เป็นอีกหนึ่งบิ๊กแมตซ์พรีเมียร์สัปดาห์นี้ระหว่างลิเวอร์พูลเปิดแอนฟิลด์รับปีศาจแดงแมนยูที่โคจรมาพบกันในช่วงเวลาที่แตกต่าง แดงเดือดครั้งก่อนที่เจอกันเมื่อเดือนสิงหาคมเป็นฝ่ายปีศาจแดงที่เอาชนะมาได้ 2 - 1 ที่โอลล์ทราฟฟอร์ด ซึ่งเป็นเกมแดงเดือดครั้งแรกของนายใหม่ปีศาจแดง และนั่นคือจุดเปลี่ยนของปีศาจแดงโดยแท้จริง เพราะก่อนหน้านั้นสองเกมแรกในฤดูกาล 2022-2023 ปีศาจแดงโดนคู่แข่งถล่มไป 6 ประตูแต่หลังจากเอาชนะลิเวอร์พูลในเกมแดงเดือดมาได้ผลงานปีศาจแดงก็เริ่มเข้าที่เข้าทางเก็บชัยได้ 4 นัดติดต่อกันและชัยชนะหนึ่งในสี่นัดก็คอเอาชนะอาร์เซนอล 3 – 1 สิ่งที่น่านสนใจอย่างมากของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็คือเรื่องของจุดเปลี่ยนนับตั้งแต่กลับมาเตะหลังฟุตบอลโลก ผลงานก็ทะยานมาเรื่อย ๆ ซึ่งแตกต่างจากเจ้าบ้านที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ แล้วทำไมถึงเป็นเช่นนั้นและเหตุผลอะไรที่ปีศาจแดงจะย้ำแค้นเอาชนะแบบไปกลับได้ในฤดูกาลนี้1. แท็กติกของ เอริค เทนฮาก เมื่อเจอกับกับทีมใหญ่เอริค เทนฮากผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่กลายเป็นผู้จัดการทีมในรอบกว่า 6 ปี ที่พาปีศาจแดงสู่แชมป์อีกครั้ง แม้ว่าจะโดยเหยียดหยันว่า”จะดีใจอะไรนักหนากับแชมป์มิคกี้เมาส์ ” แต่สำหรับสาวกปีศาจแดงก็คงบอกว่ายัง "ดีกว่าแชมป์ตราไก่ที่ไร้ซึ่งสปอนเซอร์" ซึ่งสิ่งที่เหนืออื่นใดที่ผู้จัดการทีมรายนี้ทำให้เห็นมาแล้วก็คือเรื่องของเทคติก รวมถึงการแก้เกมแม้ที่แม้ว่าในบ้างเกมจะถูกนำก่อนแต่สุดท้ายก็กลับมากำชัยได้สำเร็จนี่คือสิ่งที่เอริค เทนฮากได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของเขาเมื่อต้องรับมอกับสถานการณ์เช่นนี้ หากมองย้อนกลับไปในเกที่เจอกับทีมใหญ่ ๆ ที่ป่านมา ไม่ว่าจะเป็นชัยชนะครั้งใหญ่กับจ่าฝูงอย่างอาร์เซนอล (3-1), สเปอร์ส (2-0), แมนเชสเตอร์ ซิตี้( 2- 1) และยังเอาชนะหงส์แดง 2-1 ในนัดที่แล้ว แสดงให้เห็นแท็คติกที่แต่ละเกมจะแตกต่างกัน แต่สิ่งที่ชัดเจนกับเกมใหญ่เหล่านี้คือการอดทนและรอความผิดพลาด อาจจะอึดอัดแต่มันก็ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการเสมอ2. ปัญหาหงส์แดงที่ไม่จบไม่สิ้นสิ่งที่เป็นปัญหาของลิเวอร์พูลในช่วงเวลาสามเดือนที่ผ่านมาคือสภาพทีมที่สมบูรณ์ของนักเตะ ไม่ว่าจะเป็นทั้งแดนกลาง แดนหลัง โดยเฉพาะแดนกน้าที่ดูจะเหมือนกับจิ๊กซอร์ที่ต่อกันไม่ติดสักที แม้ว่าในบางเกมจะทำประตูได้ก็จริง แต่กว่าร้อยละ 60 เปอร์เซนก็มาจากความผิดพลาดของคู่แข่ง แต่หากจะพึ่งพาความสามารถของสองหอกใหม่ประจำทีมแทบจะคิดเป็นเพียงแค่รอบยะ 20 เปอร์เซนต่อเกมเท่านั้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาลิเวอร์พูลต้องดิ้นรนเพื่อคว้าชัยชนะทั้งในพรีเมียร์ลีกและยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกด้วยสถานการณ์ที่ไม่สมบูรณ์ร้อบเปอร์เซน ทำให้ผลงานที่ออกมานั้นหงส์แดงเก็บชัยชนะได้เพียง 4 นัดจาก 12 นัดหลังสุด โดยเสมอ 3 แพ้ 5 แม้ว่าในเกมล่าสุดจะเอาชนะไม่ได้ก็จริง แต่ตบอดทั้งเกมสิ่งที่หงส์แดงทำให้เห็นและกลายเป็นช่องโหว่ก็คือเรื่องของการจบสกอร์ที่ดูจะไร้ซึ่งความมั่นใจ นี่แหละคือปัญหาที่อาจจะนำมาสู้การเพลี้ยงพล้ำในเกมนี้3. ปีศาจแดงที่ยืนบนหน้าผาแห่งความสำเร็จเวลาที่ทีมใดทีมหนึ่งฟอร์มกำลังทะยานจะมีคำเปรียบที่เหล่าคอลูกหนังเมืองไทยมักจะชำกันนั้นก็คือ “มีแต่ลิฟต์ที่เอาลงได้” ซึ่งประโยคนี้ก็คงจะสามารถใช้ได้กับเหล่าพลพรรคปีศาจแดง ที่สะท้อนด้วยผลงานหลังจากผ่านช่วงฟุตบอลโลกนี่คือทีมเดียวในพรีเมียร์ลีกที่เก็บแต้มได้มากที่สุดตั้งแต่ปี2023 เป็นต้นมาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะคู่แข่ง 9 เกม เสมอ 2 จาก 11 เกมล่าสุด ยิงไป 26 ประตู อีกทั้งยังไม่แพ้ในเกมพรีเมียร์ลีก 4 เกมติดต่อกัน ด้วยสถิติและผลงานที่ออกมาขนาดนี้ก็คงทำใจเชื่อได้ยากว่าแมนยูที่ฟอร์มกระฉูดขนาดนี้จะมาพลาดท่ากับลิเวอร์พูลที่ผลงานผีเข้าผีออกและเอาแน่เอานอนกับสามแนวรุกได้4. หัวหอกที่สวนทางของทั้งสองทีมมาถึงตรงนี้จะไม่พูดถึงเรื่องของฟอร์มของศูนย์หน้าก็คงจะเหมือนกับตำส้มตำแล้วขาดผงชูรส เพราะหนึ่งในความสำเร็จของปีศาจแดงตอนนี้ก็คือฟอร์มอันยอดเยี่ยมของ มาคัส แรสฟอร์ด ที่เฉิดฉายหลังจากพ้นเงาของCR7 โดยตอนนี้ทำประตูได้ 17 ประตูจาก 20 เกมหลังสุดที่ลงเล่นในทุกรายการ แต่หากนับเพียงในพรีเมียร์ลีกที่ลงเล่นไป 24 เกม ยิงไป 14 ประตู ซึ่งเกือบเท่ากับจำนวนประตูของสามหัวหอกหงส์แดง ณ เวลานี้เมื่อเหลียวมองไปยังสามหัวหอกหงส์แดงที่หากนับเพียงในพรีเมียร์ลีกรวมกันยิงได้ 17 ประตูมากกว่าดอกเตอร์แรสเพียงแค่ 3 ประตูเท่านั้น (โมฮาเหม็ด ซาร์ลา 24 นัด 9 ประตู , โคดี้ กัคโป 7 นัด 2 ประตู ,ดาร์วิน นูเนซ 18 นัด 6 ประตู) มาถึงตรงนี้สาวกหงส์แดงก็คงจะไม่พอใจกับสถิติที่ออกมา แต่มันก็เป็นความจริงที่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าลิเวอร์พูลไม่ใช่ทีมที่ไม่มีโอกาสที่จะยิงคู่แข่งไม่ได้ แต่เป็นเพราะอยู่ในช่วงที่ขาดความมั่นใจเท่านั้นเอง หลายครั้งหลายคราที่มีโอกาสแต่กลับทำไม่ได้ นั่งจึงนำมาซึ่งผลงาน ณ ปัจจุบันที่ผลิตสกอร์ได้น้อย แตกต่างต่างเมื่อสองสามฤดูกาลก่อนโดยสิ้นเชิง5. เชื้อไฟ-ความกระหาย ที่แตกต่างกันหลังจากที่ปีศาจแดงเพิ่งคว้าแชมป์คาราวบาวคัพ 2022-2023 ไม่กี่วันต่อมาก็เพิ่งโกงความตายอาชนะขุนฆ้อนในเอฟเอคัพ 3 – 1หลังจากที่โดนนำก่อน นี่คือสิ่งที่ทำให้ได้เห็นว่านักเตะชุดนี้มีความกระหายที่อยากจะชนะเอามาก ๆ เมื่อเทียบกับนักเตะเมื่อสองสามฤดูกาลก่อน ที่เมื่อไหร่ก็ตามที่โดนนำสีหน้าสีตาออกแบบว่า ไม่เอาแล้วอะไรประมาณนั้น ซึ่งไม่ใช่แค่นักเตะแต่กองเชียร์เองก็รู้สึกเช่นนั้นด้วย แต่ตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปด้วยนักเตะหลายคนชุดนี้ของปีศาจแดงเพิ่งเคยคว้าแชมป์ในเกาะอังกฤษเป็นครั้งแรก นั่นยิ่งทำให้ติดใจในรสชาติของการคว้าแชมป์ เสมือนเป็นน้ำมันที่ราดไปบนกองไฟให้โหมแรงขึ้นเหล่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับเหล่าขุนพลหงส์แดงที่ในฤดูกาลนี้มีเพียงสองอย่างให้ลุ้นนั่นก็คือการจบอันดับท๊อปโฟร์และการผ่านเข้ารอบUCL อีกทั้งนักเตะชุดปัจจุบันเองก็ได้สัมผัสแชมป์มากทุกรายการบนเกาะอังกฤษ ทำให้ไฟแห่งความกระหายนั้นก็ดูจะลงน้อยถอยลงไปเช่นกัน มีนเหมือนกับฟองน้ำที่ซับจนพองนั่นแหละแม้ว่าจะเติมน้ำเข้าไปไหร่ก็ไม่สามารถพองตัวได้มากกว่าที่เป็นแล้ว แต่ไม่ใช่ว่าไม่อยากจะชนะในเกมแดงเดือดแบบนี้ เพราะเหนืออื่นใดก็ยังมีศักดิ์ศรีกับกลิ่นไอความขลังของเกมใหญ่แบบนี้อยู่ไม่ว่าบทสรุปในเกมแดงเดือดระหว่างสองคู่รักคู่แค้นลิเวอร์พูลและแมนยูเกมนี้จะจบลงอย่างไรผลกระทบจะเกิดขึ้นกับทั้งสองทีมที่อาจจะส่งผลกับสิ่งที่ได้วาดหวังไว้ของทั้งสองทีมอย่างแน่นอน แต่ที่แน่ ๆ เกมนี้เหล่าสาวกของทั้งสองทีมอย่าลืมไปร่วมกิจกรรมคอมเม้นรับรางวัล โดยสามารุเข้าร่วมกิจกรรมและรายละเอียดที่ลิ้งด้านล้างนี้ได้เลยร่วมกิจกรรมได้แล้วที่ คอมมูนิตี้ห้อง 'ฟุตบอล'ข่าวที่เกี่ยวข้องถึงเวลา "ค๊อบบี้ ไมนู (Kobbie Mainoo)" กองกลาง แมนยู โอกาสประเดิม พรีเมียร์ลีก"นาธาน บิชอป (Nathan Bishop)" ผู้รักษาประตู แมนยู ที่กำลังจะได้รับโอกาสจาก เอริค เทนฮากทำไม "แมนยู" ต้องการตัว เฟเดริโก้ คิเอซ่า เพื่อแก้ปัญหาทัพปีศาจวิเคราะห์แผน แมนยู เหตุใดถึงกล้าใช้แผนที่เสี่ยงขนาดนี้?วิเคราะห์ปัญหา ลิเวอร์พูล วางแผนผิด หรือคิดสละเรือ โอกาสจบท็อปโฟร์ที่เลือนลางมัดรวม 5 นักเตะเป้าหมายลิเวอร์พูล ไล่ล่าความสำเร็จในพรีเมียร์ลีกรู้จัก "เจา โกเมส (Jao Gomes)" มิดฟิลด์เนื้อหอม ที่หมายตาของ Liverpoolเคริดตภาพปก twitter.com/LFC :: ภาพที่ 1 , ภาพที่ 3 , twitter.com/ManUtd :: ภาพที่ 3เครดิตภาพประกอบ ภาพที่ 1 ผู้เขียน , twitter.com/LFC :: ภาพที่ 3 , ภาพที่ 6 , ภาพที่ 8 , twitter.com/ManUtd :: ภาพที่ 2 , ภาพที่ 4 , ภาพที่ 5 , ภาพที่ 7 ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !