TRUE TALK : เมื่อ "เธียร์รี่ อองรี" เลือกกลับบ้านหลังแรกอย่าง "โมนาโก" ... by "Mr.BOSTON"
เธียร์รี่ อองรี ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการเล่นฟุตบอลมาตลอดอาชีพ และตอนนี้ เขาก็ได้รับตำแหน่งในฐานะผู้จัดการทีมคนล่าสุดของ โมนาโก แล้ว วันนี้เราจะกลับไปดูยังจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดกันอีกครั้ง
เรื่อง : บีบีซี สปอร์ต
แปล และเรียบเรียง : Mr. BOSTON
อดีตกองหน้าฝรั่งเศสชุดแชมป์โลกปี 1998 ยิงไปกว่า 400 ประตู และคว้าแชมป์รายการเมเจอร์มาแล้วทุกรายการ ถูกแต่งตั้งให้เป็นเฮดโค้ชคนใหม่ของ โมนาโก แทนที่ของ เลโอนาร์โด้ ชาร์ดิม ที่ถูกไล่ออกไปหลังทำผลงานดิ่งเหวในช่วงต้นฤดูกาล
ไม่มีใครรู้ว่า อองรี จะประสบความสำเร็จหรือไม่ที่ โมนาโก แต่นี่คือสิ่งที่เขาน่าจะนำติดตัวมาที่ โมนาโก ด้วย
อองรี รู้ดีว่าต้องทำอะไรทั้งในฐานะผู้จัดการทีม และกับสโมสร
อดีตกองหน้า อาร์เซน่อล, บาร์เซโลน่า และยูเวนตุส เริ่มต้นอาชีพที่ โมนาโก เขาพาทีมคว้าแชมป์ลีกเอิง ในฤดูกาล 1996-97 ทีมชุดนั้นมีผู้จัดการทีมชื่อ ฌอง ติกาน่า และยังมีนักเตะมากพรสวรรค์อีกหลายคน อาทิ ดาวิด เทรเซเก้ต์, เอ็มมานูเอล เปอตีต์, จอห์น คอลลินส์, เอ็นโซ่ ชีโฟ่ และ ฟาเบียง บาร์กเตซ
ตอนนี้ โมนาโก หล่นมารั้งอันดับ 18 ของลีกเอิง พวกเขาชนะเกมเดียวใน 12 เกมหลังสุดจากทุกรายการที่ลงเล่น ถือเป็นผลงานที่ย่ำแย่ของ ชาร์ดิม ที่เคยพาทีมคว้าแชมป์ลีกฝรั่งเศส ได้ในปี 2017 และแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2000
อองรี ที่มีข่าวเชื่อมโยงกับ แอสตัน วิลล่า ก่อนที่ตำแหน่งดังกล่าวจะไปตกกับ ดีน สมิธ มีชื่อเสียงขึ้นมาจากการเป็นผู้ช่วยของ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ในการทำงานกับทีมชาติเบลเยี่ยม
ยูเลียน โลร็องส์ คอลัมนิสต์ผู้เชียวชาญฟุตบอลฝรั่งเศส เคยกล่าวไว้ว่า “อองรี ตอบโจทย์หลาย ๆ อย่างสำหรับ โมนาโก ทั้งชื่อเสียง ความดึงดูด การเคยเป็นนักเตะ และเส้นทางอาชีพ
“ภาพลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเขาในการตั้งกุนซือใหม่ พวกเขาต้องการคนที่มีชื่อเสียง และภาพลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่พอที่จะตามรอย ชาร์ดิม เพราะว่า พวกเขาอยากรู้สึกว่าสโมสรได้กลับไปอยู่ในที่ๆ พวกเขาเคยอยู่เมื่อไม่นานมานี้ ถึงแฟนๆ จะไม่สนใจเท่าไหร่ก็ตาม”
ชาร์ดิม โดนไล่ออกหลังจากแพ้สามนัดติดต่อกันในลีก ต่อ อองเช่ร์, แซงต์ เอเตียน และแรนส์ ซึ่งมันดู “หมดไอเดีย” ในการทำทีมหลังโอกาสที่นี่ 4 ปีครึ่ง
“ในงานแถลงข่าวก่อนเกมที่แพ้ แซงต์ เอเตียน ที่นั้นมีนักข่าว (เพียงแค่) 10 คนเท่านั้น” โลร็องส์ กล่าว “นี่เป็นสโมสรใหญ่ที่เคยคว้าแชมป์ลีก และเข้าถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้ว
“การขาดแรงกดดันจากสื่อ กับ แฟนบอลอาจจะไม่ใช่ประเด็น – และอองรี ก็ดูจะไม่สนใจ – แต่ นี่น่าจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้สโมสรตัดสินใจเลือก อองรี ซึ่งหลังจากนี้จะมีผู้คนมากขึ้นในงานแถลงข่าว”
“การคุมทีมแอสตัน วิลลา ก็เป็นอีกเรื่องที่เขาให้ความสนใจจริงจัง เขาจับตามองเรื่องนี้ตลอด แต่ เขาอยากทำงานกับผู้เล่นอายุน้อย และ อยากรู้สึกว่าเขาผูกพันกับทีมมากกว่า”
“เขาเคยทำแบบนั้นที่ อาร์เซน่อล ในส่วนของทีมเยาวชนมาก่อน และการคุม โมนาโก ก็เหมือนการกลับบ้านอีกครั้ง มันให้คำตอบหลายข้อที่น่าพอใจสำหรับ อองรี ในการรับงานคุมทีมครั้งแรกได้เลย”
สตีฟ ครอสส์แมน ผู้เชียวชาญฟุตบอลยุโรปของ บีบีซี เพิ่มเติมว่า “มันเป็นการเลือกที่ชาญฉลาดของ อองรี มากกว่าการเลือกมาคุม แอสตัน วิลล่า แม้ว่า โมนาโก จะเป็นสโมสรที่ใหญ่กว่า แค่ความกดดันกลับน้อยกว่า และไม่มีแฟนโมนาโกคนไหน คาดหวังให้ทีมของพวกเขากระโดดขึ้นไปอยู่ส่วนบนของตารางในทันทีแน่นอน”
เป็นนักเตะที่นิยมความเพอร์เฟ็ค แต่อาจไม่ใช่ในการมาเป็นผู้จัดการทีม
มากกว่าความสำเร็จที่ โมนาโก ตลอดอาชีพการเล่นของ อองรี เขายังเคยคว้าแชมป์ลีกในอังกฤษกับ อาร์เซน่อล และแชมป์ลีกสเปนกับ บาร์เซโลน่า
เขายังเคยคว้าโทรฟี่แชมเปี้ยนส์ ลีก และถ้วยฟุตบอลสโมสรในประเทศอีก 3 รายการ รวมไปถึง ฟุตบอลโลก, ฟุตบอลยูโร และคอนเฟเดอเรชั่นส์ คัพ กับ “เลส เบลอส์” (ทีมชาติฝรั่งเศส)
“อองรี คาดหวังกับตัวเองมหาศาลในสมัยเป็นนักเตะ สังเกตได้จากการที่เขาแทบไม่ยิ้มเลยในการฉลองการทำประตูแต่ละสกอร์” โลร็องส์ กล่าว “พ่อของเขาก็ตั้งความหวังกับเขาตั้งแต่ยังเด็ก และไม่เคยแสดงออกว่ามีความสุขกับอะไรก็ตามที่เขาทำสำเร็จ
“แม้ว่า เขาจะเข้าสู่ แกลร์กฟงแตน (ศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติของ ฝรั่งเศส) ได้, แม้ว่าเขาจะยิงประตูให้ โมนาโก พอเขาเขาก็จะบอกว่า ‘ลูกยังพลาดโอกาส 2 หรือ 3 ครั้งอยู่’ นั่นอาจจะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของ อองรี ในฐานะผู้จัดการทีมก็ได้
“เมื่อ มิเชล พลาตินี่ ตำนานผู้เล่นทีมชาติฝรั่งเศส กลายมาเป็นรผู้จัดการทีม เขาไม่ได้เป็นที่กล่าวขาน หรือตำนานเกี่ยวกับความสำเร็จ ปัญหาที่เขาเจอคือการฝึกสอนนักเตะฝรั่งเศสบางคนโดยการไม่ทำอะไรแปลกใหม่ และเขามักจะเรียกบอลในการซ้อมเสมอ เขาเลือกจะเปิดบอลไกลระยะ 70 หลาเห็นจะได้ แล้วบอกทุกคนว่า “นี่คือสิ่งที่คุณต้องทำ”
“นั่นก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ท้าทาย อองรี และเขาต้องทำความเข้าใจมันให้ได้ เพราะว่า ถ้ามีบางคนพลาดโอกาสทองในการซ้อม เขาคงอยากแสดงให้เห็นว่าการยิงประตูที่ดีทำอย่างไร แต่นั่นจะไม่เวิร์ก เมื่อเขาเป็นผู้จัดการทีม
“นี่เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆ ที่จะได้เห็นเขารับมือกับเรื่องราวทั้งหมดนั่น เขาเป็นพวกเพอร์เฟ็คชั่นนิส และมันยังพอมีเวลาก่อนที่เขาจะเจอกับอะไรที่ยากลำบาก”
“คุณเรียกใครว่า อองรี ?” – ความคาดหวังการได้รับความเคารพ
อองรี ทำงานของเขาได้อย่างยอดเยี่ยม ในยุดที่เกิดเล่นกันอบบสมัยใหม่ขึ้นเรื่อยๆ เขาได้เล่นร่วมกับ ซีเนอดีน ซีดาน, ลิโอเนล เมสซี่ และเดนนิส เบิร์กแคมป์ แถมยังได้ร่วมงานกับโค้ขอย่าง อาร์แซน เวนเกอร์ และเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ด้วย
ประวัติส่วนตัวของกองหน้า อาร์เซน่อล และบาร์เซโลน่ารายนี้เรียกว่า มากด้วยคุณภาพ และเขาก็ต้องการได้รับความเคารพมากไปด้วยเช่นกัน
โลร็องส์ เล่าให้ฟังว่า “ผมจำได้ เมื่อ อองรี กลับไปที่อคาเดมี่ของ โมนาโก ตอนนั้นเขาอยู่กับบาร์เซโลน่า และมีสองสามคนที่เคยเห็นเขาจากรูป แล้วเห็นเขาอยู่ที่ลอบบี้ของอคาเดมี่นั้น
“วันนั้น พวกเด็กๆ เห็นเขา เลยตะโกนออกไปว่า ‘อองรี, นั่น อองรี’ แล้วเขาก็หันกลับไปหาเด็กๆ แล้วบอกว่า ‘พวกนายเรียกใครว่า อองรี ? เราไม่ได้โตมาด้วยกันนะ คุณต้องแสดงออกถึงความเคารพกันบ้างสิ’ และความเคารพที่ว่า เป็นเรื่องใหญ่สำหรับเขา ซึ่งมันเป็นเช่นนั้นมาตลอดชีวิต
“โมนาโก เป็นทีมที่อายุน้อย และ เขาต้องการความเคารพอย่างมากจากทีมชุดนี้ แม้ว่า เขาจะไม่เคยเป็นผู้จัดการทีมมาก่อน ดังนั้น บรรยากาศในห้องแต่งตัวระหว่างเขากับนักเตะ ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ นักเตะบางคนในทีม อาจจะทันได้เห็นเขาเล่นในสนามมาบ้าง แต่บางคน ยังไม่เกิดด้วยซ้ำ ในวันที่ อองรี คว้าแชมป์โลก ในปี 1998
“เขาจะใช้แผนไหนในการเล่น เราไม่เคยรู้เกี่ยวกับปรัชญาการทำทีมของเขา เขาจะทำทีมเหมือน อาร์เซน เวนเกอร์ หรือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่าไหม ? หรือว่า จะแตกต่างกันไปชนิดจำไม่ได้เลย?”
กิลเยม บาลาเก้ ผู้เชี่ยวชาญด้านฟุตบอลสเปน กล่าวว่า “การพัฒนาผู้เล่น” จะเป็นตัวกำหนดช่วงเวลาของ อองรี ที่ โมนาโก
บาลาเก้ กล่าวว่า “เขาจะถูกตัดสินจากการทำให้ ยูรี่ ตีเลอม็องส์ กลายเป็นผู้เล่นที่ควรจะเป็น รวมไปถึงการทำให้ โซฟิยาน ดิอ๊อป และนาเซอร์ ชาดลี่ กลายเป็นผู้เล่นที่ดีขึ้น
“ผมเคยได้รับเกียรติในการใช้เวลาบางส่วนกับเขา แล้วนั่งคุยเรื่องฟุตบอลกัน และสิ่งที่ผมคนพบคือการที่เขาจะพาไปสู่ประเด็นอะไรที่มันลึกๆ”
“เขามีคำตอบมากมายให้คำถาม และสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นได้ เมื่อคุณเคยเป็นนักเตะที่ประสบความสำเร็จ แต่เมื่อคุณกลายมาเป็นผู้จัดการทีม คุณจะต้องรับมือกับความพ่ายแพ้ ดังนั้น เขาจะรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร ?”
ถึงแม้จะมีแมตช์ก่อนหน้านั้น แต่หนึ่งในตารางลีกเอิงที่น่าสนใจที่สุดหลังจากนี้ของ อองรี คือเกมในวันที่ 8 ธันวาคม ที่ เขาต้องคุม โมนาโก พบกับ นีช ซึ่งมันจะกลายเป็นการพบกันของ 2 นักเตะ ชุด “ไร้พ่าย” ของ อาร์เซน่อล ในฤดูกาล 2003-04 ที่ปัจจุบันกลายมาเป็นผู้จัดการทีมทั้งคู่ อย่าง เธียร์รี่ อองรี และปาทริค วิเอร่า ด้วย
“Mr.BOSTON”
ดูบอลสดฟรี ไม่มีสะดุด ลูกค้าทรูมูฟ เอช รับเน็ต 2GB ดูทรูไอดีฟรี เปิดทรูไอดีทุกวันรับฟรีทุกวัน ตั้งแต่วันนี้ – 30 พ.ย.61 คลิกเลย
ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูบอลสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก!
ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!
ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports