ลิเวอร์พูล เริ่มต้นฤดูกาลนี้ด้วยการเอาชนะแมนเชสเตอร์ซิตี้ ในศึกชิงโล่คอมมูนิตี้ชิลด์ ถือว่าเป็นการเริ่มต้นด้วยการฉลองอย่างสวยงาม แต่หลังจากนั้นเมื่อพรีเมียร์ลีกเริ่มเปิดฉากขึ้น ฟอร์มการเล่นกลับไม่เป็นอย่างที่คาดไว้ นัดแรกเริ่มต้นด้วยการไล่ตามตีเสมอทีมน้องใหม่ฟูแล่ม บุกไปแพ้ให้กลับคู่ปรับตลอดกาลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เสมอกับคู่แข่งร่วมเมืองเอฟเวอร์ตัน และล่าสุดประเดิมบอลถ้วยใหญ่ของยุโรป ด้วยการบุกไปโดนนาโปลีไล่ต้อนคาถิ่น ทำให้เกิดการตั้งคำถามตัวโตๆว่า เกิดอะไรขึ้นกับลิเวอร์พูลกันแน่? ลิเวอร์พูลที่แข็งแกร่งทีมเดิมหายไปไหน?ปัญหาต่างๆเริ่มแสดงออกมาชัดเจนมากยิ่งขึ้น เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็น่าจะได้เห็นกับตาตัวเองในหลายๆเกมที่ผ่านมา และคงกำลังหาวิธีจัดการกับทุกๆปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ เพื่อพาทีมผ่านช่วงวิกฤต และฟื้นคืนชีพลิเวอร์พูลทีมเดิมให้กลับมามีชีวิตขึ้นอีกครั้ง วันนี้ NPK Footballstyle จะพามาวิเคราะห์ถึง 5 ต้นตอ สาเหตุสำคัญที่ทำให้ลิเวอร์พูลทำผลงานได้ไม่ดีเหมือนเดิม ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นเรามาติดตามกันได้เลย1. ความอ่อนล้า และความกระหายของนักเตะนักเตะลิเวอร์พูลชุดนี้ผ่านการลงเล่นอย่างหนักมาเมื่อฤดูกาลที่แล้ว การได้เข้าชิงทุกถ้วย ทำให้นักเตะต้องลงเล่นตามโปรแกรมครบทุกเกม และยิ่งเป็นฤดูกาลที่ไม่ปกติ มีเวลาพักช่วงปิดซีซั่นค่อนข้างน้อย การฟื้นตัวของสภาพร่างกายจึงไม่เต็มที่ ทำให้หลังจากกลับมาซ้อมได้ไม่นาน ก็มีนักเตะบาดเจ็บไปหลายคน ส่วนคนที่อยู่รอดปลอดภัยก็ยังมีอาการล้าติดตัวกันแทบทั้งนั้นอย่างเช่น ฟาบินโญ่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดูจะมีจังหวะการเล่นที่ช้าลง ไม่ว่องไวเหมือนเดิม และมักจะถึงบอลช้ากว่าคู่แข่งหนึ่งจังหวะ แม้แต่พี่ใหญ่อย่าง เวอร์จิล ฟานไดจ์ค ก็ดูจะตัดสินใจได้ช้าลงจนเข้าบอลผิดพลาดไปหลายครั้ง ส่วน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก็เป็นอีกคนที่ฟอร์มตกลงไปมาก อีกทั้งความมุ่งมั่นและความกระหายในการเล่นก็ดูจะลดน้อยถอยลงไปอีกด้วย2. การป้องกัน เกมรับเสียประตูง่ายเกมรับที่เคยเป็นจุดแข็งของทีม แต่มาในปีนี้การป้องกันกลับกลายเป็นจุดอ่อน จากการลงเล่นทั้งหมด 7 เกม (รวมบอลถ้วยยุโรป) ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายโดนทีมคู่แข่งยิงออกนำไปก่อนถึง 5 เกม และมีเพียงแค่ 1 เกมเท่านั้นที่สามารถพลิกกลับมาเอาชนะได้ จากสถิติแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการป้องกันของเกมรับมีปัญหาหนัก การเสียประตูให้คู่แข่งก่อนทำให้ทีมเล่นได้ยากมากขึ้น และสุดท้ายก็ทำคะแนนหล่นหายไปอย่างมากมาย3. คู่แข่งจับทางได้ รู้วิธีโจมตีนอกจากฟอร์มการเล่นที่ตกลงไปจากเดิมแล้ว อีกหนึ่งความหายนะก็คือ ทีมคู่แข่งส่วนใหญ่เริ่มเรียนรู้และจับทางวิธีการเล่นของลิเวอร์พูลได้ รู้จุดอ่อนและวิธีเจาะแนวรับเข้าไปยิงประตู เพียงแค่มาเล่นเกมรับให้แน่นหนา ปล่อยให้ลิเวอร์พูลครองบอลเดินเกมบุกเข้ามาใส่ แต่พยายามไม่ให้ส่งบอลเข้าพื้นที่อันตรายได้ พอกองหลังลิเวอร์พูลดันขึ้นสูง แบ็คทั้งข้างก็เติมเกมรุกขึ้นมาไกล ทำให้มีพื้นที่ว่างทั้งทางด้านข้าง และด้านหลังค่อนข้างมาก กลายเป็นจุดสลบที่คู่แข่งใช้โจมตี เพราะถ้าเอาชนะกับดักล้ำหน้าได้ ก็มีโอกาสสูงที่จะได้ลุ้นยิงประตู4. อาการบาดเจ็บ ปัญหาการบาดเจ็บเป็นเรื่องที่ยากจะป้องกันได้ นี่อาจจะไม่ใช่ข้ออ้างที่ทำให้ทีมฟอร์มไม่ดี แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่งผลกระทบต่อทีมไม่น้อยเลยเหมือนกัน โดยเฉพาะการขาดหายไปของนักเตะตัวหลัก อิบราฮิมา โคนาเต้, โจเอล มาติป, ติอาโก้ อัลคันทารา, ดีเอโก้ โจต้า ทำให้ทีมขาดความสมดุล และตัวสำรองก็ยังไม่สามารถทดแทนได้ แต่ยังโชคดีที่แต่ละคนไม่ได้เจ็บหนักมาก และค่อยๆเริ่มทยอยกลับมาช่วยทีมกันได้บ้างแล้ว 5. นักเตะใหม่ ช่วยยกระดับทีมไม่ได้ ลิเวอร์พูลมีการเสริมนักเตะใหม่เข้ามาในฤดูกาลนี้ทั้งหมด 4 คนด้วยกัน ประกอบด้วย ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่, คาลวิน แรมซีย์, ดาร์วิน นูเญซ และอาร์ตูร์ เมโล่ ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนเป็นนักเตะที่ดี สามารถเข้ามาช่วยทีมได้ในอนาคตอันใกล้ แต่ก็ต้องการเวลาในการปรับตัว ยังไม่ใช่นักเตะประเภทที่สามารถยกระดับทีมได้ในทันที คาลวิน แรมซีย์ ยังมีอาการบาดเจ็บไม่ได้มีส่วนร่วมกับทีม / ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ เล่นได้น่าตื่นตาลงมาช่วยพลิกเกมได้ แต่ยังไม่เหมาะเป็นตัวหลักในตอนนี้ / ดาร์วิน นูเญซ เป็นอาวุธใหม่ที่น่าสนใจ แต่ยังต้องปรับเรื่องการคุมอารมณ์ และความมั่นใจในการจบสกอร์ / อาร์ตูร์ เมโล่ เพิ่งย้ายมาร่วมทีมช้ากว่าคนอื่น ยังคงต้องเรียกความฟิตและเรียนรู้วิธีการเล่นของทีม เช่นกันต้องรอดูกันว่า หลังจากที่นักเตะตัวหลักเริ่มหายเจ็บกลับมาช่วยทีมกันได้ รูปเกมของลิเวอร์พูลจะกลับมาดีขึ้นมากแค่ไหน รวมถึงนักเตะใหม่จะสามารถปรับตัวได้เร็ว จนกลายเป็นกำลังสำคัญของทีมได้หรือเปล่า และเจอร์เก้น คล็อปป์ จะใช้เวลานานแค่ไหนในการจัดการปัญหาต่างๆเหล่านี้ แต่ยังไงซะเชื่อว่าสุดท้ายแล้ว ลิเวอร์พูล จะสามารถกลับมาเป็นทีมที่แข็งแกร่งเหมือนเดิมได้อย่างแน่นอนทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนเล็กๆ จาก NPK Footballstyle เท่านั้นนะครับ ไม่สามารถนำไปอ้างอิงหรือเหมารวมว่าเป็นความเห็นของคนส่วนใหญ่ได้ แต่ถ้าหากเพื่อนๆ ชอบในการวิเคราะห์ของเรา หรืออยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพิ่มเติม รบกวนฝากกดติดตามบทความอื่นๆของเราได้ทั้ง 2 ช่องทางด้านล่างนี้เลย ขอบคุณครับTrueid : NPK Footballstyleเพจ Facebook : NPK Footballstyleเครดิตภาพภาพทั้งหมดจาก Facebook : Liverpool FCภาพปก ปก 1: Liverpool / ปก 2 : Liverpool / ปก 3 : Liverpoolภาพ : ภาพ 1 : Liverpool / ภาพ 2 : Liverpoolภาพ : ภาพ 3 : Liverpool / ภาพ 4 : Liverpool / ภาพ 5: Liverpoolส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !