เป็น "เดอะ มุ่ง" กันทั้งมาร์คัส แรชฟอร์ดและอเลฮันโดร การ์นาโช แต่วันนี้ทั้งคู่นั้นดูแตกต่างออกไปจากเกมก่อน ทั้งคู่นั้นมีความพยายามที่จะเปิดบอลให้กับราสมุส ฮอยลุนด์มากขึ้น โอเคแหละ มันเข้าเป้าบ้าง ไม่เข้าเป้าบ้าง แต่อย่างน้อยมันก็มีความพยายามที่จะเปิดมากกว่าเกมก่อนๆประตูที่แมนยูไล่ตีไข่แตก 1-2 ขึ้นมาก็มาจากการเปิดของแรชฟอร์ดที่ตบบอลเข้าไปที่เสาสองและความจริงก่อนหน้านั้นก็มีจังหวะที่แรชเปิดปาดบอลให้การ์นาโชหลุดเข้าไปล็อคหลบเอมี มาร์ติเนซแต่น่าเสียดายที่ประตูล้ำหน้าไปก่อน แบบเหลื่อมนิดเดียว แต่มันก็คือสัญญาณและทิศทางที่ดีขึ้นที่อย่างน้อยก็เพิ่มโอกาสในการยิงประตูมากกว่าการเลี้ยงตะลุยไปยิงเอง และนี่คือสถิติหลังเกมของทั้งแรชฟอร์ดและการ์นาโชครับแรชฟอร์ด: ผ่านบอลสำเร็จ 19 ครั้ง, ชนะแทคเกิล 3 จาก 4 ครั้ง, เลี้ยงผ่าน 3 ครั้ง, ยิง 3 ครั้ง, สร้างโอกาสสำคัญ 1 ครั้งและ 1 แอสซิสต์การ์นาโช: ผ่านบอลสำเร็จ 17 ครั้ง, ยิง 4 ครั้ง, เลี้ยงผ่าน 3 ครั้ง, ชนะการดวล 3 ครั้งและ 2 ประตู2. แอสตัน วิลลากับลูกเซ็ตพีทถึงแม้ว่าในเกมนี้จะเป็นฝ่ายปราชัยไป แต่สิ่งหนึ่งที่แอสตัน วิลลาของอูไน เอเมรีนั้นถูกพูดถึงก็คือจังหวะการได้ประตูทั้งสองลูก แถมทั้งสองลูกนั้นก็มาจากลูกเซ็ตพีท โดยลูกแรกนั้นมาจากลูกฟรีคิกด้านข้าง ส่วนลูกที่สองมาจากลูกเตะมุมซึ่งทั้งสองลูกนั้นก็มีเรื่องให้พูดถึงทั้งคู่เลยประตูแรกมีการจับภาพไปที่ก่อนที่จอห์น แม็คกินน์จะเปิดฟรีคิก จะเห็นว่าลีออน ไบลีย์นั้นไปยืนอยู่ด้านหลังของอ็องเดร โอนานาเหมือนเป็นการหลบกวนสมาธิของโอนานาและพอจังหวะที่แม็คกินน์เปิดเจ้าตัวก็วิ่งออกมาจากตรงนั้น ส่วนประตูที่สองที่มาจากลูกเตะมุมก็เป็นสูตรที่ใช้ผู้เล่นบล็อคการวิ่งตามตัวประกบ หากย้อนไปดูภาพช้าจะเห็นได้ว่าในตอนแรกค็อบบี ไมนูนั้นประกบเคลมองต์ ลองเลต์อยู่ แต่พอลองเลต์ออกตัววิ่งฉีกมาที่เสาสอง จะมีเอซรี คอนซานั้นเป็นคนที่บล็อคการวิ่งของไมนูไม่ให้ตามประกบลองเลต์มาได้ สุดท้ายลองเลต์ก็มาที่จุดนัดพบบริเวณเสาสองก่อนที่จะโหม่งเข้าในให้เลอันเดอร์ เดนดองเกอร์ยิงเข้าไปแบบเป๊ะทุกจังหวะความดีความชอบในการเล่นลูกเซ็ตพีทนั้นต้องยกให้ "ออสติน แม็คฟี" โค้ชลูกเซ็ตพีทที่ย้ายมาเป็นหนึ่งในสตาฟฟ์ของวิลลาตั้งแต่ฤดูกาล 2021/2022 เพราะนับตั้งแต่ที่เขามาอยู่กับวิลลาก็ทำให้ทีมสิงห์ผงาดนั้นมีลูกเซ็ตพีทที่น่ากลัวขึ้นเป็นอย่างมาก3. แมคทอมโดนดรอปแล้วโว้ยยยยยยย"วันนี้ที่รอคอย" ใช่ครับ ถึงผมจะเป็นแฟนลิเวอร์พูลแต่ก็คอยตามแช่ง เอ้ย! ตามดูแมนยูแทบทุกนัด บอกตรงๆ ว่าในที่สุดในนี้ก็มาถึง วันที่เอริก เทน ฮากนั้นตัดสินที่จับสก็อตต์ แมคโทมิเนย์นั่งเป็นสำรองซักที ในที่สุดก็ไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงซักที น้ำตาจะไหล เพราะอย่างที่บอกครับว่าตามดูแมนยูหลายเกม แทบจะทุกเกมก็ว่าแล้วก็จะเห็นได้ชัดว่าแมคทอมนั้นโคตรจะ "ไร้ประโยชน์" กับแมนยู ถ้าหากไม่เชื่อ ย้อนอ่านในบทความที่ผมเคยเขียนถึงแมนยูได้เลย ผมบ่นตลอดทุกครั้งที่แมคทอมลงเพราะผมไม่เห็นประโยชน์ในตัวของแมคทอมในฐานะกองกลางเลย กองกลางอะไรที่ไม่ช่วยเพื่อนไล่เพรสซิงเลย เสียบอลก็ไม่ไล่เอาคืน ไม่ไล่ไม่พอแต่ภาพที่เห็นคือการวิ่งจ๊อกกิงตามไป "วิ่งจ๊อกกิง" เนี่ยนะ ถามจริงเถอะ หรือเวลาเล่นเกมรับก็ไม่ได้เข้าประกบและต่อให้ประกบก็ตามประกบแบบจ๊อกกิง จ๊อกอีกแล้วครับ จ๊อกตลอด ย้อนไปในเกมที่บุกไปแพ้เวสต์แฮม ประตูที่เวสต์แฮมขึ้นนำน่ะที่ลูคัส ปาเกตาได้ยกบอลข้ามแนวกองหลังแมนยูไปให้จาร์ร็อด โบเวนหลุดเข้าไปยิง หากย้อนไปดูจะเห็นว่าแมคทอมนั้นเห็นแล้วนะว่าปาเกตาว่างอยู่และรับบอลมาแล้ว แต่สิ่งที่แมคทอมทำก็คือวิ่งจ๊อกอยู่ข้างหน้าของปาเกตา ไม่วิ่งเขาไปเพรสใส่ปาเกตาให้ออกบอลง่ายๆ วิ่งจ๊อกดูคู่แข่งจ่ายบอล ให้ตายเถอะกลับมาที่เกมนี้ครับ เพียงแค่แมคทอมไม่ได้ลงสนาม แมนยูก็เล่นดีขึ้นแถมพอส่งแมคทอมลงมาครึ่งหลัง ทั้งๆ ที่เป็นตัวสำรองแต่ก็เหมือนเดิมครับ ไม่วิ่ง วิ่งทีก็วิ่งแค่จ๊อกกิง ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่วิ่งเต็มที่แบบคนอื่นบ้าง และไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมแมคทอมถึงยังได้ลงสนาม งงเทน ฮากเหมือนกัน4. บรูโนยังสำคัญเสมอและตลอดไปกัปตันทีมแมนยูในเกมนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่สำคัญมากๆ เพราะด้วยไลน์กองหลังของแอสตัน วิลลาที่ยืนสูงมันทำให้พื้นที่หลังบ้านของวิลลานั้นมีค่อนข้างเยอะและเปิดโอกาสให้บรูโน แฟร์นันด์สเปิดบอลข้ามหัวกองหลังอยู่บ่อยครั้ง หลายคนอาจจะชอบบ่นว่าบรูโนจ่ายบอลเสียเยอะ จ่ายไม่ละเอียดต่างๆ นานา แต่กลับกัน ในทีมแมนยูน่ะจะมีซักทีคนที่สร้างสรรค์โอกาสได้เยอะเท่าบรูโน จ่ายเสียเยอะก็จริง แต่จะมีซักกี่คนที่จ่ายแบบกล้าได้กล้าเสียแบบบรูโนและเมื่อย้อนกลับไปดูไฮไลท์ 3 ประตูที่ได้มามีถึง 2 ประตูที่บรูโนมีส่วนร่วม ประตูตีเสมอเขาคือคนที่จ่ายให้แรชฟอร์ดหลุดเข้าไปเปิดบอลให้กับการ์นาโชยิง ส่วนประตูชัยที่ฮอยลุนด์ยิงได้ก็มาจากการเปิดเตะมุมของกัปตันโน่ และความจริงลูกที่แรชฟอร์ดปาดบอลให้การ์นาโชและล็อคหลับมาร์ติเนซ คนที่จ่ายบอลให้แรชฟอร์ดก็คือบรูโนนี่แหละ ผมถึงได้บอกว่าต่อให้อะไรจะเกิดขึ้น บรูโนก็ยังสำคัญกับแมนยูเสมอ และนี่คือสถิติหลังจบเกมของบรูโนครับผ่านบอลเข้าพื้นที่สุดท้ายมากที่สุด 30 ครั้งครอสบอลมากที่สุด 7 ครั้งเข้าปะทะมากที่สุด 6 ครั้งสร้างโอกาสมากที่สุด 4 ครั้งเลี้ยงบอลสำเร็จมากที่สุดอันดับ 2 (2 ครั้ง)สถิติที่บอกไปข้างบนนั้นเป็นเพียงสถิติที่เกิดขึ้นในครึ่งหลังนะครับ นอกจากนี้ยังมีสถิติที่สุดยอดในเรื่องของการสร้างสรรค์โอกาสอีก ในปี 2023 นี้ไม่มีนักเตะคนไหนที่สร้างโอกาสในจังหวะโอเพน-เพลย์ให้กับเพื่อนร่วมทีมได้มากเท่าบรูโนอีกแล้ว เขาสร้างโอกาสไปแล้ว 100 ครั้งเป็นสถิติที่มากที่สุดเหนือผู้เล่นทุกคนในพรีเมียร์ลีก ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่างโมฮาเหม็ด ซาลาห์ถึง 29 ครั้งและเป็นคนที่ 2 นับตั้งแต่ปี 2004 ที่สามารถสร้างสรรค์โอกาสแบบโอเพน-เพลย์ได้ถึง 100 ครั้งในหนึ่งรอบปฏิทินต่อจากเมซุส โอซิลที่เคยทำไว้ 104 ครั้ง5. ฮอยลุนด์ปลดล็อกซักทีในที่สุดก็ปลดล็อกได้เสียทีสำหรับ "ราสมุส ฮอยลุนด์" ที่สามารถเบิกประตูแรกของตัวเองในพรีเมียร์ลีกได้แล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขายิงได้แค่ในเวทียูฟา แชมเปียนส์ลีกจำนวน 5 ประตู แต่หลังจากที่เขาลงเล่นในพรีเมียร์ลีกมา 14 เกม เขานั้นเป้าสะอาด เจาะตาข่ายคู่แข่งไม่ได้เลย แต่ในเกมที่ 15 เขาก็สามารถยิงประตูแรกของตัวเองในพรีเมียร์ลีกได้แล้วหลังจากที่ยิงได้เจ้าตัวนั้นก็ระเบิดอารมณ์ออกมาทันที รวมถึงเพื่อนร่วมทีมที่วิ่งเข้ามาดีใจกันแบบบ้าคลั่ง ถึงขั้นที่โอนานาก็ยังวิ่งมาดีใจด้วย แสดงให้เห็นถึงความอึดอั้น ความกดดันที่เขาเก็บสะสมมาตลอดและในที่สุดวันนี้ วันที่สามารถเขายิงได้ในพรีเมียร์ลีกก็มาถึง ซึ่งเขาใช้เวลาไปกว่า 1,026 นาทีในการยิงประตูแรกในพรีเมียร์ลีก และนี่คือสถิติหลังเกมของฮอยลุนด์ครับผ่านบอลสำเร็จ 100%สัมผัสบอล 22 ครั้งคีย์พาส 1 ครั้งยิง 1 ครั้ง1 ประตูยินดีด้วยนะฮอยลุนด์ ปลดล็อคซักทีบทความที่เกี่ยวข้องเปิดสถิติต่างๆ ของ "ราสมุส ฮอยลุนด์" (ว่าที่) กองหน้าคนใหม่ของปีศาจแดง"ค็อบบี ไมนู" แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ของแมนยูวารานรับจบ, นูนเญซพึ่งไม่ได้!!! 5 ประเด็นหลังเกมแดง (ไม่) เดือดผีปลิว UCL, เสียแมคไกวร์!!! 5 ประเด็นหลังบาเยิร์นดีดแมนยูตกรอบ UCLสาลิกาไร้ที่ติ, เดอะแบก แมคไกวร์!!! 5 ประเด็นหลังเกมนิวคาสเซิล พบ แมนยูขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจากStatman DaveOfficial Facebook ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและแอสตัน วิลลาภาพปก, ภาพประกอบ 1, ภาพประกอบ 2, ภาพประกอบ 3, ภาพประกอบ 4 และภาพประกอบ 5 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !